แค่เลือกสีให้ถูก ก็ได้ใจไปเต็มๆ เพราะ ฟิล์มสีตกแต่งภายใน ส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ใช้งานในเชิงจิตวิทยา!

ว่ากันว่า บรรยากาศมีส่วนสำคัญในการกำหนดอารมณ์และความรู้สึกของคนเราเป็นอย่างมาก โดยส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศก็คงหนีไม่พ้น “สี” เมื่อพิจารณาคำกล่าวนี้ในแง่ของจิตวิทยาแล้วนับว่าน่าสนใจไม่น้อย เมื่อสี ส่งผลต่อจิตใจหรือแม้กระทั่งฮอร์โมนของคนเรา นักออกแบบส่วนใหญ่จึงเลือกใช้สีสร้างบรรยากาศ สร้างเรื่องราวให้งานออกแบบของตนในแง่ต่างๆ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปพบกับ การเลือกใช้สี และฟิล์มสีตกแต่งภายใน เพื่อสร้างบรรยากาศในหลากหลาย Mood and Tone

เริ่มด้วย สีโทนร้อน (Warm Color) เช่น สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีม่วงแดง ซึ่งหากเป็นโทนสีสดหรือสีเข้มจะช่วยกระตุ้นความสดใส เพิ่มความสดชื่น ตื่นตัว มีชีวิตชีวา และกระตือรือร้น รวมทั้งช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร จึงเหมาะกับการตกแต่งร้านอาหาร ห้องนั่งเล่น พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมสำหรับเด็ก ฯลฯ หากเลือกใช้ฟิล์มตกแต่งโทนสีนี้ภายในฟิตเนส และห้องออกกำลังกาย ก็จะช่วยกระตุ้นพลังงานได้เช่นกัน

การเลือกใช้สีเหลืองสดใส เพิ่มความตื่นตัวให้กับชั่วโมงการทำงาน นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับ Co-working Space ที่นิยมสร้างบรรยากาศในการเรียนหรือการทำงานให้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เมื่อใช้ ฟิล์มตกแต่งสีเหลือง B 1204 ช่วยเพิ่มสีสัน จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นได้เป็นอย่างดี แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ควรใช้ในสัดส่วนที่มากเกินไปเพราะอาจทำให้เสียสมาธิได้ง่าย หากเลี่ยงมาใช้สีโทนร้อนที่มีสีอ่อน เช่น สีเหลืองอ่อน สีโอลด์โรส หรือสีพีช จะเพิ่มความสบายตา และให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่า แต่จะไม่เพิ่มความสดชื่นและตื่นตัวเท่ากับโทนสีเข้ม

สีโทนเย็น (Cool Color) เช่น สีเขียว สีฟ้า สีน้ำเงิน สีม่วงอ่อน เป็นสีที่ให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย สดชื่น สบายตา รวมทั้งให้ความรู้สึกสงบ เหมาะกับการใช้งานภายในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องน้ำ ซึ่งนอกจากความผ่อนคลายแล้ว สีโทนนี้ยังให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ช่วยลดความเครียดลงได้ สีเขียวจึงเป็นสีที่นิยมใช้ในการตกแต่งห้องทำงาน หรือห้องเรียน แต่หากเป็นสีโทนเย็นที่ค่อนข้างเข้ม เช่น สีน้ำเงินเข้ม จะให้ความรู้สึกสุขุม มีสมาธิ จึงแนะนำให้ใช้กับห้องทำงานนั่นเอง

สีกลาง (Neutral Color) เช่น สีขาว สีน้ำตาล สีเบจ สีครีม สีดำ สีเทา เป็นโทนสีกลางๆ ที่ใช้ตกแต่งห้องได้หลากหลายจุดประสงค์ ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายตา แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปแมทช์กับสีโทนใด หรือใช้สีใดเป็นสีหลักภายในห้อง เพราะจะก่อให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เช่น หากใช้สีดำเป็นหลัก จะให้ความรู้สึกลึกลับ แข็งแกร่ง เป็นส่วนตัวและเงียบสงบ นิยมใช้กับห้องประชุม ห้องนอน หรือห้องทำงาน แต่เมื่อเลือกใช้สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม ก็ควรใช้สีโทนอ่อนมาตัดกัน เพื่อไม่ให้ห้องดูทึบ หรือแคบจนเกินไป โดยการใช้ ฟิล์มตกแต่งสีดำ B 1170 เพื่อกั้นพื้นที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ทำงานในออฟฟิศก็นับว่าได้รับความนิยมเช่นกัน

สีพาสเทล (Pastel Color) คือ การนำสีในวรรณะต่างๆ มาผสมเข้ากับสีขาว ช่วยลดทอนความเข้มของสีเพื่อให้ดูซอฟต์ลง ให้อารมณ์อ่อนหวาน โรแมนติก เช่น สีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน สีเขียวมินต์ สีม่วงอ่อน นอกจากจะดูอ่อนหวาน ให้อารมณ์ผ่อนคลาย นุ่มนวล สบายตาแล้ว ยังส่งผลให้รู้สึกคิดบวก เป็นมิตรกับคนรอบข้าง ไม่เร่งเร้าอารมณ์ ช่วยให้รู้สึกสงบ ใจเย็น เพิ่มพลังบวกและเพิ่มความสดใส เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับพื้นที่ที่ต้องการสร้างความผ่อนคลาย เช่น ร้านอาหารริมทะเล รีสอร์ต หรือร้านกาแฟ เป็นต้น 

การเลือกใช้สีสำหรับตกแต่งภายในให้สอดคล้องกับความต้องการและอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้งานนับว่ามีส่วนสำคัญดังที่ได้กล่าวไป โดยเฉพาะกับพื้นที่สาธารณะที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากการเลือกใช้สีให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานในสถานที่นั้นๆ อาจช่วยดึงดูดผู้ใช้งานให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นได้เช่นกัน

การสร้างสีสันให้สเปซด้วยฟิล์มตกแต่งภายใน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นิยมใช้กัน เพราะนอกจากจะช่วยกั้นพื้นที่ ให้ความเป็นส่วนตัวภายในอาคารได้แล้ว ยังช่วยในเรื่องความสวยงามได้อีกด้วย โดยฟิล์มตกแต่งภายในรุ่น Imagine เป็นวัสดุตกแต่งที่อยากแนะนำ เพราะสามารถตกแต่งกระจกให้มีสีสันและเพิ่มลูกเล่นได้ด้วยการตัดลาย อีกทั้งยังไม่ทิ้งคราบกาวติดกระจก แผ่นฟิล์มไม่ยืดหดตัวง่ายเมื่อถูกความร้อนเช่นเดียวกับการติดสติกเกอร์ และยังช่วยป้องกันรังสียูวี ช่วยลดความร้อนได้อีกด้วย  

ตัวอย่างสินค้าเทียบเคียง

ติดต่อสอบถาม และกรอกข้อมูล Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้ 

www.wazzadu.com/page/smarttec/contact

#Wazzadu #Smarttec #ฟิล์มตกแต่งภายใน #ฟิล์มอาคาร #ฟิล์มติดอาคาร #ฟิล์มสีตกแต่งภายใน #ฟิล์มฝ้า #ฟิล์มตัดลาย #ฟิล์มลดความร้อน #ฟิล์มติดกระจก