ข้อควรรู้เกี่ยวกับพื้นไม้ลามิเนต การติดตั้ง,ข้อดี-ข้อเสีย และข้อควรปฏิบัติที่สำคัญในการนำไปใช้งาน

มาพบกันอีกแล้ว กับ WAZZADU Material Review วันนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก และศึกษาข้อควรรู้ที่สำคัญของ พื้นไม้ลามมิเนต (Laminated Wood Flooring) อย่าง การติดตั้ง และข้อดี-ข้อเสียในการนำไปใช้งาน รวมถึงข้อควรปฏิบัติ และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเกี่ยวกับพื้นไม้ลามิเนตแบบละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักออกแบบ และผู้ที่ต้องการแต่งบ้าน เพื่อเป็นวัสดุทางเลือกอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะกับการนำไปตกแต่งพื้นบ้านของท่าน ให้มีความสวยงามลงตัว ด้วยผิวสัมผัสของวัสดุที่ให้กลิ่นอายของธรรมชาติ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาชมกันเลยครับ

คุณสมบัติและประโยชน์ในการนำไปใช้งาน

1. ทนต่อรอยขีดข่วน หรือกระทั่งกรงเล็บของสัตว์เลี้ยงของท่าน
2. ทนต่อแรงตกหรือกดกระแทก
3. ทนความร้อนของก้นบุหรี่ และคราบของนิโคตินสามารถเช็ดออกได้โดยง่าย
4. ไม่เป็นคราบ สามารถเช็ดออกได้ง่าย
5. สีและลายไม่ซีดจาง แม้จากการตากแดดโดยตรงก็ตาม
6. ดูแลรักษาความสะอาดง่าย และทนต่อน้ำยาทำความสะอาดต่างๆที่ใช้ภายใน บ้าน ไม่สามารถทำให้ผิวหน้าเป็นรอยได้
7. ปลอดภัยเนื่องจากพื้นลามิเนตไม่มีขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้สาร Dioxins จึงปลอดภัยต่อ สุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยพื้นผิวที่สะอาดถูกสุขอนามัยไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
8. แข็งแรงมาก แม้การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ทำให้เกิดรอย (สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำเมื่อวางของหนักๆบนพื้นก็คือใช้สักหลาดรองส่วนที่ สัมผัสกับพื้นเท่านั้นเอง)
9. ติดตั้งได้ง่ายและเร็ว สามารถติดตั้งทับบนพื้นเดิมได้เลย

ข้อควรปฏิบัติสำหรับการใช้งานพื้นไม้ลามิเนต

บอกได้ว่าพื้นไม้ลามิเนตนั้นไม่ต้องการการดูแลมาก แต่ก็มีบางสิ่งที่ควรจะนึกถึงไว้ก่อนที่จะเลือกซื้อ และควรนึกถึงเมื่อคุณได้ติดตั้งไปแล้ว ซึ่งประเด็นที่ควรพิจารณาก็มีดังนี้

1. คิดถึงสถานที่ที่คุณจะปูพื้น ตัดสินได้จากการเดินผ่านไปมาว่ามากน้อยขนาดไหนและระดับความชื้น เพื่อที่คุณจะสามารถตัดสินใจได้ว่าพื้นแบบไหนเหมาะที่สุด อย่าลืมเช็ค AC rating ด้วย

2. เลือกแผ่นรองที่สามารถป้องกันความชื้นที่มาจากใต้พื้นได้ 

3. อ่านคู่มือการติดตั้งอย่างละเอียด 

4. จ้างช่างมาถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะทำได้ 

5. ต้องมั่นใจว่าชั้นใต้พื้นได้ระดับ สะอาดและแห้ง 

6. เมื่อคุณปูพื้นไม้ลามิเนต คุณควรจะเว้นระยะห่างจากเส้นรอบวงของบริเวณที่คุณจะปูสัก 10 มม. ซึ่งรวมไปถึงการเว้นระยะห่างนี้ให้กับเครื่องเรือนหรือวัสดุที่เคลื่อนย้าย ไม่ได้ด้วย คุณควรเว้นไว้เพราะต้องเผื่อการขยายตัวด้วย เมื่อใช้ไปพื้นไม้ลามิเนตจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบ้าง 

7. เมื่อปูพี้นไม้ลามิเนตไปแล้ว ถ้าเกิดมีอะไรหกลงพื้นก็ควรทำความสะอาดอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน 

8. ใช้ไม้ม๊อบหมาดๆหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด 

9. ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วน 

10. ถ้าทำได้ก็ให้ยกเฟอร์นิเจอร์หนักๆอย่าลากไปตามพื้น 

11. นอกจากแผ่นรองขาแล้ว ให้ใช้ชิ้นผ้ารองเฟอร์นิเจอร์หนักๆใหญ่ๆก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมันบนพื้นลามิ เนตของคุณ ถ้ามันหนักมากก็อย่าลืมหาผู้ช่วยมาด้วย 

12. ถ้าห้องของคุณถูกแสงแดดโดยตรงก็ควรปิดผ้าม่านหรือที่บังแดดเพื่อลดโอกาสการเกิดสีซีดจาง

ข้อควรหลีกเลี่ยงสำหรับการใช้งานพื้นไม้ลามิเนต

1. การปูพื้นไม้ลามิเนตบนพื้นพรม 

2. ปูพื้นไม้ลามิเนตบริเวณที่ความชื้นสูง 

3. ปูทั้งๆที่แถวแรกมันเบี้ยว แถวแรกมีความสำคัญต่อการปูพื้นที่เหลือทั้งหมดมาก 

4. ใช้แว๊กซ์ น้ำยาขัดเงา หรือน้ำยาขัดพื้นทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต เพราะมันจะก่อความเสียหายได้ 

5. การเคลือบเงาหรือขัดพี้นไม้ลามิเนต 

6. ใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่ หรือน้ำยาขัดเงาต่างๆบนพื้นไม้ลามิเนต 

7. เดินบนพื้นไม้ลามิเนตขณะสวมรองเท้าส้นแหลม หรือรองเท้ากีฬาที่ปุ่มมีโลหะหรือเดือย 

8. ราดน้ำลงบนพื้นเพื่อทำความสะอาด นั่นอาจทำให้พื้นไม้ลามิเนตของคุณกลายเป็นลอนๆได้

ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต คือ สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้ส่วนมากพื้นไม้ลามิเนตหนึ่งแผ่น จะประกอบด้วยชั้นต่างๆ กัน3-4 ชั้น แล้วนำมาอัดด้วยแรงดัน และความร้อนสูงทำให้พื้นไม้แบบลามิเนต มีการพองและหดตัวน้อยกว่าไม้จริงหลายเท่า 

ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต คืออายุการใช้งานสั้นกว่าไม้จริง ไม่เหมาะสำหรับห้องที่มีความชื้นสูง และผิวสัผัสเวลาเดินไม่เหมือนไม้จริง

ขนาดของวัสดุพื้นไม้ลามิเนต : ขนาดหน้ากว้างของไม้ลามิเนตขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ว่าผลิตขนาดเท่าไหร่บ้าง ส่วนความหนาที่นิยมใช้มีขนาด 8 มิลลิเมตร และ 12 มิลลิเมตร

ราคาพื้นไม้ลามิเนต : โดยทั่วไปแล้วมักรวมราคาช่างเข้าไปด้วย ราคากลางจะอยู่ที่ 800 บาทต่อตารางเมตร ทั้งนี้ราคาอาจต่ำกว่าหรือสูงกว่าขึ้นอยู่กับหน้างานและช่างด้วย 

ตัวอย่างแบรนด์พื้นไม้ลามิเนต ที่สามารถหาได้ในท้องตลาดทั่วๆไป: KRONOTEX , LEOWOOD , ตราช้าง , INOVAR , HOFFEN ฯลฯ

ข้อปฏิบัติก่อนการติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring

1. ตรวจสอบความชื้นของพื้นก่อนการติดตั้ง

โดยถ้าบริเวณพื้นที่จะติดตั้งไม้พื้น เป็นการคอนกรีตใหม่ที่มีการเทคอนกรีตที่ความหนา 10-15 ซม. ควรทิ้งระยะเวลาให้คอนกรีตเซ็ตตัวประมาณ 15 -20 วัน เพื่อให้พื้นแห้งสนิทก่อนป้องกันความชื้นจากพื้นที่จะขึ้นมาทำความเสียหายให้แก่พื้นไม้ ควรตรวจสอบพื้นที่เดิม ต้องไม่มีน้ำรั่วซึมทั้งบริเวณพื้นด้านล่างและด้านข้าง หากพบปัญหาต้องซ่อมแซมแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยก่อน

2. ตรวจสอบความสม่ำเสมอของพื้นก่อนการติดตั้ง

สำหรับพื้นที่จะทำการติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring จะต้องมีความสม่ำเสมอของพื้น ไม่นูนหรือเป็นแอ่ง ภายใน 1 ตรม. ควรมีระดับต่างกันไม่เกิน 1 -2 มม. สามารถทดสอบได้โดยการวางท่อนไม้ตรงหนึ่งท่อน ยาวประมาณ 1-1.5 เมตรและตรวจหาจุดต่ำบนพื้นที่ทำให้เกิดช่องระหว่างไม้ท่อนและพื้นล่าง ทำสัญลักษณ์บนพื้นจากหลาย ๆ มุมเพื่อให้รู้ว่าพื้นที่ที่จะต้องเสริมให้เต็ม กว้างเท่าไหร่

3. การเริ่มต้นการติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring

สำหรับพื้นที่เดิมที่เป็นกระเบื้องเซรามิก พื้นหินขัด พื้นแกรนิต พื้นกระเบื้องยาง สามารถติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring ทับได้โดยไม่ต้องมีการรื้อถอน ยกเว้นกรณีพื้นเดิมของลูกค้าเป็นพรม , พื้นไม้ปาร์เก้หรือกระเบื้องยางที่เกิดการชำรุดในลักษณะร่อนออกจากพื้นปูนใน กรณีนี้ลูกค้าควรที่จะต้องรื้อพื้นเดิมออกก่อนการติดตั้งพื้นไม้ เพื่อให้พื้นเกิดความเรียบร้อยสม่ำเสมอ

การเว้นระยะระหว่างความห่างของไม้พื้น 

การติดตั้งไม้พื้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเว้นช่อง สำหรับให้ไม้ขยายตัว ( ไม้ยาว 1 เมตรมีโอกาสขยายตัวประมาณ 1 มม. ) โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. บัวพื้น (Baseboard)

เมื่อติดตั้งพื้นไม้มาถึงบริเวณผนัง ต้องเว้นระยะห่างระหว่างผนังกับไม้พื้นไว้ประมาณ 1 - 1.5 cm เพื่อให้ไม้พื้นได้ขยายตัวและทำการติดตั้งบัวพื้นบริเวณช่องดังกล่าว

2. ตัวที ( T-Moulding)

T-Moulding ใช้เชื่อมรอยต่อระหว่างวัสดุที่เหมือนกันหรือแตกต่างกัน เช่น พื้นไม้กับกระเบื้อง , พื้นไม้กับพื้นไม้(ธรณีประตู)

3. ตัวจบ Edging

Edging ใช้จบงานบริเวณระหว่างพื้นไม้กับผนังหรือขอบที่เป็นมุมฉากโดยไม่สามารถใช้บัวพื้นได้ เช่น บริเวณพื้นไม้กับเฟรมอลูมิเนียม

4. ตัวจบต่างระดับ (Transition)

Transition ใช้จบงานในกรณีที่พื้นไม้สูงกว่าพื้นที่เชื่อมต่อกัน เช่น บริเวณระดับพื้นหน้าห้องน้ำ เป็นต้น

และถ้าหากใครที่พลาดชมบทความเดิมในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเกี่ยวกับข้อควรรู้เกี่ยวกับพื้นไม้ลามมิเนต ส่วนประกอบวัสดุ และประเภทการนำไปใช้งานอย่างเหมาะสมกับอาคารแต่ละแบบ สามารถรับชมได้ที่ Link นี้ได้เลยครับ https://www.wazzadu.com/article/571

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @wazzadu.com

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก

www.waterprooflaminateflooring.net

www.flooringsupplies.co.uk

www.simplydesigning.net

www.pinterest.com

#WAZZADU #พื้นไม้ลามิเนต #พื้นไม้ #พื้น #laminatewoodflooring #laminateFlooring

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
หน้าต่างในงานสถาปัตยกรรม (Window type in architecture)

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ