ไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) คืออะไร

อีกวัสดุที่ใช้แทนไม้จริงได้ โดยที่มีหน้าตาเหมือนกับไม้จริงมากที่สุดคือ “ไม้เอ็นจิเนียร์” ที่มีเลเยอร์ชั้นแรกเป็นผิวของไม้จริง ทำให้เมื่อมองเทียบกันแล้วระหว่างพื้นไม้เอ็นจิเนียร์กับพื้นไม้จริงจะแยกไม่ออก เพราะต่างเป็นพื้นผิวจากไม้ธรรมชาติ ต้องใช้วิธีแยกออกมาเป็นแผ่นถึงจะเห็นชั้นเลเยอร์ว่าเป็นไม้จริงทั้งแผ่นหรือมีเลเยอร์ชั้นต่างๆ ประกอบเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

ไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) คืออะไร :

“ไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood)” เป็นไม้ที่พัฒนาเรื่องคุณสมบัติและชั้นโครงสร้างของวัสดุเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ใช้ทรัพยากรของเนื้อไม้จริงที่ลดปริมาณลง สู่การขายสินค้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ภายใต้ราคาที่ถูกกว่าพื้นไม้จริง เนื่องด้วยราคาไม้จริงในตลาดนั้นค่อนข้างสูง ไม้เอ็นจิเนียร์จึงเป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนชอบ texture ของไม้จริงที่ต้องการประหยัดต้นทุนการออกแบบและตกแต่ง

รูปภาพประกอบจาก : https://www.archdaily.com

โดยทั่วไปแล้ว โครงสร้างของไม้เอ็นจิเนียร์จะมี 3 เลเยอร์หลักๆ คือ

  • ชั้นที่ 1 : เป็นชั้นผิวของไม้จริงที่เน้นความสวยงาม มีให้เลือกหลายชนิดซึ่งขึ้นอยู่กับว่าต้องการตกแต่งเป็นลายไม้ของชนิดไหน เช่น ลายไม้โอ๊ค ลายไม้สัก ลายไม้วอลนัท เป็นต้น ในชั้นเลเยอร์นี้ เนื้อไม้จะมีความหนาประมาณ 3 - 4 mm. และมีการทาเคลือบผิวให้พร้อมใช้งาน
  • ชั้นที่ 2 : เป็นไม้ชนิดไม้ยางพาราที่ฝานเป็นชิ้นเล็กๆ เรียงตัว 90 องศากับผิวหน้าไม้จริง และเว้นช่องไฟเล็กน้อย ทำเป็นไส้แกนกลางเพิ่มความแข็งแรงของพื้นไม้ โดยจะวางไม้คนละแนวกับชั้นแรกเพื่อให้โฟลของอากาศไหลผ่านแต่ละชั้นได้สะดวก ทำให้พื้นไม้มีการหดตัว-ขยายตัวที่ต่ำ ลดปัญหาเรื่องการติดตั้งที่ไม่เรียบร้อย
  • ชั้นที่ 3 : เป็นไม้ยางพาราหรือไม้ชนิดอื่นที่เอามาเสริมความแข็งแรงอีกชั้น เป็นแบบเต็มแผ่น

 

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 700 – 4,000 บาท / ตารางเมตร

รูปภาพประกอบจาก : https://www.rejuvenateproducts.com

คุณสมบัติต่างๆ ของไม้เอ็นจิเนียร์ :

ข้อดี

- มีลายไม้จากธรรมชาติที่สวยงามให้เลือกหลากหลายและสัมผัสได้ถึงผิวไม้จริง

- ชั้นบนสุดของพื้นไม้เคลือบผิวด้วย UV พร้อมใช้งาน จึงไม่ต้องขัดทำสี

- ไม่ทำให้เกิดฝุ่นไม้ เพราะไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม

- ใช้เวลาในการติดตั้งที่น้อยกว่ากับพื้นไม้จริง

 

ข้อเสีย

- ไม่ทนชื้น ไม่ทนน้ำ

- ไม่ทนทานต่อการขูดขีด

- หากเทียบกับพื้นไม้ชนิดอื่น จะมีราคาสูงกว่าพื้นไม้ลามิเนต

รูปภาพประกอบจาก : https://www.archdaily.com

การนำไม้เอ็นจิเนียร์ไปใช้งาน :

ส่วนใหญ่แล้วไม้เอ็นจิเนียร์มักใช้ตกแต่งพื้นเป็นหลัก เหมาะกับการตกแต่งพื้นที่ภายในอาคารและต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่ใกล้กับบริเวณที่มีความชื้นสะสมหรือพื้นที่ที่อาจโดนน้ำอยู่บ่อยๆ อย่างห้องครัวและห้องน้ำ ห้องที่สามารถใช้ตกแต่งได้ คือ ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องนอน และบริเวณทางเดินภายในอาคารที่ต้องการเพิ่มบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

อ้างอิงโดย :

https://www.doublefloor.co.th/พื้นไม้เอ็นจีเนีย-คือ/#:~:text=พื้นไม้เอ็นจิเนียร์%20หรือ%20Engineered%20Wood%20Flooring,ไม้เอ็นจิเนียร์

https://www.youtube.com/watch?v=xNWnHU72GII

https://propholic.com/prop-talk/ไขข้อข้องใจ-เจาะลึกวัส

 

อ้างอิงรูปประกอบ :

https://www.archdaily.com

https://www.rejuvenateproducts.com

ข้อมูล Wazzadu Encyclopedia อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับไม้

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

ไอเดียมาใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ