หลักการออกแบบช่องเปิดที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมในงานสถาปัตยกรรม (Openings in space defining elements in Architectural design)

ในงานสถาปัตยกรรม ช่องเปิดอาคารถือเป็นส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นช่องเปิดประเภทประตู หน้าต่าง หรือหลังคาโปร่งแสง ช่องเปิดทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมของการใช้งานภายในห้อง หน้าต่างช่วยให้แสงส่องเข้ามาในพื้นที่ และส่องสว่างพื้นผิวของห้อง ทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างห้องกับพื้นที่ภายนอก และช่วยระบายอากาศตามธรรมชาติ และวันนี้  Wazzadu Encyclopedia ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหลักการออกแบบช่องเปิดที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นประเภทช่องเปิด รูปแบบการจัดช่องเปิด และการใช้งานให้เหมาะสมของแต่ละรูปแบบ ติดตามที่บทความนี้ได้เลยครับ...

ประเภทช่องเปิดส่งผลต่อสภาพแวดล้อมในงานสถาปัตยกรรม

ประเภทที่ 1 ช่องเปิดภายในแปลน (Within Planes)

ช่องเปิดลักษณะนี้สามารถตั้งอยู่ได้ ทั้งในผนัง และเพดาน รอบ ๆ พื้นผิวบนแปลน มักจะวางช่องเปิดไว้กึ่งกลางของผนัง หรือเพดาน จะทำให้ความรู้สึกมั่นคง เป็นระเบียบ และลดความตึงเครียดทางสายตา รูปร่างของช่องเปิด อาจะเป็นรูปทรงสีเหลี่ยม มีทิศทางการเปิดที่แตกต่าง หรือเป็นรูปทรงอื่น ๆ เพื่อเน้นส่วนผนังหรือเพดานให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ช่องเปิดหลายช่องอาจถูกจัดกลุ่มเพื่อสร้างองค์ประกอบที่เป็นหนึ่งเดียวภายในแปลน จัดเรียงกันเป็นแถว หรือขยับขึ้น-ลง เพื่อสร้างการเคลื่อนไหวที่มองเห็นได้

รูปแบบการจัดช่องเปิด

  • ช่องเปิดภายในแปลนแบบจุดกึ่งกลาง (Centered) เน้นการจัดกึ่งกลางผนังให้ความรู้สึกมั่นคง
  • ช่องเปิดภายในแปลนแบบนอกจุดกึ่งกลาง (Off-center) ยังคงอยู่กึ่งกลางผนัง แต่ขยับชิดซ้ายหรือขวา เพื่อตอบสนองตามความต้องการของผู้ใช้
  • ช่องเปิดภายในแปลนแบบจัดกลุ่ม (Grouped)  การจัดช่องเปิดเป็นกลุ่มเน้นความสมมาตร เป็นรูปแบบเดียวกัน
  • ช่องเปิดภายในแปลนแบบบานลึก (Deep-set)  เหมาะกับผนังที่มีแสงเข้ามาค่อนข้างมาก ทำช่องเปิดให้ลึกขึ้น เพื่อลดแสงที่เข้ามาภายในห้อง
  • ช่องเปิดภายในแปลนแบบรับแสงบนเพดาน (Skylight) ช่องเปิดบนเพดาน เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงธรรมชาติ ใช้ในเวลากลางวัน หรือต้องการระบายอากาศ

ประเภทที่ 2 ช่องเปิดบริเวณมุมอาคาร (At corners)

ช่องเปิดลักษณะนี้สามารถตั้งอยู่บริเวณขอบมุมใดมุมหนึ่งของผนัง หรือเพดาน โดยช่องเปิดลักษณะนี้จะเป็นการเพิ่มแสงสว่างในมุมมืด หรือต้องการให้แสงเข้าทางมุมนั้นเพียงมุมเดียว การเปิดช่องให้แสงเข้ามาลักษณะนี้จะช่วยทำให้ภายในห้องดูสว่าง และทำให้เห็นมุมห้องน้อยลง ยิ่งช่องเปิดกว้างมากเท่าไหร่ ห้องก็จะดูกว้างมากขึ้นเท่านั้น

รูปแบบการจัดช่องเปิด

  • ช่องเปิดบริเวณมุมอาคารแบบขอบด้านเดียว (Along one edge) เป็นการวางช่องเปิดชิดขอบมุมใดมุมหนึ่งของผนัง เพื่อจำกัดแสงสว่าง ให้เข้ามาในปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของผู้ใช้
  • ช่องเปิดบริเวณมุมอาคารแบบมุมผนัง (In a corner) การจัดวางชิดขอบมุมบนของผนัง เพื่อลดแสงที่เข้ามาในห้อง เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงเพียงเล็กน้อย
  • ช่องเปิดบริเวณมุมอาคารแบบหมุนตามมุมผนัง (Turning a corner) เป็นการจัดกลุ่มช่องเปิดรูปแบบเดียวกัน ชิดขอบมุมห้อง ทำให้บริเวณนั้นได้รับแสงมากยิ่งขึ้น
  • ช่องเปิดบริเวณมุมอาคารแบบจัดกลุ่ม (Grouped) การจัดกลุ่มช่องเป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ทำให้รูปด้านอาคารมีความโดดเด่นมากขึ้น
  • ช่องเปิดบริเวณมุมอาคารแบบรับแสงบนเพดาน (Skylight) การทำช่องเปิดเพดานเพียงมุมใดมุมหนึ่ง เพื่อจำกัดแสงสว่าง หรือเปิดเฉพาะพื้นที่ ที่ต้องการแสงสว่างมากขึ้น

ประเภทที่ 3 ช่องเปิดระหว่างแปลน (Between planes)

ช่องเปิดลักษณะนี้สามารถขยายได้ทั้งแนวตั้งระหว่างพื้นกับเพดาน หรือในแนวนอนระหว่างผนังกับผนังได้ และสามารถขยายครอบคลุมผนังทั้งหมด การวางช่องเปิดลักษณะนี้จะช่วยทำให้ไม่เกิดมุมมืดภายในห้อง เหมาะกับห้องที่มืดรับแสงได้น้อย และต้องการแสงสว่าง หรือห้องที่ต้องการเห็นวิวภายนอก ช่องเปิดลักษณะนี้จะทำให้ภายในห้อง และภายนอกเชื่อมต่อกัน ห้องกว้างขึ้น และทำให้ภายในห้องโปร่ง

รูปแบบการจัดช่องเปิด

  • ช่องเปิดระหว่างแปลนแบบเต็มบานแนวตั้ง (Vertical) การทำช่องเปิดด้านใดด้านหนึ่งทั้งผนังในแนวตั้ง ทำให้ได้รับแสงสว่าง และยังมองเห็นภายนอกได้มากขึ้น
  •  ช่องเปิดระหว่างแปลนแบบเต็มบานแนวนอน (Horizontal) ช่องเปิดยาวทั้งผนังในแนวนอน เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างจากภายนอกเพียงด้านบน หรือด้านล่างไม่ต้องการวิวภายนอก
  • ช่องเปิดระหว่างแปลนแบบสามในสี่ส่วนของผนัง (Three-quarter opening) ช่องเปิดสามในสี่ส่วนของผนัง เว้นระยะขอบไว้ อาจเพื่อเป็นราวกันตก หรือไม่ต้องการช่องเปิดทั้งผืน
  • ช่องเปิดระหว่างแปลนแบบผนังหน้าต่าง (Window-wall) ช่องเปิดผนังทั้งผืน เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่าง และต้องการเห็นวิวภายนอก ช่องเปิดลักษณะนี้จะช่วยทำให้ห้องดูกว้าง และโปร่งขึ้น
  • ช่องเปิดระหว่างแปลนแบบรับแสงบนเพดาน (Skylight) ช่องเปิดเพดานยาวทั้งเพดาน แต่เปิดเพียงด้านใดด้านหนึ่งทำให้ห้องได้รับแสงสว่าง และระบายอากาศได้ดีขึ้น

องค์ความรู้ด้านวัสดุกระจก สำหรับงานผนังช่องเปิด และฟาซาดอาคาร

องค์ความรู้ด้านการออกแบบผนัง และฟาซาดกระจก

องค์ความรู้ด้านหน้าต่างแต่ละประเภท

เขียน และเรียบเรียงโดย Wazzadu Encyclopedia

อ้างอิงข้อมูลจาก

Architecture : Form, Space, & Order 4th Edition by Francis D. K. Ching

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
หน้าต่างในงานสถาปัตยกรรม (Window type in architecture)

ไอเดียมาใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ