ออกแบบทิศทางลมในบ้านอย่างไร ? ให้อากาศถ่ายเท ห่างไกลจากเชื้อโควิด 19 (Wind Direction House Design)

อย่างที่เราทราบกันว่าเชื้อโรคโควิด-19 สามารถติดจากสารคัดหลั่ง ไม่ว่าจะเป็นจามหรือไอเพียงครั้งเดียวไวรัสก็แพร่กระจายได้ และเมื่อไม่มีอากาศบริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่ในห้องอย่างเพียงพอ จะเพิ่มโอกาสให้คุณได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาหรือเชื้อโรคโควิด-19 ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น วันนี้ Wazzadu จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบทิศทางลมของบ้าน เพื่อให้อากาศปลอดโปร่งและถ่ายเท ช่วยเจือจางอากาศที่อาจมีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้อยู่อาศัยในบ้านอาจจะติดเชื้อได้ อีกทั้งยังช่วยให้บ้านเย็นสบายเหมาะสำหรับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยอีกด้วย ติดตามจากบทความนี้ได้เลยครับ...

ทิศของลมและฝน

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ค่อนข้างฝนตกบ่อย ช่วงเดือนที่เป็นช่วงของฤดูฝนคือเดือนพฤษภาคม กรกฎาคม และสิ้นสุดในเดือนตุลาคม นอกเหนือจากเดือนเหล่านี้ก็จะมีฝนตกบ้างประปราย ทิศที่มักจะถูกฝนสาดมากที่สุดก็คือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นฤดูฝนซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

 โดยมีทิศทางลมประจำถิ่นดังนี้

• ช่วงกลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์ มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดพาอากาศหนาวมา
• ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงลมเปลี่ยนทิศจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
• ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดพาฝนและความชื้นมา

ห้องนอน ควรตั้งอยู่ทางทิศเหนือ

ทิศเหนือเป็นทิศที่รับแสงแดดของช่วงเวลาประมาณ 6.30 น. – 9.00 น. เป็นแดดอ่อนๆ ที่ไม่ร้อนมาก ดังนั้น จึงเหมาะกับการเป็นตำแหน่งของห้องนอน เพราะเมื่อตื่นตอนเช้าจะสามารถรับแสงแดดตอนเช้าซึ่งมีวิตามินดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับแสงแดดจะทำการสังเคราะห์วิตามินดี ออกมา ช่วยเสริมสร้างแคลเซียมที่จำเป็นต่อกระดูกและฟัน อีกทั้งเมื่อถึงช่วงที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมทิศใต้ ห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะไม่สะสมความร้อน ส่งผลให้หลับสบายในเวลากลางคืน และเมื่อถึงฤดูหนาว ทิศนี้จะได้รับลมหนาวที่มีความเย็นโชยมาอีกด้วย

ห้องรับแขกและห้องทำงาน ควรตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

คทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทิศที่รับแสงแดดในช่วงสาย ซึ่งก็ถือว่าเป็นแดดที่ยังไม่ร้อนจนเกินไป อีกทั้งเมื่อถึงช่วงบ่ายที่แดดแรงที่สุดของวัน ทิศนี้จะเป็นทิศที่ได้รับอิทธิพลของแดดช่วงบ่ายน้อย จึงทำให้สบายพักผ่อนในโซนนี้ได้ตลอดทั้งวัน หากพื้นที่ส่วนนี้เหลือ อาจจะเพิ่มพื้นที่สำหรับทำงานด้วยก็ได้ และติดตั้งบานประตูหรือหน้าต่างที่สามารถเปิดรับลมที่ทะลุผ่านถึงกัน ทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเท ลดการสะสมของเชื้อโรค

ห้องรับประทานอาหาร ควรตั้งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นทิศที่รับลมจากทางทิศใต้ ดังนั้น เมื่อตำแหน่งห้องรับประทานอาหารอยู่โซนนี้ ก็จะได้รับลมจากทางทิศใต้ได้อย่างเต็มที่ แต่โดยปกติแล้วเราอาจจะไม่ได้ใช้ห้องรับประทานอาหารบ่อยนัก จึงแนะนำให้เปิดพื้นที่ส่วนห้องรับประทานอาหารและห้องรับแขกให้เชื่อมถึงกัน โดยไม่ต้องกั้นกำแพง เพื่อให้พื้นที่ดูโปร่งโล่ง และลมจากทางทิศใต้ที่พัดผ่านหน้าต่างของห้องรับประทานอาหารเข้ามา ยังสามารถเชื่อมต่อไปถึงห้องรับแขกเพิ่มความเย็นและอากาศถ่ายเทได้อีกด้วย

พื้นที่สวน และโถงทางเข้าบ้าน ควรอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้หรือทิศใต้

ทิศตะวันออกเฉียงใต้หรือทิศใต้ เป็นทิศทางที่ได้รับอิทธิพลของลมจากทิศใต้ ดังนั้น หากบริเวณพื้นที่สวนปลูกต้นไม้หรือมีสวนและบ่อน้ำ จะทำให้ลมที่ผ่านทางนี้ พัดเอาอากาศบริสุทธิ๋สดชื่นเข้าไปในบ้านได้ อีกทั้งยังช่วยกรองแสง ให้แสงที่เข้าบ้านเป็นแสงอ่อนๆ บ้านจะเย็นมากขึ้น แต่ควรระวังเรื่องต้นไม้ที่ใหญ่และอยู่ใกล้กับประตูหรือหน้าต่างของบ้านมากจนเกินไป ก็อาจจะบังลมได้เช่นกัน

ที่จอดรถและห้องเก็บของ ควรอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดที่ค่อนข้างแรงในช่วงบ่าย ดังนั้น ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน จึงเหมาะกับการเป็นตำแหน่งของห้องเก็บของหรือโรงจอดรถ เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานมากนัก และที่สำคัญคือห้องเก็บของที่อยู่ตำแหน่งนี้ จะช่วยเป็นโซนที่กั้นความร้อนบางส่วน ไม่ให้เข้าไปถึงห้องอื่นๆ ในบ้านที่ใช้งานมากกว่า แต่ก็ควรติดตั้งบานหน้าต่างเพื่อการระบายอากาศและติดตั้งชายคาเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ห้องครัว/ส่วนซักล้าง/ห้องน้ำ ควรตั้งไว้ทางทิศตะวันตก

ทิศตะวันตกเป็นทิศที่ได้รับอิทธิพลของแดดช่วงบ่ายแก่ๆ ไปจนถึงเย็น ดังนั้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นส่วนซักล้างหรือตากผ้า เพราะแสงแดดช่วงนี้จะช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำให้ผ้าไม่เหม็นอับ ซึ่งพื้นที่ส่วนซักล้าง อาจจะต่อเติมเพิ่มบริเวณหลังห้องครัว เพื่อให้ห้องครัวไม่ร้อนมากนัก แต่ข้อแนะนำคือควรที่จะติดตั้งชายคาเพิ่มเติม เพราะมีโอกาสที่ฝนจะสาดแรงได้เช่นกัน

ข้อสรุปคือ หากเราสร้างบ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้หรือตะวันตก จะมีโอกาสได้รับกระแสลมธรรมชาติได้ถึง 8 เดือนจาก 12 เดือน

ข้อดีของการออกแบบบ้านโดยให้ความสำคัญกับทิศทางลม

1. ทำให้อากาศถ่ายเท ลดความเสี่ยงของการสะสมเชื้อโรค เหมาะอย่างยิ่งกับช่วงที่เชื้อโรคโควิดกำลังระบาด เพราะเมื่อในบ้านอากาศถ่ายเท ก็มีโอกาสได้รับอากาศบริสุทธิ์มากขึ้น จะช่วยเจือจางอากาศที่อาจมีเชื้อปนเปื้อนอยู่ได้ และช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้อยู่ในอาคารจะติดเชื้อได้

2. ทำให้บ้านเย็นสบาย และปลอดโปร่ง การออกแบบบ้านโดยคำนึงถึงทิศทางของลม จะช่วยลดการสิ้นเปลืองค่าไฟและประหยัดพลังงาน เพราะเราใช้ประโยชน์จากกระแสลมที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติมาช่วยทำให้บ้านเย็นสบาย

ข้อมูลวัสดุศาสตร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

เขียน และเรียบเรียงโดย Wazzadu Encyclopedia

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก

• www.baanlaesuan.com
• https://www.ddproperty.com/
• https://www.bbc.com/