ระบบสุขาภิบาล ในงานสถาปัตยกรรม (Building Sanitary System)
ระบบสุขาภิบาล (Sanitary System) คือ
ระบบสุขาภิบาลถือได้ว่ามีความสำคัญต่อตัวอาคารในแง่การจัดการระบบน้ำภายใน และภายนอกอาคารทุกรูปแบบให้เป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวก และมีความปลอดภัยไม่เป็นอันตราย อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อผู้ใช้งานภายในอาคารในด้านปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีในการอยู่อาศัย
ดังนั้นการจะนําน้ํามาใช้ หรือ การจัดการน้ำเสียทั้งภายในอาคาร และภายนอกอาคารนั้น จะต้องคำนึงถึงการจัดวางระบบระบบสุขาภิบาลที่เป็นกิจลักษณะ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม และหลักสุขอนามัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งาน และสะดวกต่อการบํารุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน
ระบบสุขาภิบาล มีกี่ประเภท (Types of Sanitary System)
ตามมาตรฐานการออกแบบที่ใช้ในระดับสากล และในประเทศไทย ระบบสุขาภิบาล สามารถแบ่งออกได้ 7 ระบบ ได้แก่
1. ระบบน้ำดี หรือน้ำประปา (Cold water pipe system)
คือ ระบบท่อที่ใช้งานในการลำเลียงน้ำสะอาดไปใช้งานตามจุดต่างๆ ภายในอาคาร เช่น ระบบน้ำประปาสำหรับห้องน้ำ ห้องครัว ห้องซักล้าง หรือ ระบบน้ำดับเพลิงภายในอาคาร เป็นต้น
2. ระบบระบายน้ำโสโครก (Soil pipe system)
คือ ระบบท่อที่นำน้ำเสียที่ถูกใช้งานจากโถส้วม หรือโถปัสสาวะออกจากพื้นที่และนำเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียก่อนระบายออกนอกอาคาร
3. ระบบระบายน้ำทิ้ง (Waste pipe system)
คือ ระบบท่อที่นำน้ำเสียที่ถูกใช้งานจากกิจกรรมอื่นๆ ออกจากพื้นที่ และนำเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียก่อนระบายออกนอกอาคาร
4. ระบบบำบัดน้ำเสีย (Water treatment system)
คือ ระบบที่ใช้บำบัดน้ำจากการใช้งานภายในอาคาร ให้มีค่าดัชนีวัดค่าคุณสมบัติต่างๆของน้ำ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดก่อนระบายออกสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ
5. ระบบท่อระบายอากาศ หรือท่ออากาศ (Vent pipe system)
คือ ระบบท่อที่จะติดตั้งเข้ากับระบบท่อระบายน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาสูญญากาศในเส้นท่อระบายน้ำ ซึ่งจะทำให้ระบบระบายน้ำในเส้นท่อสามารถระบายน้ำได้สะดวก
6. ระบบท่อระบายน้ำฝน (Rain drainage pipe system)
คือ ระบบท่อที่ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำฝนที่เกิดขึ้นกรณีฝนตกออกจากตัวอาคาร
7. ระบบระบายน้ำภายนอกอาคาร (Building sewer system)
คือ ระบบท่อระบายน้ำบริเวณโดยรอบของอาคาร ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำออกจากบริเวณอาคารเข้าสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ
องค์ประกอบของงานระบบสุขาภิบาล สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ท่อประเภทต่างๆ
- บ่อดักไขมัน
- บ่อเกรอะ บ่อซึม
- ถังบําบัดน้ำเสียสําเร็จรูป
- ช่อง และตะแกรงระบายน้ำทิ้ง
- ช่องล้างท่อ
- ท่อระบายอากาศ
- บ่อตรวจระบายน้ำ
- บ่อดักขยะ
- ประตูเปิดปิดน้ำ หรือ วาล์วน้ำ
- มาตรวัดน้ำ
- ปั๊มน้ำ
- สุขภัณฑ์ประเภทต่างๆ
ท่อประเภทต่างๆในงานระบบสุขาภิบาล (Types of Sanitary Pipe)
สำหรับงานระบบสุขาภิบาลแล้ว ท่อถือเป็นวัสดุหลัก และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีส่วนทำให้ระบบสุขาภิบาลทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในด้านการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุท่องานระบบสุขาภิบาลในประเทศไทย สามารถแบ่งประเภทท่อที่ใช์ในงานระบบสุขาภิบาล ออกได้ดังนี้
- ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี
หรือที่เรียกว่าแป๊บน้ำ แป๊บประปา เป็นท่อที่เหมาะกับการใช้งานในระบบส่งน้ำ งานสาธารณูปโภค (งานท่อประปา) และงานท่อในระบบชลประทาน
มีลักษณะเป็นท่อเหล็กกล้ากลมชุบกัลป์วาไนซ์ และชุบสังกะสี มีทั้งเป็นปลายเกลียว คาดเหลือง, คาดน้ำเงิน, ปลายเรียบ คาดแดง มีคุณสมบัติที่แข็งแรง รับน้ําหนักได้ดี ทนทานต่อแรงกระแทกไม่หักงอ ทนทานการกัดกร่อนได้ ทนต่อความดันและอุณหภูมิที่สูงๆได้
- ท่อพีวีซีสีต่างๆ (Polyvinyl chloride or PVC)
ท่อพีวีซีสีฟ้า เป็นท่อที่เหมาะสําหรับใช้งานภายในอาคาร หรือในที่ร่มเท่านั้น มีความหนาตามระดับการรับแรงกดดันได้ของท่อ นิยมใช้ในงานสุขาภิบาล เช่น ใช้เป็นท่อประปาสําหรับระบบน้ําดื่ม หรือใช้กับระบบปั๊มน้ํา หรืองานท่อระบายน้ํา
ท่อพีวีซีสีเทา เป็นท่อที่ใช้สําหรับการเกษตร หรือน้ําทิ้งเท่านั้น มีขีดจำกัดในด้านความแข็งแรง เหมาะกับการใช้งานแบบเดินลอย ไม่ควรฝังดิน เพราะอาจแตกหักชํารุดได้ง่าย
- ท่อโพลีเอทิลีน (Polyethylene)
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าท่อ P.E. เป็นท่อน้ําสีดํา ตัวท่อมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากใช้ความร้อนในการเช่ือมต่อ มีความทนทาน และสามารถดัดให้โค้งงอได้ง่ายโดยไม่ต้องมีข้อต่อ ซึ่งใช้แทนท่อน้ําเหล็ก หรือท่อ PVC ได้
- ท่อโพลีบิวทีลีน (Polybutylene)
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าท่อ P.B. มีลักษณะโดยทั่วไปคล้ายท่อ P.E. มีคุณสมบัติทนความร้อน สามารถนําไปใช้เป็นท่อน้ําร้อน
- ท่อ HDPE (High Density Polyethylene)
เป็นท่อที่มีนํ้าหนักเบา ไม่แตกหักง่าย ดัดให้โค้งงอได้ ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องใช้กาวต่อ สามารถใช้เป็นท่อนํ้าเย็น และท่อน้ําร้อนได้ มีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน แต่อาจเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นถ้าหากได้รับ แสงอัลตราไวโอเลต กับแสงแดดจัดเป็นเวลานานๆดังนั้นจึงนิยมใช้งานในร่ม หรือ พื้นที่ ที่แดดไม่จัดมากเกินไป
- ท่อ PP-R 80 (Random Copolymer Polypropylene 80)
เป็นท่อที่ผลิตจากพลาสติกสะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน หรือ พิษที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 30 ปี สามารถใช้งานร่วมกับท่อชนิดอื่นได้ ใช้เป็นท่อน้ําร้อน และนํ้าอุณหภูมิปกติได้ มีราคาค่อนข้างสูง และต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง
- ท่อเหล็กบุ PE ผลิตจากเหล็กชุบสังกะสี
เป็นท่อที่ปราศจากสารปนเปื้อน มีความคงทนแข็งแรง ป้องกันสนิมได้ สามารถรับแรงดันน้ําได้ดี สามารถใช้เป็นท่อน้ําร้อน และนํ้าอุณหภูมิปกติได้ ติดต้ังง่าย แต่มีราคาค่อนข้างสูง
- ท่อทองแดง
เป็นท่อที่ไม่มีตะเข็บ ลักษณะทางกายภาพของตัววัสดุไม่มีรูพรุน เนื่องจากเป็นโลหะบริสุทธิ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ทองแดง 99.99% สามารถป้องกันการดูดซึมของเชื้อแบคทีเรีย และทนการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม นิยมใช้เป็นท่อน้ําร้อน เพราะทนทาน และเก็บความร้อนได้ดี นอกจากนี้ยังมีอัตราการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำ ทนต่อแรงดันได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- ท่อซีเมนต์ หรือท่อกระเบื้องกระดาษ
เป็นท่อที่มีลักษณะเป็นเน้ือเดียวกันตลอด ไม่มีตะเข็บ ซึ่งไม่ค่อยทนต่อแรงดันมากนัก นิยมใช้ในงานระบายน้ําโสโครก งานส่งนํ้าตามโรงงานอุตสาหกรรม และงานส่งน้ําเพื่อการเกษตร
นอกจากเนื้อหาข้างต้นที่กล่าวมา การออกแบบระบบสุขาภิบาลให้มีความเหมาะสมกับตัวอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพอาจไม่มีรูปแบบที่ตายตัว 100% ซึ่งยังมีปัจจัยอื่นๆอีก ที่มีผลต่อการออกแบบโดยจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
ซึ่งขนาด และความซับซ้อนหลากหลายของระบบสุขาภิบาล จะขึ้นอยู่กับรูปแบบความต้องการในการใช้งาน ประเภทอาคาร ขนาดอาคาร และบริบทตำแหน่งที่ตั้งอาคารเป็นสำคัญ ในการออกแบบบางครั้งจะต้องปรับให้มีความยืดหยุ่นในบางจุด เพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน และสัมพันธ์กับปัจจัยต่างๆได้อย่างเหมาะสม และได้มาตรฐานปลอดภัยตามหลักการออกแบบทางสถาปัตยกรรม และวิศวกรรม
ข้อมูล Wazzadu Encyclopedia อื่นๆที่น่าสนใจ
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม