บ้านอายุ 100 ปี หลังนี้ รอดจากไฟป่าฮาวายได้อย่างไร...?
ไฟป่าบนหมู่เกาะฮาวายนับเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงสุดในรอบ 100 ปี การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นปัจจัยให้เกิดไฟป่าบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติไฟป่าฮาวาย พุ่งสูงกว่า 114 รายแล้ว ส่วนอีก 800 ชีวิต ยังไม่ทราบชะตากรรม
แต่ท่ามกลางความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ได้มีภาพถ่ายทางอากาศที่แสดงให้เห็นถึงบ้านสีขาว หลังคาสีแดงติดริมทะเลหลังหนึ่งได้รอดพ้นจากเปลวเพลิงเพียงหลังเดียวในชุมชน ท่ามกลางเศษซากตอตะโกของบ้านหลังอื่นๆ ที่โดนไฟป่าเผาทำลายแทบทั้งหมด
บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในเมือง Lahaina บนเกาะ West Maui เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของหมู่เกาะฮาวาย เจ้าของบ้านคือครอบครัว Millikin ซึ่งพวกเขาได้เปิดเผยว่าบ้านหลังนี้มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว และพึ่งได้รีโนเวทปรับปรุงบ้านก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติไฟป่าได้ไม่นาน แต่ครอบครัว Millikin ก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะทำให้บ้านของพวกเขารอดจากไฟป่า
ซึ่งจริงๆ แล้วมีปัจจัยหลายข้อที่ส่งเสริมให้บ้านหลังนี้รอดจากภัยพิบัติไฟป่า วันนี้ InnovatorX จะไปเจาะปัจจัยสำคัญในแต่ละข้อกันครับ
1. รีโนเวทบ้านก่อนเกิดไฟป่าไม่นาน
ครอบครัว Millikin ได้รีโนเวทบ้านก่อนเกิดไฟป่าไม่นานนัก ทำให้พวกเขามีโอกาสจัดระเบียบบ้าน จัดของต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง ไม่มีของวางระเกะระกะ นั่นจึงกลายเป็นข้อดีที่จะช่วยลดโอกาสในการลามไฟภายในบริเวณบ้านของพวกเขาได้ บ้านหลังอื่นๆ ที่มีของวางกระจายอยู่ทั่วบริเวณบ้านจะทำให้ไฟลามอย่างรวดเร็ว เพราะสิ่งของเหล่านั้นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
ในขณะเดียวการการรีโนเวทบ้านในครั้งนี้ พวกวัสดุเก่าๆ เสื่อมสภาพการใช้งานแล้ว ก็ถูกปรับปรุงแทนที่ด้วยของใหม่ที่คุณสมบัติการใช้งานยังคงมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งวัสดุที่พวกเขาเปลี่ยนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยต่อต้านการลามไฟได้ โดยเฉพาะในส่วนวัสดุมุงหลังคา
2. จัดภูมิทัศน์ให้สะอาดเป็นระเบียบ
ครอบครัว Millikin ได้ตัดต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ บ้านออกบางส่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ปลวกขึ้นบ้าน และได้ตกแต่งวางหินไว้รอบ ๆ บ้าน ซึ่งนี่กลายเป็นข้อดี เพราะหินไม่ติดไฟ และการการตัดต้นไม้ ก็ช่วยลดโอกาสในการลามไฟได้มากพอสมควร
3. เปลี่ยนมาใช้วัสดุหลังคาที่มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ
พวกเขาได้เปลี่ยนวัสดุมุงหลังคา จากเดิมที่เคยใช้หลังคายางมะตอย (ติดไฟได้ง่าย) เปลี่ยนมาเป็นหลังคาที่ทำจากโลหะที่มีความหนามากขึ้น และนี่ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้บ้านของพวกเขารอดจากเปลวเพลิง เพราะในขณะที่เกิดเพลิงไหม้ ได้มีเศษไม้ และใบไม้ที่ติดไฟจำนวนมาก ลอยมาตกบนหลังคาบ้าน แต่หลังคาไม่ลามไฟ
แต่ถ้าหากไฟป่าเกิดขึ้นก่อนที่ครอบครัว Millikin จะรีโนเวทเปลี่ยนหลังคายางมะตอย มาใช้เป็นหลังคาโลหะแทน บ้านของพวกเขาคงกลายเป็นตอตะโก ไม่ต่างจากบ้านของเพื่อนบ้านที่ใช้หลังคายางมะตอยที่ติดไฟได้ง่ายกว่า
4. ทำความสะอาด กำจัดใบไม้แห้ง
การที่พวกเขาทำความสะอาด และกำจัดเศษซากใบไม้แห้งที่อยู่รอบๆ บริเวณบ้าน ทำให้โอกาสในการลามไฟเข้าสู่ตัวบ้านมีน้อยลง เพราะใบไม้แห้งเป็นวัตถุดิบที่เป็นเชื้อไฟได้
5. มีพื้นที่ว่างรอบๆบ้าน เป็นแนวกันไฟ
บ้านของพวกเขาไม่ติดกับบ้านหลังอื่นๆ มากจนเกินไป โดยอยู่ห่างจากบ้านข้างเคียงไม่น้อยกว่า 6 เมตร ในขณะที่บ้านหลังอื่นๆ จะห่างกัน 3-5 เมตร ด้านหนึ่งของบ้านก็ติดกับถนน และอีกด้านติดพื้นที่ว่าง จึงทำให้มีแนวกันไฟที่ช่วยได้ในระดับหนึ่ง
6. ความได้เปรียบของพื้นที่ตั้ง และปราการทางธรรมชาติ
พื้นที่บริเวณด้านหลังบ้านมีขอบเขตติดกับทะเล จึงเป็นปราการธรรมชาติที่ช่วยเป็นแนวกันไฟที่ดี ในขณะที่บ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ติดทะเลเหมือนกันแต่กลับโดนไฟไหม้ เพราะมีสาเหตุมาจากระยะห่างของบ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกันมากเกินไป จึงมีการลามจากบ้านหลังหนึ่งไปสู่อีกหลังหนึ่งได้ง่าย
อ้างอิง
https://people.com/100-year-old-wooden-house-still-standing-unscathed-after-maui-fires-7749860
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางฟีเจอร์ต่างๆดังนี้
Search - ค้นหา และจัดเก็บ ทั้งไอเดีย และสินค้า และบริการสำหรับการออกแบบตกแต่ง
Sourcing - จัดหาสินค้า และเปรียบเทียบราคาโดยการติดต่อ ผ่านแบรนด์ต่างๆ หรือบริการในแพลตฟอร์ม
Spec - เครื่องมือสเปคข้อมูลวัสดุ โดยแสดงข้อมูลเพื่อการออกแบบ เปรียบเทียบคุณสมบัติเชิงลึก ทั้งการติดตั้ง ขนาด ราคา และรีวิวการใช้งาน
แบรนด์ / ผู้จัดจำหน่ายสามารถเปิดโปรไฟล์ และอัพโหลดสินค้าได้ฟรี
ติดต่อเราที่ 02-714-0454
Email: contact@wazzadu.com ... อ่านเพิ่มเติม