Bio-Concrete คอนกรีตชีวภาพที่ทำมาจากวัชพืช และเปลือกกุ้ง

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีการนำเข้าพืช และสัตว์สายพันธุ์ต่างถิ่นเป็นจำนวนมาก บางสายพันธุ์ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม อาคาร สถาปัตยกรรมประเภทต่างๆ และสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทำให้พืช และสัตว์พื้นถิ่นเสียหายและตายเป็นจำนวนมาก จึงเกิดโครงการทำลายและลดจำการนำเข้าพืช และสัตว์สายพันธุ์ต่างถิ่นขึ้น 

แต่การกำจัดศัตรูต่อระบบนิเวศเหล่านี้ทำได้ยาก และสิ้นเปลืองงบประมาณมาก เนื่องจากมีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และกำจัดเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที

จึงเกิดโครงการที่จะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มมูลค่าเพื่อกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในการกำจัดต่อประชาชน และใช้ศัตรูต่อระบบนิเวศให้เกิดประโยชน์สูงสุดนี้ขึ้นมา

Bio-Concrete สามารถเคลือบพื้นผิวต่างๆ ได้หลายรูปแบบ

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

Brigitte Kock และ Irene Roca Moracia ผู้สำเร็จการศึกษาจาก Central Saint Martins ได้ร่วมมือกันคิดค้นและวิจัย กระเบื้องที่เหมือนคอนกรีตโดยพวกเขาเรียกมันว่า “Bio-Concrete” โดยกระเบื้อง Bio-Concrete ทำมาจากวัชพืช Japanese knotweed และเปลือกกุ้งเครย์ฟิช

ทั้งสองสิ่งนี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ไม่ใช่พันธุ์พื้นเมือง ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศ และเศรษฐกิจเป็นอย่างมากในสหราชอาณาจักร Kock และ Moracia คิดว่าการเพิ่มมูลค่าให้กับพวกมัน จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการกำจัด และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบัณฑิตศึกษา Maison/0 โดยกลุ่ม LVMH ซึ่งรวม Dior และ Louis Vuitton ไว้ในแบรนด์ต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับวัสดุก่อสร้างในปัจจุบันที่สามารถนำมาใช้ภายในร้านที่หรูหราได้

โดย Kock และ Moracia กำหนดเป้าหมายของโครงการนี้เพื่อแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดปัญหาการเพิ่มขึ้นของวัชพืชและสัตว์ที่ไม่ใช่สายพันธุ์พื้นเมือง

วัสดุสามารถเลียนแบบพื้นผิวธรรมชาติของหิน

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

นักวิจัยทั้งสองมองหาเป้าหมายที่เป็นสิ่งมีชีวิตรุกรานระบบนิเวศ ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก จึงเลือกใช้นอตวีดญี่ปุ่น และกุ้งเครย์ฟิช

นอตวีดญี่ปุ่นเปิดตัวในสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1800 และไม่มีศัตรูตามธรรมชาติในประเทศ เมื่อปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการตรวจสอบ จึงสามารถเติบโตได้ผ่านคอนกรีต เกิดผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคารและถนน และสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศรวมถึงพืชพันธุ์อื่น ๆ

เช่นเดียวกันนับตั้งแต่เริ่มนำเข้าสหราชอาณาจักรในปี 1970 กุ้งเครย์ฟิชได้ทำลายประชากรกุ้งและกั้งพื้นเมือง และมีแนวโน้มที่จะขุดลงไปในแม่น้ำและตลิ่งของคลอง ส่งผลต่อคุณภาพน้ำในท้องถิ่น และอาจนำไปสู่น้ำท่วม รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานพังทลาย

วัสดุมีรูพรุนคล้ายผิวคอนกรีต

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

โดยกระบวนการแปรรูปเป็น Bio-Concrete นั้นคือ การนำนอตวีทที่ถูกเผาทำหน้าที่เป็นสารยึดเกาะ ผสมกับเปลือกกุ้งเครย์ฟิชบด ที่มีลักษณะเหมือนทรายผสมเข้ากับน้ำ และสารยึดเกาะอื่นๆ นำไปบ่ม ซึ่งจะทำให้วัสดุมีความแข็งแรง และลวดลาย สี ที่แตกต่างกัน

การเพิ่มชิ้นส่วนของรากนอตวีดสร้างพื้นผิวลายหินอ่อน

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

กระเบื้องคล้ายหินอ่อนสีขาว

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

Dark oxblood นี้เป็นสีที่เข้มที่สุดในคอลเลกชั่น

ภาพประกอบโดย

www.dezeen.com

สรุปประเด็นที่น่าสนใจของ Bio-Concrete คอนกรีตชีวภาพที่ทำมาจากวัชพืช และเปลือกกุ้ง

  1. Brigitte Kock และ Irene Roca Moracia ได้คิดค้นวัสดุชีวภาพที่ทำมาจากวัชพืช Japanese knotweed และเปลือกกุ้งเครย์ฟิช ซึ่งเป็นศัตรูต่อระบบนิเวศในสหราชอาณาจักร ออกมาเป็น Bio-Concrete โดยนำไปใช้ในงานสถาปัตยกรรม
  2. โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับวัสดุก่อสร้างในปัจจุบันที่สามารถนำมาใช้ภายในร้านที่หรูหราได้ โดยได้รับความร่วมมือจาก Dior และ Louis Vuitton
  3. โครงการนี้ทำให้เราเห็นว่าการปรับเปลี่ยนแนวคิด นำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแทนที่จะทำลาย สามารถช่วยลดงบประมาณ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ยังสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนอีกด้วย

อ้างอิงจาก 

www.dezeen.com

 

เรียบเรียงโดย Wazzadu Encyclopedia ซึ่งเป็นทีมวิจัย และพัฒนาความรู้ด้านการออกแบบ และวัสดุศาสตร์ทางด้านสถาปัตย์ฯ

อ่านเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Wazzadu Material and Design Innovation ได้ที่

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

ไอเดียมาใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ