"Workplace in Architecture" การทำงานยุคปัจจุบันนั้น สถานที่ทำงานส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต และวัฒนธรรมขององค์กรอย่างไร ?
ในแง่การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงานจะส่งผลกระทบต่อคนทำงานอย่างไรบ้าง แล้วพื้นที่การทำงานในสถาปัตยกรรมยุคปัจจุบันนั้นเป็นเช่นไร..?
วันนี้ Wazzadu.com สรุปเนื้อหาสำคัญจาก "งานสัมมนาด้านการออกแบบพื้นที่สำนักงานยุคใหม่ ประจำปี 2019" (OFFICE SPACE DESIGN FORUM 2019) ซึ่งบรรยายโดย คุณปุยฝ้าย คุณาวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท WOHA ประเทศไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ครีเอทีฟครูส์ จำกัด มาฝากกันครับ...
Workplace in Architecture
เมื่อปัจจุบันนี้ เกือบทุกสาขาอาชีพมีการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีโดยเฉพาะเรื่องของ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งแม้แต่นักออกแบบก็เกิดผลกระทบเช่นกัน... แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราสามารถอยู่เหนือ AI ได้นั่นคือ “ความคิดสร้างสรรค์” ซึ่งอาคารสำนักงานที่ทางทีมงานของคุณปุยฝ้ายร่วมออกแบบด้วยกันนั้น จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้พื้นที่ทำงานเกิดความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร ตามมาชมผลงานตัวอย่างทั้ง 3 โปรเจคได้เลยครับ
โปรเจคที่ 1 : การออกแบบอาคารสำนักงาน FYI Center
ด้วยขอบเขตของกฎหมายการออกแบบอาคารที่จำกัดความสูงอยู่ที่ 14 ชั้น ทำให้ภาพลักษณ์ของอาคารดูเตี้ย ไม่สูงระฟ้าเหมือนอาคารสำนักงานที่อื่นๆ และเพื่อปรับหน้าตาของอาคารและให้สวยงามมากกว่าเดิม จึงออกแบบโครงสร้างด้วยเปลือกอาคารที่ใช้กระจกเป็น façade สร้างลอนเป็นคลื่นๆ ขนาดใหญ่ เปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมให้สวยงามและทันสมัยมากขึ้น
แนวคิดในการออกแบบ : การสร้าง flexibility ให้กับ workplace เพื่อตอบสนองการใช้งานรูปแบบต่างๆ
สำหรับรูปลักษณ์ของอาคารที่เปลี่ยนไป นอกจากปรับให้ดูโมเดิร์นขึ้น ยังเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงกลุ่มผู้ใช้งานว่าตอบโจทย์ด้านดีไซน์กับกลุ่มเป้าหมายไหนบ้าง ซึ่งอาคารสำนักงาน FYI Center เป็นอาคารให้เช่าพื้นที่ทำงาน สไตล์การตกแต่งจะไม่เจาะจงมากเกินไป จนทำให้ตอบโจทย์ดีไซน์เพียงกลุ่มเล็กๆ การออกแบบและตกแต่งภายในของอาคารจะเน้นความทันสมัยและเป็นรูปแบบการตกแต่งที่คงอยู่ได้ยาวนาน ไม่ตกยุค ตกกระแส
ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ต้องการให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เกิดเป็นวิธีการจัดสรร space ที่ช่วยให้ใช้สอยอย่างคุ้มค่า เช่น พื้นที่ภายนอกของอาคารสำนักงาน สามารถจัดเป็นลานกิจกรรม ไว้สำหรับจัดงาน event หรือการมี space ช่องว่างของตัวตึกเพื่อระบายอากาศ และยังเป็นจุดพักผ่อนแบบ outdoor ให้กับพนักงานของออฟฟิศที่เช่าบริการ ได้มีมุมผ่อนคลายและชมวิว
โปรเจคที่ 2 : การออกแบบอาคารของธนาคารแห่งประเทศไทย
โปรเจคนี้เป็นการรีโนเวทโรงพิมพ์ธนบัติเก่า เป็นอาคารที่มีอายุเก่าแก่ยาวนาน ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยแนวคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ขององค์กรให้เข้าถึงง่าย และมีพื้นที่การใช้สอย ที่สามารถทำอะไรได้หลากหลาย เริ่มตั้งแต่โซนทางเข้า ไปจนถึงพื้นที่ภายใน และต่อเติมพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมบริเวณชั้น 2
แนวคิดในการออกแบบ : การสร้าง Public Space ที่มีความ Flexibility เข้าถึงง่าย ใช้งานได้หลากหลาย เพื่อตอบรับกับความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ขององค์กร ซึ่งการออกแบบจะถูกแบ่งออกตามฟังก์ชันการใช้งาน เช่น
Public space หรือโซนด้านนอก
ติดกับบริเวณริมแม่น้ำ เป็นเสมือนลานพลาซ่า ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้เป็นพื้นที่ที่ใครก็สามารถเข้ามาใช้งานได้
พื้นที่ส่วนห้องสมุด
เมื่อเข้ามาบริเวณภายใน ส่วนที่ถูกใช้พื้นที่มากที่สุด คือส่วนของห้องสมุด ที่เป็นคล้ายๆ กับ Co-Working Space ให้บุคคลแต่ละสาขาอาชีพ หรือแม้แต่นักศึกษา ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่ทางห้องสมุดจัดได้ง่ายขึ้น โดยจะแบ่งเป็นส่วนที่เป็นเมมเบอร์ประมาณ 25% ส่วนอีก 75% ใช้ฟรี
พื้นที่ข้างบนที่ถูกต่อเติมให้เป็นห้องประชุม
เป็นห้องประชุมที่รองรับผู้ที่มาใช้งานได้ประมาณ 500 คน จุดประสงค์ของการต่อเติมส่วนนี้ คือทำให้ไม่ต้องไปเช่าห้องประชุมที่อื่น และรองรับการสัมมนาที่เป็นงานสำคัญได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
โดยรวมแล้ว การออกแบบการใช้งานแต่ละพื้นที่ของโปรเจคนี้ จะถูกวางแผนว่าแต่ละพื้นที่ควรจะอยู่โซนไหนถึงจะเหมาะ เช่น ห้องประชุม ที่จำเป็นต้องมีความเป็นส่วนตัว ก็จะอยู่บริเวณชั้นบน หรือแม้แต่การเลือกวัสดุที่จะเอามาใช้ในแต่ละพื้นที่เองก็คำนึงการใช้งานของพื้นที่ เช่น บริเวณที่เสียงดังก็จะใช้วัสดุที่ช่วยเก็บเสียงได้บางส่วน
โปรเจคที่ 3 : การออกแบบออฟฟิศของ บริษัท ครีเอทีฟครูส์ จำกัด (ออฟฟิศ CC)
รีโนเวทตึกเก่าแถวเจริญกรุง ซึ่งเป็นโกดังเก็บของอายุกว่า 22 ปี ให้กลายเป็นอาคารสำนักงานของบริษัทครีเอทีฟครูส์ ออกแบบพื้นที่ภายในออฟฟิศโดยแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ พื้นที่ติดแอร์และเปิดโล่ง 50:50 มีพื้นที่ส่วนกลางที่ปลูกต้นไม้ สำหรับเป็นพื้นที่ Collaborate ออกแบบโดยผสมผสานหลายๆ ฟังก์ชันเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดพื้นที่ที่ดีสำหรับพนักงาน
แต่เนื่องจากพื้นที่ของตึกมีทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งมากกว่าความต้องการที่จะใช้งานของออฟฟิศ
จึงถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น
พื้นที่ชั้น 1 กับชั้น 2 เป็นพื้นที่ Flexibility หรือพื้นที่ปล่อยเช่า ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ส่วนนี้ถูกวางแผนที่จะปล่อยเช่นเป็น Event Space
พื้นที่ชั้น 3 เป็นพื้นที่ Share Space เป็นพื้นที่ซึ่งผู้เช่าสามารถมาใช้งานร่วมกับพนักงานหรือเจ้าของตึกได้
พื้นที่ชั้น 4, 5, 6 เป็นพื้นที่ของออฟฟิศ CC โดยการปรับสภาพแวดล้อมใหม่ และแบ่งพื้นที่ส่วนที่ติดแอร์ และไม่ติดแอร์ ทุบพื้นบริเวณชั้น 4 และปลูกต้นไม้ที่ชั้น 3 เพื่อให้เกิดพื้นที่สีเขียว
พื้นที่ชั้น 7 พื้นที่สำหรับการพักผ่อน และการทำกิจกรรมร่วมกัน มีโต๊ะปิงปองสำหรับช่วงเวลาผ่อนคลาย
โดยปกติเวลาทำงานก็จะมีช่วงเวลาที่เครียดมากอยู่แล้ว สิ่งสำคัญในการออกแบบพื้นที่ คือทำอย่างไรให้คนที่มาอยู่ร่วมกันมีความสุข ทุกวันนี้ขนาดของออฟฟิศขยายเข้าหรือออกได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน เพราะรุ่นหลังๆ มีความความรู้สึกภักดีต่อองค์กรแบบคนรุ่นก่อนๆ ลดลง หรือมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนงานได้ง่ายกว่า ดังนั้น การออกแบบออฟฟิศจึงต้องมีความยืดหยุ่นสูง คือสามารถปรับเปลี่ยน หรือประยุกต์ใช้พื้นที่ได้หลายรูปแบบ และดึงดูดให้คนอยากทำงานในองค์กรมากขึ้น
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม