ออกแบบตกแต่งห้องน้ำในสไตล์ Industrial Natural ด้วยวัสดุเด่น 4 ประเภท ที่ให้กลิ่นอายย้อนยุคแบบดิบๆกับธรรมชาติอันเรียบง่าย

แต่เดิมการตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคอุตสาหกรรม ประมาณปี 1970 ที่โลกของการผลิตถูกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมการนำเอาวัสดุใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตข้าวของเครื่องใช้รูปแบบของโรงงานอุตสาหกรรมในยุคนั้นถูกแสดงออกผ่านการตกแต่งที่มีลักษณะของความดิบ, วัสดุที่ไม่ได้ถูก finish ผิว, ลักษณะความด้านของโลหะ และการโชว์พื้นผิวรวมถึงรูปแบบสีที่แท้จริงของตัววัสดุนั้น

ภายหลังสืบเนื่องมาจากวิวัฒนาการของมนุษย์ที่ทำให้โลกมีความเจริญก้าวหน้าขึ้นในทุกๆวัน  จึงส่งผลให้วิถีการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เร่งรีบ  รวดเร็ว  และสับสนวุ่นวายยิ่งขึ้น  หลายคนจึงมีพฤติกรรม หรือ ความรู้สึกที่ต้องการความเรียบง่าย เอาเท่าที่จำเป็นจะต้องมี โดยไม่จำเป็นต้องหรูหราฟุ่มเฟือยด้วยองค์ประกอบที่มากมาย  และมักจะถวิลหาบรรยากาศของธรรมชาติที่ผ่อนคลาย  ซึ่งให้ความสดชื่น สบายใจ และช่วยลดความตึงเครียด เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิตผ่อนคลายของตนเองมากขึ้น เพราะฉะนั้นสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความย้อนยุคแบบดิบๆอย่างอินดัสเทรียล และความเป็นธรรมชาติแบบ Industrial Natural จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในสภาพแวดล้อมแบบปัจจุบัน 

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น วันนี้เราจึงมีแบบจำลองการออกแบบตกแต่งห้องน้ำสไตล์ Industrial Tropical ด้วยการใช้วัสดุเด่น 4 ชนิด ในการตกแต่ง ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดจะมีความสำคัญ และมีความโดดเด่นอย่างไรบ้างนั้นมาชมกันเลยครับ 

1. Satin Glass หรือ กระจกซาติน

กรอบหน้าต่างเหล็กในแบบอินดัสเทรียล ที่ผสมผสานกับการใช้กระจกซาติน กระจกชนิดนี้เป็นวัสดุสุดเรียบง่ายที่เรามักจะเคยเห็นอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นกระจกที่มีคุณสมบัติโปร่งแสงแต่ไม่โปร่งใส ผิวกระจกจะมีความเนียนละเอียด ต่างจากกระจกฝ้าทั่วไป โดยให้มุมมองที่แตกต่าง และให้ความเป็นส่วนตัว สะท้อนกลิ่นอายของความดิบของพื้นผิวได้อย่างมีเสน่ห์ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ป้องกันการเกิดคราบจากรอยนิ้วมือ คราบน้ำ และคราบจากการทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี 

2. Basin หรือ อ่างล้างหน้า (เน้นรูปทรงเรียบง่าย)

การใช้อ่างล้างหน้าในรูปทรงที่เรียบง่ายด้วยโทนสีขาว โดยใช้เค้าเตอร์บาร์ที่ทำจากวัสดุประเภทไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยลดความกระด้างของความดิบแบบอินดัสเทรียลลงได้อย่างเหมาะสม เปรียบเสมือนจุดสมดุลกึ่งกลางที่ผสานความดิบ เข้ากับความเรียบง่ายผ่อนคลายในแบบธรรมชาติได้ ซึ่งรูปแบบด้านการจัดวางในการติดตั้งเราสามารถจัดวางติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ เช่น แบบฝังบนเคาน์เตอร์ ,แบบฝังใต้เคาน์เตอร์ ,แบบวางบนเคาน์เตอร์  ,แบบครึ่งเคาน์เตอร์ ,แบบแขวนผนัง และแบบตั้งพื้น 

ดูรายละเอียดรูปแบบการจัดวางอ่างล้างหน้าแต่ละแบบได้ที่ อ่างล้างหน้า (basin) กับคุณสมบัติที่น่ารู้ก่อนจะนำเอาไปใช้งาน

3. Steel & Aluminium หรือ วัสดุเหล็ก โลหะ อะลูมิเนียม​

เหล็กเป็นวัสดุที่มีพื้นผิวสะท้อนถึงความดิบ โดยให้กลิ่นอายถึงความเป็นสัจจะวัสดุได้อย่างชัดเจน และจัดเป็นวัสดุหัวใจหลักของสไตล์อินดัสเทรียล วัสดุเหล็กที่ใช้ในการตกแต่งแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆคือ ประเภทงานโครงสร้าง ,งานตกแต่ง และงานระบบ ซึ่งประเภทของเหล็กที่นิยมใช้กันมากในงานโครงสร้างก็คือ เหล็ก H-Bean, I-Beam, Channel ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อน 

สำหรับวัสดุเหล็กในส่วนของงานตกแต่งที่ไม่ได้รับภาระในการรับน้ำหนักเป็นหลัก โดยมีจุดประสงค์การใช้งานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับงานตกแต่งเท่านั้น ซึ่งประเภทของเหล็กที่นิยมใช้กันมากในงานประเภทนี้ก็คือ เหล็กกล่อง ,เหล็กท่อกลม ,เหล็กฉาก ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น 

และในส่วนสุดท้ายก็คืองานระบบซึ่งจะมีการใช้เหล็ก ผสมผสานกับวัสดุอะลูมิเนียม และ PVC ขึ้นอยู่กับลักษณะงานระบบแต่ละแบบ เช่น งานระบบไฟฟ้า งานระบบปรับอากาศ งานระบบสุขาภิบาล ฯลฯ

4. Cement Texture หรือ พื้นผิวแบบปูนเปลือย

พื้นผิวแบบปูนเปลือย จัดเป็นอัตลักษณ์วัสดุที่ช่วยเติมเต็ม และสะท้อนตัวตนความดิบเท่ของสัจจะวัสดุ ตามแบบฉบับสไตล์ Industrial ได้อย่างมีเสน่ห์ อีกทั้งยังให้ความเรียบง่าย ให้บรรยากาศที่เย็นสบายเข้ากับความเป็นธรรมชาติ Natural ได้อย่างกลมกลืน ซึ่งในปัจจุบันนอกจากการฉาบปูนเปลือยแบบดิบๆแล้ว ยังมีวัสดุทดแทนที่ให้ผิวสัมผัสที่ดิบเท่ไม่ต่างกัน อาทิเช่น ผงปูนฉาบขัดมัน หรือ วัสดุปิดผิวพื้นผิวปูนเปลือย เป็นต้น

#Wazzadu #TheNewWayofInteriorandArchitectureDesign#DesignSchematic #WazzaduAcademy #InteriorDesign #Bathroom #Industrial #Tropical #Natural

Wazzadu .com คือ  

ดิจิตอลแพลตฟอร์มที่เป็นเครื่องมือในการออกแบบสเปควัสดุสำหรับงานออกแบบด้านสถาปัตยกรรม