เจาะรายละเอียดการรีโนเวทสนามฟุตบอลระดับโลก Santiago Bernabéu ของทีม Real Madrid มีเทคโนโลยีการออกแบบอะไรที่น่าสนใจบ้าง
Estadio Santiago Bernabéu สนามระดับตำนานของยอดทีมแห่งสเปน รีล มาดริด (Real Madrid) ได้รับการปรับโฉมใหม่ ซึ่งจะทำให้สนามแข่งแห่งนี้ยังคงเป็นสนามมาตรฐานระดับโลก ทั้งในแง่ของกีฬาและสถาปัตยกรรม
GMP Arquitectos และ L35 Ribas เป็นทีมที่ชนะการประกวดแบบ ซึ่งจะเข้ามาออกแบบ และควบคุมงานรีโนเวทครั้งใหญ่ของ Santiago Bernabéu งานปรับปรุงครั้งนี้จะทำให้สนามแห่งนี้มีความล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อีกทั้งยังมีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่พักผ่อน, ร้านอาหาร, สถานบันเทิง, โรงแรม, พิพิธภัณฑ์สโมสร, ระบบจัดเก็บพื้นสนามแบบมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงการนำเทคโนโลยี Interactive & Virtual-Reality มาสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี และแปลกใหม่ให้กับแฟนบอล
นอกจากนี้สนาม Santiago Bernabéu ในเวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่ ยังมีจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์สำคัญ และมีความน่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาชมกันเลยครับ
Facade Design
ความประทับใจแรกที่ผู้ชม หรือแฟนบอลจะได้พบเป็นจุดแรกเมื่อมาเยือน Santiago Bernabéu ก็คือ Facade รูปทรงโค้งมน ที่มีพื้นผิวมันวาว ซึ่งให้มิติการสะท้อนของแสง และเงาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในแต่ละช่วงของวัน นอกจากนี้ยังมีการใช้เส้นตรงมาออกแบบเป็น Pattern Element แบบไดนามิกล้อมรอบโครงสร้าง Facade ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายเส้นครีบที่ซ้อนทับกันอยู่ โดยเส้นครีบ Pattern Element แต่ละชั้นจะมีช่องว่างเล็กๆ ระหว่างรอยต่อ เพื่อให้มีอากาศใหลเวียน และเป็นจุดซ่อนไฟ Led สำหรับการออกแบบ Facade Lighting Design รวมไปถึง Led Screen Exterior ขนาดใหญ่ ในเวลากลางคืนระบบ Facade Lighting จะให้แสงสว่างที่นุ่มนวลในบริเวณด้านหน้าสนาม ซึ่งสีและความเข้มแสงจะมีความแตกต่างกัน
เรอัล มาดริด เจ้าของสนามได้เลือกวัสดุในการตกแต่ง Facade ซึ่งจะเป็นวัสดุที่สร้างเอกลักษณ์ความโดดเด่นให้กับตัวสนามได้ทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืน Facade ของสนามกีฬาแห่งใหม่จะเปล่งประกายแววาวด้วยชิ้นส่วน Facade ที่ทำจากวัสดุด้วยสแตนเลส จากบริษัท Acerinox ซึ่งได้พัฒนาพื้นผิวสแตนเลสขึ้นมาใหม่ โดยจะช่วยลดอัตราการสะท้อนของแสง ที่จะมีผลต่อผู้ใช้รถยนต์ที่สัญจรไปมาบนถนน และอาคารใกล้เคียง
Retractable Roof Design
Santiago Bernabéu ถูกออกแบบให้หลังคาสามารถเปิด-ปิดได้ โดยวัสดุหุ้มหลังคาชั้นนอกจะทำมาจากเมมเบรน หรือที่เรียกว่า PTFE เป็นหลัก ในส่วนภายนอกสุดของหลังคาจะมีชุดของระแนงอยู่ด้านบน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด ในขณะที่หลังคาด้านในสุดจะใช้วัสดุเมมเบรนโปร่งแสง ซึ่งทำให้เกิดความสมดุลระหว่างแสงธรรมชาติกับการป้องกันแสงอาทิตย์ในช่วงเวลากลางวัน
การที่หลังคาสนามถูกออกแบบให้สามารถเปิด-ปิดได้ตามความต้องการ จะช่วยให้สนามแห่งนี้สามารถใช้สำหรับเช่าจัดกิจกรรม หรือ Event ที่หลากหลายได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นช่องทางที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับสโมสรในฐานะเจ้าของสนาม
LED Screen Technology 360°
นอกจากหลังคาจะสามารถเปิด-ปิดได้แล้ว ภายใต้ขอบหลังคาด้านบน ยังถูกออกแบบให้มีจอแสดงผล LED Screen Technology ขนาดยักษ์ ที่ผู้ชมสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมในสนามได้อย่างชัดเจนแบบ 360°
Museum Extension
พิพิธภัณฑ์สโมสรที่ตั้งอยู่ภายในสนามแห่งนี้ ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ เพื่อให้มีขนาดที่ใหญ่ และล้ำสมัยมากขึ้น โดยจะมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณ Paseo de la Castellana พิพิธภัณฑ์ได้นำเทคโนโลยี Interactive และ Virtual-Reality มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของ User Journey Experiance ในการดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ และเกียรติยศความสำเร็จของสโมสรที่มีมากว่าศตวรรษในรูปแบบโลกเสมือน นอกจากนี้เส้นทางของพิพิธภัณฑ์ยังเชื่อมต่อกับเส้นทาง Stadium Tour ที่ใช้เยี่ยมชมสนามสำหรับนักท่องเที่ยวในมุมมองแบบพาโนรามา
Shopping Facilities
พื้นที่ศูนย์การค้าได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีเมกะสโตร์ของเรอัล มาดริด สองแห่งที่จะเปิดภายในคอมเพล็กซ์นี้ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวประสบการณ์ในการช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ ด้วยจุดขายที่นำระบบดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการจัดจำหน่ายสินค้ามากขึ้น
ภายในคอมเพล็กซ์แห่งนี้ จะมีแบรนด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อเป็นทางเลือกในการช็อปปิ้งให้กับแฟนบอล และนักท่องเที่ยว
Landscape Design
การปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบๆ สนาม ถูกออกแบบให้มีพื้นที่จัตุรัสขนาดใหญ่กว่า 20,000 ตร.ม. และจัตุรัสขนาดเล็กอีกแห่งที่มีขนาด 5,500 ตร.ม. และได้มีการปรับปรุงทางเท้ารอบๆสนาม รวมไปถึงระบบความปลอดภัยในการอพยพแฟนบอลทุกคนในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งสนามได้ถูกออกแบบให้มีทางเข้าออกเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มทางลาดสำหรับผู้พิการ บันไดเลื่อน และลิฟต์ ซึ่งจะทำให้การเดินทางในบริเวณสนามของแฟนบอลหรือนักท่องเที่ยวมีความสะดวกราบรื่นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการติดตั้งบันไดเลื่อนในตำแหน่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อที่จะนำพาแฟนบอล และนักท่องเที่ยวขึ้นไปยังจุดสูงสุดของสนาม ซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อน และเป็นจุดชมวิวสนามแบบพาโนรามา
Retractable Pitch Technology
ตอกย้ำความเป็นสุดยอดสนามฟุตบอล และสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ด้วยระบบจัดเก็บพื้นสนามหญ้าไว้ในอุโมงค์ใต้ดิน เพื่อเปลี่ยนพื้นสนามด้านบนให้กลายเป็นพื้นที่มัลติฟังก์ชั่นในการจัดกิจกรรม หรือ Event ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น งานจัดแสดงสินค้า, งานนิทรรศกาลในรูปแบบต่างๆ, งานคอนเสิร์ต, จัดแข่งเทนนิส, จัดแข่งอเมริกันฟุตบอล, จัดแข่งบาสเกตบอล, จัดแข่งรถในร่ม ฯลฯ
สำหรับกลไกการจัดเก็บพื้นสนาม จะใช้ระบบกลไกไฮดรอลิคในการเลื่อนเก็บ และยกพื้นสนามขึ้นลงจากอุโมงค์ใต้ดิน พื้นสนามหญ้าจะถูกซอยออกเป็นส่วนๆ ในลักษณะเป็นเฟรมเพลทยาวๆคล้ายไม้บรรทัดที่สามารถนำมาต่อกันได้
ภายในอุโมงค์ใต้ดินสำหรับเก็บเพลทพื้นสนามหญ้า จะมีระบบให้น้ำ ระบบหมุนเวียนอากาศ ระบบการให้แสงอาทิตย์จำลองเพื่อรักษาสภาพความสดของหญ้าที่ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมภายนอกมากที่สุด รวมไปถึงระบบบำรุงรักษาสุขภาพแผ่นหญ้าด้วยการใช้ Ultraviolet
ในส่วนงานก่อสร้างต่อเติม ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากกว่า 60% แล้ว (มีนาคม) ตัวโครงสร้างอาคารเดิมนั้นถูกสร้างด้วยคอนกรีตเป็นหลัก แต่ในการปรับปรุงครั้งใหม่ นอกจากโครงสร้างในส่วนฐานราก และพื้นอาคารแล้ว รูปแบบโครงสร้างเหล็ก (Steel Structure) ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในส่วนโครงสร้างเปลือกอาคาร (Facade) และโครงสร้างหลังคา (Retractable Roof) ที่จะต้องรองรับชิ้นส่วนหลังคาที่จะต้องเปิด-ปิด ได้ รวมไปถึงงานระบบ และงานตกแต่งปลีกย่อยอีกหลายจุด
ในโปรเจคนี้มีการเลือกใช้เหล็กหลากหลายประเภท สำหรับนำมาใช้ในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น เหล็กข้ออ้อย (สำหรับงานฐานรากคอนกรีต), ลวดเหล็กกล้าแรงดึงสูง (สำหรับคอนกรีตอัดแรง), เหล็กเอชบีม, เหล็กท่อกลม, เหล็กท่อเหลี่ยม, เหล็กท่อแบน, ท่อเหล็กสำหรับงานระบบสุขาภิบาล รวมไปถึงชิ้นส่วนโครงสร้างบางตำแหน่ง ที่จะต้องสั่งประกอบพิเศษตามแบบโดยเฉพาะ ซึ่งว่ากันว่าการรีโนเวทสนาม Estadio Santiago Bernabéu เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีการใช้เหล็กมากเป็นลำดับต้นๆ ของสเปนในช่วงเวลานี้เลยทีเดียว
รายละเอียดการออกแบบสถาปัตยกรรมโครงสร้างเหล็กอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ข้อมูลผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ ที่นิยมใช้ในงานสถาปัตยกรรม หรืองานก่อสร้าง
ถ้าหากท่านใดที่สนใจผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ
สำหรับนำไปใช้ในงานสถาปัตยกรรม หรืองานก่อสร้าง
สามารถสอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่ Cotco Call Center 02-285-2700
Website : www.cotcometalworks.co.th ,FB Page : Cotco Metal Works Ltd.
และ Line Official : https://lin.ee/pIUNkHc
ผู้เขียนบทความ
ผู้ผลิตท่อเหล็ก เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น และศูนย์บริการเหล็ก ... อ่านเพิ่มเติม