"ม่านม้วน (Roller Blinds)" ที่นิยมใช้งานมีกี่แบบ แต่ละแบบมีคุณสมบัติเด่น และวิธีการนำไปใช้งานอย่างไร

ม่านม้วน คือรูปแบบของวัสดุกันแสงแดด ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว หรือสร้างบรรยากาศอื่นๆ ที่เป็นไปตามรูปแบบของงานออกแบบภายใน ม่านม้วน เป็นการนำเนื้อผ้ารูปแบบต่างๆ มาเคลือบผิว ไม่ให้เก็บฝุ่น และคงรูปเพื่อให้สามารถม้วนได้ มาใช้กับชุดรางม้วนที่สามารถควบคุมให้ม้วนเก็บขึ้นหรือลงได้ ซึ่งจะมีด้วยกันหลายรูปแบบ หลายคุณภาพตามท้องตลาด เช่น ม่านม้วนระบบสปริงล็อค ม่วนม้วนระบบโซ่ดึง หรือม่านม้วนระบบมอเตอร์ ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์จะมีสินค้าแบบไหนมานำเสนอ

ซึ่งม่านม้วนมีคุณสมบัติที่สามารถเลือกให้บังแสงได้ในระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบังแสงเพียงครึ่งบนของหน้าต่าง เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่ง และเห็นบรรยากาศภายนอกได้บางส่วน หรือหากจะเลือกให้ม่านบังแสงทั้งหมดของพื้นที่หน้าต่าง เพื่อความเป็นส่วนตัวก็สามารถทำได้เช่นกัน

และวันนี้ Wazzadu Encyclopedia x Biw Products ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับม่านม้วนที่นิยมในการตกแต่งภายในบ้านหรืออาคารสำนักงาน ว่ามีทั้งหมดกี่ประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติในการใช้งานอย่างไร ติดตามในบทความนี้ได้เลยครับ...

1. ม่าน Sunscreen 

ม่าน Sunscreen เป็นม่านม้วนโปร่งแสง ซึ่งเป็นม่านม้วนที่มีความโปร่งแสงมากที่สุดในบรรดาม่านทั้ง 3 ประเภท ม่านประเภทนี้มีจุดเด่นตรงที่สามารถมองเห็นได้ทั้ง 2 ด้าน ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ในเวลากลางวัน แสงสว่างธรรมชาติจะส่องผ่านม่านม้วนเข้ามาภายใน ทำให้ห้องดูสว่างโปร่งโล่ง รวมถึงเมื่อมองจากภายในห้องออกไป จะสามารถมองเห็นวิวหรือบรรยากาศภายนอกได้ ส่วนในเวลากลางคืน หากภายในห้องประดับตกแต่ง หรือออกแบบภายในโดยเล่นแสงไฟ จะทำให้ภายนอกสามารถมองเห็นบรรยากาศความสวยงามของการออกแบบภายในได้เช่นกัน ม่านม้วนโปร่งแสงจึงเหมาะกับงานตกแต่งในสถานที่ที่ต้องการโชว์บรรยากาศ การเล่นแสง หรือพื้นที่ซึ่งต้องการแสงสว่างธรรมชาติและความโปร่งโล่ง

การนำไปใช้งาน
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการให้มองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ถึงแม้จะปิดม่านอยู่ก็ตาม เช่น ห้องทำงาน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องพักสำหรับชมวิวทิวทัศน์ ออฟฟิศสำนักงาน ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ที่ต้องการเน้นบรรยากาศการตกแต่งเล่นแสง
 

เกณฑ์การชี้วัดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ม่านม้วน

ปัจจุบัน มีเครื่องมือที่ช่วยทดสอบผ้าม่านม้วนว่ามีประสิทธิภาพในการกันความร้อนแค่ไหน โดยจะแบ่งตัวชี้วัดออกเป็น 3 ค่า ดังนี้

• AS (Solar Absorbtance) : ค่าพลังงานความร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ที่ผ้า จะบอกถึงความร้อนที่ถูกกักเก็บสะสมไว้ในผ้าจากการถูกแสงแดดกระทบ (ผ้าสีเข้มจะกักเก็บความร้อนไว้สูงกว่าผ้าสีอ่อน) หากความร้อนถูกสะสมไว้มาก ผ้าจะคายความร้อนเข้าสู่ภายในบ้าน และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้นอีกด้วย
• RS (Solar Reflection) : ค่าการสะท้อนความร้อนของผ้า ความสามารถในการสะท้อนความร้อนของผ้า ยิ่งมี % สูงยิ่งแสดงว่ามีประสิทธิภาพสูง การสะท้อนความร้อนทำให้การสะสมความร้อนในผ้าน้อยลง หมายความว่าผ้าจะคายความร้อนเข้าสู่บ้านน้อยลงด้วยนั่นเอง
• TS (Solar Transmittance) : ค่าความร้อนที่ทะลุตัวผ้าผ่านเข้ามาภายในตัวห้องพลังงานความร้อนที่ผ่านเข้ามา ยิ่ง % น้อยยิ่งมีประสิทธิภาพกันความร้อนที่ดีเยี่ยม (ผ้าสีเข้มจะกันความร้อนได้ดีกว่าสีอ่อน แต่กลับกันจะกักเก็บความร้อนมากกว่า)

ระดับการมองเห็น 1%

คือระดับการมองเห็นที่น้อยทีสุดของผ้าม่านม้วน sunscreen มองเห็นแสงและเงาได้รำไร พอมองออกว่าข้างนอกคืออะไรแต่ไม่ชัด เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการได้บรรยากาศภายนอกแต่ ไม่ต้องการการมองเห็น กันร้อนได้ดี โดยเฉพาะหน้าต่างทิศตะวันตก ที่ต้องการรับแสงธรรมชาติบ้าง กันร้อนได้มาก และไม่รู้สึกอุดอู้จนเกินไป

ระดับการมองเห็น 3%

เป็นระดับการมองเห็นที่นิยมในการติดผ้าม่านม่านม้วน sunscreen มองเห็นบรรยากาศภายนอกได้เกือบชัดเจน เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการชมบรรยากาศภายนอก และรับแสงแดดพอสมควร ทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของหลายๆ บ้าน หรือ อาคารก็ชอบใช้ระดับความโปร่งแสง 3% เพราะสามารถมองเห็นวิวได้ด้วย

ระดับการมองเห็น 5%

เป็นระดับการมองเห็นที่นิยมมากที่สุดในการติดผ้าม่านม้วน sunscreen ไม่ทึบและไม่โปร่งจนเกินไป ทั้งยังกันแสงแดดได้ดีพอสมควร และ เห็นวิวที่สวยงาม

ระดับการมองเห็น 10%

เป็นระดับการมองเห็นที่มากที่สุดในผ้าม่านม้วน Sunscreen เห็นบรรยากาศภายนอกได้อย่างชัดเจน รับแสงจากภายนอกได้มาก เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการชมบรรยากาศภายนอก หรือ ต้องการให้ภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในลางๆ เช่น ร้านค้า หรือ ร้านอาหารที่ต้องการให้ภายนอกมองเห็นคนที่อยู่ข้างใน แต่ยังสามารถกันร้อนได้

2. ม่านม้วนดิมเอาท์

ม่านม้วนดิมเอาท์ เป็นม่านม้วนกันแสง ที่แสงสามารทะลุผ่านได้บ้างประมาณ 50-70 % ซึ่งทำให้ห้องมีความสว่างมากกว่าม่านประเภท Blackout แต่จะไม่สว่างเท่ากับม่าน Sunscreen โดยลักษณะของม่านม้วนกันแสงดิมเอาท์ คือไม่สามารถมองเห็นได้ แต่จะเห็นเพียงเงาลางๆ หากมีวัตถุอยู่ใกล้กระจก เหมาะกับการใช้งานในจุดที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ยังต้องการให้ห้องมีความสว่างอยู่บ้าง ไม่ทำให้พื้นที่นั้นๆ ดูมืดทึบจนเกินไป

การนำไปใช้งาน
เหมาะสำหรับทิศทางของห้องที่แสงแดดไม่จัดมากนัก หรือห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแต่อยากได้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาบางส่วน เช่น ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องครัว พื้นที่การทำงานในสำนักงานต่างๆ ไปจนถึงห้องพักในโรงแรม
 

3. ม่านม้วนแบล็คเอ้าท์

ม่านม้วนแบล็คเอ้าท์ เป็นม่านม้วนทึบแสง 100% สามารถกันแสงหรือความสว่างได้โดยสมบูรณ์ แม้ในวันที่มีแสงแดดจัด ทำให้ภายในห้องที่ติดตั้งม่านม้วนประเภทนี้ จะมีความมืดสนิทมากกว่าม่านม้วนประเภทอื่นๆ และในตอนกลางคืน ถึงแม้ในห้องจะเปิดไฟเอาไว้ แต่ภายนอกก็จะไม่สามารถมองเห็นทะลุผ่านม่านม้วนเข้ามาภายในห้องได้ ดังนั้น จึงเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือห้องที่ต้องการจะหลีกเลี่ยงแสงสว่าง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลในเรื่องของการพักผ่อน ลดความร้อนจากแสงแดด ไปจนถึงจุดประสงค์ในการถนอมเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแสงแดด 

การนำไปใช้งาน
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือต้องการหลีกเลี่ยงแสงแดด เช่น ห้องนอน ห้องดูหนัง ห้องเล่นเกม ห้องประชุม หรือแม้แต่ป้องกันความเสียหายจากแสงแดดของเฟอร์นิเจอร์ ห้องเก็บของสะสมราคาแพงที่ต้องการหลีกเลี่ยงแสงแดด

คุณสมบัติเด่นของม่านม้วนในการนำไปใช้งาน

1. ติดตั้งได้ง่ายและใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่ง
2. ทำความสะอาดได้ง่ายและไม่เก็บฝุ่นซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงของอาการภูมิแพ้
3. มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ดีไซน์ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกรูปแบบ
4. ช่วยป้องกันแสงแดดได้ดี และมอบความเป็นส่วนตัวให้กับคนภายในบ้าน
5. ม่านม้วนเกรดคุณภาพสูงช่วยป้องกันความร้อนได้ดี ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้นและช่วยประหยัดค่าไฟภายในบ้าน
6. ม่านม้วนเกรดคุณภาพสูงผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว จึงมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อตัวผ้าเสื่อมสภาพแล้ว สามารถนำมาผลิตใช้งานใหม่ได้
7. ม่านม้วนเกรดคุณภาพสูง ตัววัสดุที่เป็นผ้าจะไม่ก่อให้เกิดอาการคัน หรือระคายเคืองเวลาสัมผัส 
8. ม่านม้วนเกรดคุณภาพสูง ตัววัสดุจะไม่ปล่อยสารพิษ หรือสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน เช่น สารปรอท ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง จึงมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ไม่เป็นอันตรายต่อการสัมผัส และสูดดมของเด็ก และผู้สูงอายุ
9. ม่านม้วนเกรดคุณภาพสูง ตัววัสดุจะไม่ลามไฟ หากติดไฟจะมอดดับใน 10 ตร.ซม.
10. ม่านม้วนเกรดคุณภาพสูง ตัววัสดุจะไม่มีการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อรา และไรฝุ่น

วิธีการติดตั้งม่านม้วน

1. ประกอบตัวล็อกยึดรางม่านม้วนกับขายึดตัว L ใช้น็อตและหัวน็อตยึดให้แน่น 
2. วัดระยะจากขอบวงกบขึ้นไป 5-10 ซม. จากนั้นให้ทำตำหนิเอาไว้สำหรับการติดตั้งขายึด ทั้งฝั่งซ้ายและขวา 
3. ใช้สว่านเจาะรู ใส่ปุ๊ก ติิดตั้งขายึดม่านที่ประกอบแล้วทั้งซ้ายและขวา
4. ประกอบรางม่านม้วนเข้ากับรางยึดให้เข้าล็อก

ภาพตัวอย่าง : ไอเดียการใช้งานม่านม้วนในบริเวณต่างๆภายในอาคาร

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ม่านม้วนรุ่นต่างๆ

ดูเนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเพิ่มเติมได้ที่