การเลือกใช้ท่อเหล็ก สำหรับงานระบบประปา งานระบบลำเลียงของเหลว และงานระบบชลประทาน
ระบบการจัดการน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการจัดการของเหลว ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อตัวอาคารที่พักอาศัย อาคารสาธารณะ โรงงานอุตสาหกรรม และระบบสาธารณูปโภคเป็นอย่างมาก ซึ่งจะต้องมีการจัดการระบบน้ำ หรือของเหลวให้เป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวก และมีความปลอดภัยไม่เป็นอันตราย
ดังนั้นการจัดการน้ำ และการจัดการของเหลว จะต้องคำนึงถึงการจัดวางระบบสุขาภิบาลที่เป็นกิจลักษณะ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม และหลักสุขอนามัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งาน และสะดวกต่อการบํารุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน
และหนึ่งในวัสดุสำคัญที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับระบบการจัดการน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการจัดการของเหลว ก็คือ ท่อ ประเภทต่างๆนั่นเอง ซึ่งการเลือกใช้ท่อสำหรับการจัดการน้ำ อย่างงานระบบประปา (ในอาคารบ้านเรือน) หรือการจัดการของเหลว ไม่ว่าจะเป็นระบบการลำเลียงของเหลว (ในโรงงานอุตสาหกรรม) หรือระบบชลประทาน ล้วนมีหลักเกณฑ์การพิจารณาเลือกใช้ประเภทท่อที่แตกต่างกัน ซึ่งหลักเกณฑ์ที่ว่านั้น จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามมาชมกันเลยครับ
การเลือกใช้ท่อเหล็ก สำหรับงานระบบประปา งานระบบลำเลียงของเหลว และงานระบบชลประทาน
งานระบบประปา (ในอาคารบ้านเรือน)
ประเภทท่อที่ใช้ : ท่อเหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel Pipe)
ท่อเหล็กชุบสังกะสี คือ เหล็กที่มีลักษณะพื้นที่ภาคตัดขวางเป็นรูปกลม มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าแป๊บน้ำ หรือแป๊บประปา ผลิตโดยการนำเหล็กดำม้วน มาผ่านกระบวนขั้นตอนการสลิต ต่อด้วยการขึ้นรูปท่อ และนำลงบ่อชุบสังกะสีที่มีความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 98.5% ที่อุณหภูมิสูงถึง 450 °C ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วความหนาของสังกะสีที่ใช้เคลือบจะอยู่ระดับอย่างน้อย 320 g/m² และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามความหนาของเหล็ก (Based Metal)
ท่อเหล็กชุบสังกะสี Hot-Dip Galvanized Pipe นั้น มีคุณสมบัติหลายประการที่ผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของตนเองได้ อีกทั้งยังเป็นท่อที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อการกัดกร่อนของสนิมได้ดี จึงทำให้สามารถนำไปใช้งานในพื้นที่ ที่มีสภาพความเป็นกรดด่างสูง หรือพื้นที่ใกล้ทะเล เป็นต้น
โดยผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กดำสำหรับงานระบบของ COTCO METAL WORKS LIMITED ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งในประเทศ (มอก. 276-2562) และต่างประเทศ ได้แก่ มาตรฐาน Underwriters Laboratories ("UL") UL 852 จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการกำหนดมาตรฐาน การทดสอบ และการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ชั้นนำทั่วโลก โดยโรงงานผลิตท่อเหล็กของ COTCO METAL WORKS LIMITED เป็น 1 ใน 3 โรงงานในราชอาณาจักรไทย (ประเทศไทย) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าว นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กดำสำหรับงานระบบ ยังได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ระดับสากลอื่นๆ อาทิเช่น มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น (JIS G3444:2006) มาตรฐานจากประเทศสหราชอาณาจักร (BS 1387:1985) และมาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกา (ASTM A53) เป็นต้น
ท่อเหล็กชุบสังกะสี มีทั้งแบบปลายเรียบและปลายเกลียว ประเภทที่นิยมใช้ในตลาด ได้แก่ คาดเหลือง คาดน้ำเงิน และคาดแดง
การนำไปใช้งาน
ท่อเหล็กชุบสังกะสีนิยมนำไปใช้ในงานระบบอาคารเป็นส่วน ใหญ่ เช่น งานท่อระบบส่งน้ำประปา ,งานท่อดับเพลิง ,งานท่อสุขาภิบาล และงานท่อสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นต้น
ขนาดที่นิยมนำไปใช้งาน
จะมีขนาดตั้งแต่ 15 mm. (1/2”) ,20 mm. (3/4”),25 mm. (1”),32 mm. (1-1/4) ,40 mm. (1-1/2”), 50 mm. (2”), 65 mm. (2-1/2”), 80 mm. (3”), 100 mm. (4”), 125 mm. (5”) และ 150 mm. (6”)
มาตรฐานการผลิตท่อเหล็กชุบสังกะสี
ท่อเหล็กชุบสังกะสีที่นำไปใช้ในการก่อสร้างจะต้องได้รับมาตรฐานการผลิตระดับสากล ได้แก่
- BS 1139
- มอก. 276-2562
- ASTM A53 Type E Grade A and Grade B
- UL 852 Standard for Safety for Metallic Sprinkler Pipe for Fire Protection Service
- DIN 2440
- JIS G3452
- JIS G3444
- BS 1387:1985 (Withdrawn)
- BS EN 10255
งานระบบลำเลียงของเหลวอุตสาหกรรม และระบบชลประทาน
ประเภทท่อที่ใช้ : ท่อเหล็กเชื่อมแนวตะเข็บเกลียว (Spiral Pipe)
ท่อเหล็กเชื่อมแนวตะเข็บเกลียว คือ เหล็กที่มีลักษณะพื้นที่ภาคตัดขวางเป็นรูปกลม เป็นท่อที่ผลิตโดยการเชื่อมด้วยวิธี Submerged Arc Welding (SAW) ซึ่งจะทำให้ได้แนวเชื่อมที่มีลักษณะขดเป็นวงคล้ายสปริง เมื่อใช้การเชื่อมด้วยวิธีนี้ จะทำให้สามารถผลิตท่อที่มีความยาวมากๆ ได้ รวมทั้งท่อที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่มีความกว้างมากๆ ก็ได้เช่นกัน ส่วนความหนาที่นิยมใช้กันจะประมาณ 4.5 -19.1 มม. ซึ่งท่อเชื่อมแบบ 2 ด้าน จะสามารถทนความดันได้มากกว่าท่อเชื่อมแบบแนวเชื่อมตรง 25% เมื่อเทียบที่ความหนาของผนังท่อเท่ากัน
การนำไปใช้งาน
ท่อเหล็กเชื่อมแนวตะเข็บเกลียวนิยมนำไปใช้กับงานก่อสร้างที่ต้องอาศัยความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ได้แก่ ท่อสำหรับส่งน้ำดิบ, งานขุดเจาะ, ท่อเข็มพืด, ระบบส่งน้ำที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่, ระบบงานชลประทาน, งานเสาเข็มทั้งประเภทชายฝั่งและกลางทะเล, งานโครงสร้างอาคารขนาดใหญ่ หรือท่อระบบน้ำหล่อเย็น เป็นต้น
ขนาดที่นิยมนำไปใช้งาน
จะมีขนาดตั้งแต่ 200 mm.(หนา 4.50 mm.) - 3000 mm.(หนา19.10 mm.)
มาตรฐานการผลิตท่อเหล็กเชื่อมแนวตะเข็บเกลียว
ท่อเหล็กเชื่อมแนวตะเข็บเกลียวที่นำไปใช้ในการก่อสร้าง จะต้องเป็นการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐาน SAW Specification และ Submerged Arc Welding Pipe โดยมีมาตรฐานการผลิตระดับสากล ได้แก่
- BS 534
- ASTM 252
- ASTM A211
- JIS G 3443
- JIS G 3457
- JIS G 3492
- JIS A 5525
- TIS 427-2562
- AWWA C 200
- AWWA C 203
- AWWA C 205
- AWWA C 210
- AWWA C 222
ทั้งนี้ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้ท่อประเภทต่างๆ เราควรพิจารณาดูว่าประเภท และขนาดของท่อแต่ละรูปแบบนั้น มีความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานนั้นๆหรือไม่ ทั้งความปลอดภัย อายุการใช้งาน ปริมาณน้ำ หรือของเหลวที่จะลำเลียง บริบทสภาพแวดล้อมของพื้นที่ รวมถึงความสะดวกในการดูแลรักษา และซ่อมบำรุง เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่ออรรถประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด มีความเหมาะสม และให้ความคุ้มค่ากับงบประมาณนั่นเอง
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กชุบสังกะสี และท่อเหล็กเชื่อมแนวตะเข็บเกลียว
นอกจากนี้ CCM by COTCO METAL WORKS LIMITED ยังให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล็กแบบครบวงจร (One-Stop Service) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าอีกด้วย (สามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ด้านล่าง)
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการเลือกใช้งานท่อประเภทต่างๆ
ถ้าหากท่านใดที่สนใจท่อเหล็กแบบต่างๆเพื่อนำไปใช้ในงานก่อสร้าง
สามารถสอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่ Cotco Call Center 02-285-2700
Website : www.cotcometalworks.co.th ,FB Page : Cotco Metal Works Ltd.
และ Line Official : https://lin.ee/pIUNkHc
ผู้เขียนบทความ
ผู้ผลิตท่อเหล็ก เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น และศูนย์บริการเหล็ก ... อ่านเพิ่มเติม