ความแตกต่างระหว่าง Greenfield กับ Brownfield คืออะไร (What’s the Difference Between Greenfield vs. Brownfields?)

Greenfield กับ Brownfield คืออะไร เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอย่างไร ?

เมือง ขยายตัวตามจำนวนประชากรและโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเมืองจึงเป็นได้ทั้งการพัฒนาที่ดินเปล่าและที่ดินที่เคยผ่านการใช้งานมาอยู่ก่อนแล้ว การเลือกพื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่สีน้ำตาลถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักลงทุนและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มักจะต้องเผชิญกับสองตัวเลือกนี้

เพราะไม่เพียงแค่เรื่องงบประมาณ แต่รวมไปถึงระยะเวลาดำเนินการ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ อาจแตกต่างกันอย่างมากระหว่างโครงการกรีนฟิลด์และบราวน์ฟิลด์ ทั้งสองไซต์นี้ต่างกันอย่างไร วันนี้ Wazzadu Encyclopedia จะพาไปรู้จักกันครับ

พื้นที่สีเขียว (Greenfield)

คือ ที่ดินว่างเปล่าภายในเขตที่ดินเดิม มักตั้งอยู่ในหรือนอกเมืองและอยู่บนที่ดินเกษตรกรรม ไซต์กรีนฟิลด์มักถูกซื้อเพื่อใช้ในโรงงานผลิตหรือโครงการเชิงพาณิชย์เนื่องจากก่อสร้างได้ง่าย

ข้อดีของพื้นที่สีเขียว

▪️ มีความยืดหยุ่นในการออกแบบมากกว่า สำหรับความต้องการของโครงการที่แตกต่างกันไป

▪️ พื้นที่เหลือสำหรับการขยายตัวในอนาคต

▪️ โดยทั่วไปแล้วจะมีระยะเวลาการก่อสร้างที่เร็วกว่า

ข้อเสียของพื้นที่สีเขียว

▪️ ส่วนใหญ่พื้นที่ประเภทนี้จะอยู่ไกลออกจากเมืองไป 

▪️ ใช้เวลานานในการเดินทางไปยังพื้นที่

▪️ ต้องเริ่มก่อสร้างใหม่ทั้งหมด 

▪️ บางครั้งถูกมองว่าไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีการรุกรานพื้นที่สีเขียว
 

พื้นที่สีน้ำตาล (Brownfield)

คือ พื้นที่ถูกทอดทิ้งไม่ได้ใช้งาน ซึ่งรวมไปถึงที่ว่าง ที่ดินรกร้างไม่ได้มีการใช้ประโยชน์ หรือพื้นที่ที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้วในเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมเมืองมีมลภาวะจากการทิ้งร้างของพื้นที่ดังกล่าว อาจมีอาคารหรือไม่มีอาคารดั้งเดิมอยู่ก็ได้ แต่ยังคงเป็นพื้นที่ที่สามารถพัฒนาใหม่ให้มีศักยภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้

ในสหรัฐอเมริกาพื้นที่สีน้ำตาล (Brownfield) อาจเป็นที่ดินที่อาจปนเปื้อนของเสีย หรือมลพิษที่ไม่เข้มข้นมากนัก และเป็นที่ดินที่มีศักยภาพที่จะนำกลับมาใช้ใหม่ หลังจากทำความสะอาดแล้ว ส่วนในอังกฤษพื้นที่สีน้ำตาล หมายถึง ที่ดินหรือทรัพย์สินที่ว่างเปล่าหรือถูกทอดทิ้ง ซึ่งมักจะมีลักษณะเป็นอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือที่อยู่อาศัยก็ได้

ข้อดีของพื้นที่สีน้ำตาล

▪️ มีศักยภาพในการเป็นพื้นที่สำหรับให้เมืองขยายตัว

▪️ การขยายตัวของเมืองไม่ทำลายพื้นที่สีเขียว

▪️ ปรับปรุงพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองให้เกิดประโยชน์และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พลเมือง

▪️ อาจมีโครงสร้างพื้นฐานบางอย่างที่ยังใช้งานได้

▪️ ดีต่อภาพลักษณ์แบรนด์ของบริษัทเนื่องจากนำพื้นที่มาใช้ประโยชน์โดยที่ไม่ทำลายธรรมชาติ

ข้อเสียของพื้นที่สีน้ำตาล

▪️ อาจมีองค์ประกอบที่เป็นพิษบนไซต์ซึ่งทำให้การพัฒนามีความท้าทายมากขึ้น

▪️ โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาก่อสร้างนานกว่า

▪️ โครงสร้างเก่าไม่เป็นไปตามกฎหมายอาคารและข้อกำหนดโครงสร้างสมัยใหม่เสมอไป

▪️ การพัฒนาที่ไม่คาดคิดมีความเสี่ยงที่จะเกินต้นทุน

▪️ พวกเขามีพื้นที่จำกัดสำหรับการเติบโตและการก่อสร้างที่ช้าลงเนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ที่อาจเกิดขึ้น

โดยสรุปแล้ว คือ Greenfield เหมาะสำหรับโครงการที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงและสร้างใหม่ทั้งหมด ส่วน Brownfield เหมาะกับโครงการที่ต้องการต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่เพื่อลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนา