เปลี่ยนร้านขายยาสุดโทรม..เป็นบูติคโฮสเทลตอนที่ 2 : การค้นหาคอนเซปต์ของแบรนด์เพื่อเตรียมโจทย์ไว้บรี๊ฟกับนักออกแบบ

หลังจากรู้แน่ชัดแล้วว่า เราจะทำการเปลี่ยนร้านขายยาที่เป็นอาชีพของพ่อแม่ให้เป็นธุรกิจใหม่ของลูกๆ ซึ่งตัดสินใจไปแล้วจากตอนที่ 1 ว่ามันจะเป็น Hostel แบบบูติคๆ เรากับน้องสาวก็เริ่มต้นค้นหาคอนเซปต์ของแบรนด์ ไปพร้อมๆ กับการตั้งชื่อแบรนด์ไปด้วย ....เพื่อนๆ ผู้อ่านอาจจะงง...อะไรกัน แค่จะทำโรงแรมเล็กๆ ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องแบรนด์ด้วยเหรอ... 555 เราก็ว่าอย่างนั้นล่ะ แต่พอดีน้องสาวของเราทำอาชีพเกี่ยวกับการวิจัยและการสร้างแบรนด์ เค้าก็เลยนั่งยัน ยืนยัน และนอนยันว่าเรื่องนี้คือสิ่งที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ พวกเราเลยจริงจังกับเรื่องนี้กันมากตั้งแต่อะไรๆ ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างด้วยซ้ำ 55

แบรนด์คืออะไรกันนะ.....ชื่อหรือเปล่า? ชื่อเราก็มีแล้วนะ มีทางให้เลือกอยู่ไม่มากและทุกคนทั้งบ้านตัดสินใจตรงกันโดยไม่ต้องมีการใช้กำลัง 55 อันเนื่องมาจาก PAMAhouse เป็นชื่อที่บ้านเราผูกพันและคุ้นเคยมานาน เพราะเป็นชื่อที่เคยเลือกร่วมกันไว้ตั้งแต่ตอนป่ะป๊ามาเปิดร้านขายยากัน โดยมีความหมายซ่อนอยู่อย่างน่าพอใจ แต่หลายคนพยายามคาดเดากันไป-มา เช่น

สงสัยชื่อต้องมาจาก.... Pharmacist House (ฟาร์มาเฮาส์) แน่เลย ซึ่งแปลว่า บ้านของเภสัชกร เนื่องจากบ้านเราเป็นร้านขายยา คนที่ได้ยินชื่อร้านจึงคิดว่าต้องเกี่ยวอะไรกับ pharmacist แน่นอน
หรืออีกสายก็บอกว่าชื่ออาจจะมาจาก... Papa Mama House (ป๊าม้าเฮาส์) ซึ่งแปลว่า บ้านของพ่อกับแม่

แต่ที่ไม่มีคนเดาถูกเลยคือที่มาที่แท้จริงของชื่อ ภามาเฮาส์
"ภา" มาจาก กสิภา ซึ่งเป็นชื่อของเรา
"มา" มาจาก ปรมา เป็นชื่อของน้องสาวเรา
ดังนั้น "ภามาเฮาส์" ที่ป่าป๊าต้องการสื่อความหมาย ก็คือ บ้านของลูกๆ ทั้ง 2 คนนี่เอง

คำว่า "ภามา" เป็นชื่อที่ผูกพันกับครอบครัวเรามานาน ตั้งแต่สมัยที่เรามีบ้านหลังแรก ป่าป๊าตั้งชื่อบ้านเราว่า "ทิพย์ภามา" ซึ่งคำว่า "ทิพย์" มาจาก ทิพย์ธนทรัพย์ ซึ่งเป็นนามสกุลของครอบครัวเรา

ด้วยความผูกพันที่เหมือนตกลงกันมาตั้งนานแล้วนั่นเอง..เราก็เลยตัดสินใจเลือกชื่อนี้กันโดยละม่อม 55 โดยขอรวมเอาทั้งความหมายที่มาจากชื่อลูกทั้งสองคน และความหมายของการเป็นบ้านของ ป่ะป๊า และหม่าม้า มารวมตัวอยู่ด้วยกันด้วยเพื่อความ Strong!!!! นั่นเอง

นี่คือหลักฐานว่า เราใช้ชื่อเสียงเรียงนามนี้มาตั้งแต่ตอนทำร้านขายยาแล้วจริงๆ ...ร้านขายยาอะไร ตั้งชื่อไม่เป็นร้านขายยาเอาซะเลย >_< 55

แต่ดูเหมือนว่าแค่ชื่อ ก็ยังไม่ใช่ "แบรนด์" อย่างที่น้องสาวเราพยายามจะบอก สิ่งที่เราต้องทบทวนกันตั้งแต่ก่อนจะลงมือคิด Layout Plan ว่าเราจะ Renovate บ้านหลังน้ีอย่างไร จะคงอะไรไว้ เอาอะไรมาใช้ประโยชน์ และทุบรื้ออะไรออกบ้าง...กลายเป็นเราต้องมานั่งวางแผนธุรกิจกัน

คำถามที่ต้องตอบตัวเองให้ได้คือ:

- จุดขายของเราคืออะไร? เหตุผลที่คนจะเลือกโรงแรมเรามากกว่าโรงแรมคู่แข่งคืออะไร? คู่แข่งที่โดยรอบทางตรง และทางอ้อมที่เป็นไปได้มีใครบ้าง

- อะไรที่เราจะยึดเป็นสิ่งที่แตกต่าง ที่ใครจะมาลอกเลียนแบบไม่ได้คืออะไรกัน?​ (แค่ต่างวันนี้ไม่พอแล้ว มี Case Study มากมายที่ชี้ให้เห็นว่า การเป็นคนแรกไม่ใช่สิ่งที่การันตีความสำเร็จที่ยั่งยืนอีกต่อไป)

สิ่งเหล่านี้ เราจะตอบตัวเองได้อย่างไรนะ...

เราและน้องสาว เลยเร่ิมต้นตั้งแต่การไปคุยกับกลุ่มเป้าหมาย : ) บอกเลยว่าภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงกันทั้งคู่ 55 แต่ก็ไปแบบงูๆ ปลาๆ กันไป เป็นครั้งแรกที่เราโดนน้องสาวจับไปให้ทำเรื่องแบบนี้ คือไปคุยกับคนแปลกหน้า (คือน้องสาวทำอาชีพประมาณนี้อยู่แล้วแต่ไม่เคยรู้เลยว่าพอต้องทำของตัวเองกันจะเป็นอะไรที่ดูจริงจังขนาดนี้ 555) สนุกดีนะ

น้องโจ้ง น้องสาวของเรา เตรียมคำถามมากมายที่จะให้ไปสัมภาษณ์ และเตรียมเครื่องมือวิจัยที่เรียกว่า Storyboard ไปด้วย เราพยายามสร้าง Scenario ที่เป็นไปได้สำหรับโครงการของเรา ที่จะมีความแตกต่างมากพอ เป็นต้วตนของเรามากพอ หลังจากที่ได้ Survey คู่แข่ง และได้ลองหารือกันเองหนักๆ หลายต่อหลายครั้งแล้ว น้องโจ้งทำออกมา 3 รูปแบบ

นี่เป็นบอร์ดรวบรวม Reference ภาพที่น้องโจ้งรวบรวมจาก Reference ของทุกคน เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของแต่ละคนฝั่ง Owner กันเองก่อน 555 อืม..มมม..ของเหล่านี้มันก็ต้องประณีประนอมอ่ะเนอะ ^_^ ภาพที่ได้มาก็บางทีแม่ก็ Crop มาจาก Facebook ที่ลูกศิษย์แชร์มาบ้าง (แม่เราเป็นอาจารย์) Share กันลงบน Wall Facebook บ้าง หรือบางส่วนก็เกิดแรงบันดาลใจจากบทความใน Wazzadu.com นี่ล่ะ ก็ส่งลิงค์มาดูมารวบรวมกัน

แบบที่ 1: Vivid Thai Vintage Style

เป็นการตั้งสมมติฐานที่อยากจะรู้ว่า ต่างชาติอยากได้ "ไทย" รูปแบบไหน แบบที่สุดขั้วของการเล่าเรื่องราวแบบไทยๆ เลยมั้ย??​ (เราจะเห็นภาพเหล่านี้ปรากฏอยู่บ่อยๆ ในสถานที่ที่ต้องการต้อนรับชาวต่างชาติ)

Credit ภาพ : http://www.focal-local.com

แบบที่ 2: Papa Mama Vital Memory Story

แบบนี้เป็นแบบที่เป็นตัวของเรามากที่สุด เกิดจากการดึงเอาความเป็น Vital Memory ของยุคสมัยพ่อแม่จีบกัน มาเล่าเรื่องราวให้น่าสนใจ เช่น รูปแบบของสถาปัตยกรรมยุคนั้น (ประมาณ 2499 อันธพาลครองเมืองได้ 55) เรื่องราวของหนังไทยในอดีต เรื่องราวของเพลงลูกกรุง เป็นไทยยุคกลางๆ ที่เริ่มมีความ Modern จากฝั่งตะวันตกเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นแล้ว (ที่เค้าเรียกกันว่า Style Art Deco สถาปัตยกรรมยุคนี้ก็เช่น โรงหนังสกาล่า หรือห้างไทยไดมารูอะไรอย่างนี้เป็นต้น

แบบที่ 3: It's your home in other countries!!

รูปแบบนี้ลองลดทอนความเป็นไทยลงไปเลย เน้นเรื่องของความ Homey เป็นหลัก ดู Modern Contemporary เป็นหลัก อยากรู้ว่า หรือจริงๆ แล้วนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เค้าอยากได้อะไรที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคย อยู่ได้นาน ตื่นมาแล้วไม่ตกใจว่าที่นี่เป็นที่ต่างถิ่นต่างแดน ดูน่าสบาย อบอุ่น น่านอนเป็นที่สุด ^_^

เมื่อได้เครื่องมือพร้อมแล้ว....เราก็เริ่มลงพื้นที่!!!

เราเลือกไปสำรวจและทำการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายของเราในที่ที่ปลาชุมและใกล้บ้านเราที่สุด!!! นั่นก็คือ ที่ท่าเรือสาทร ท่าเรือยอดฮิตที่เป็นแหล่งรวมตัวของกลุ่มเป้าหมายที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ Route นี้เป็น Route ยอดฮิตที่ชาวต่างชาติทุกคนที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ ต้อง Spend เวลาอย่างน้อย 1 วันเพื่อล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ตื่นเต้นมาก!!! เราจะกล้าเข้าไปคุยกับคนแปลกหน้ามั้ย เค้าจะคิดว่าเราเป็น 18 มงกุฎรึเปล่า แล้วจะคุยกับเค้ารู้เรื่องมั้ยยยย.....ทั้งหลายทั้งแหล่ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้กังวลใจ

ที่แห่งความทรงจำ ^_^ ท่าเรือด่วนเจ้าพระยาสาทร เป็นแหล่งปลาชุม ในตำนาน

แหล่งนี้ก็ดีเลยทีเดียว ที่ River City ป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มารอขึ้นเรือเพื่อรับประทาน Dinner ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาที่สุดแสนจะโรแมนติก

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ

1. เราแทบไม่ได้ใช้คำถามทั้งหมดที่ List มา 5555 เราถามได้แต่เครื่องมือ Storyboard เท่านั้น เพราะเวลาที่จำกัดทุกคนอยู่ในภาวะเร่งรีบ มันเป็นช่วงเวลารอเรือสั้นๆ เท่านั้น

2. เราพบเจอคนหลากหลายเชื้อชาติจริงๆ บางประเทศเราไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ และเราก็ให้ความสนใจกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาติเอเชียด้วยนะ....เราว่าเค้ามีความละม้ายคล้ายชาติเรา และมี Pain Point กับ Hostel ที่เป็นที่พักรวมพอควร อย่างกลุ่มคนจีน ถ้าเค้ามาเป็นครอบครัว มากันเองหรือที่เรียกกันว่า FIT ก็น่าจะนิสัยน่ารักอยู่นะ ไม่เหมือนตามข่าวที่เรามักจะได้ยินกันมาเกี่ยวกับเรื่องทัวร์จีน

3. เราไม่ควรต้องเป็นห่วงภาษาอังกฤษของเราเลย เพราะคนที่เราไปคุยด้วยทั้งหลาย ก็ล้วนแล้วแต่ภาษาอังกฤษไม่ดีด้วยเหมือนกันทั้งสิ้น 55555555 สบายใจเปลาะหนึ่ง (สบายใจเพื่อ??)

4. เราได้เข้าใจมากขึ้นจากเครื่องมือที่น้องโจ้งทำ ว่าคนต่างชาติคิดอะไรกับคนไทย ความต้องการของพวกเขาในเชิงของการสัมผัส Thailand Story เป็นอย่างไรบ้าง, คนที่มาด้วย มีอิทธิพลสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกจองห้องพัก และอื่นๆ อีกมากมายที่ได้จากการออกภาคสนามครั้งนี้

ผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน หลากชาติ หลายภาษาค่ะ ^_^

เหล่านี้คือบรรดาผู้มีอุปการะคุณของเรา ที่ยินดีร่วมให้ไอเดีย ร่วมตอบคำถามกับสิ่งที่เรากำลังมุ่งมั่นที่จะทำอยู่ บางคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าเรามาพยายามขายห้องพักเค้าและปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก 5555 ก็เอาเป็นว่าคุณก็เป็นผู้มีอุปการะคุณอยู่ดี เราอาจจะผิดเองที่เข้าหาและเลือกใช้คำไม่เป็น

การ Fieldwork ครั้งนี้ ทำให้เรารู้จัก และเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเรามากข้ึน และได้มี Direction ที่ชัดเจนมากขึ้นว่าทิศทางที่เราเล็งๆ ไว้เลือกๆ ไว้มีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร และเราก็นำพาทีมเราเข้าสู่ขั้นตอนการจัดทำ Design Brief เพื่อเตรียมเรียก Interior Designer เข้ามารับโจทย์ ไปพร้อมๆ กับการวางแผนเรื่องธุรกิจและการตั้งตาราคาหา ROI

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ

แล้วเจอกันตอน 3 เราจะพาเพื่อนๆ เข้าสู่กระบวนการออกแบบของ Interior Designer กันละ มาดูกันว่าจาก Concept สู่การคลี่ภาพในหัวออกมาเป็น Idea ที่จับต้องได้ มันจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร น่าตื่นเต้นแค่ไหน ..เรามีอะไรต้องฝ่าฟันบ้าง 5555 (พูดเลยว่า "เยอะ" ตลอดเส้นทาง) รอเจอกันตอน 3 นะคะ

 

Special Thanks!!:

ขอบคุณทุกแหล่งภาพนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่อาจไม่ได้ Credit ทั้งหมด เพราะเดิมทำไว้เพื่อคุยกันภายในเป็นหลัก...ขอบคุณทุกโรงแรม ทุกร้านกาแฟที่สร้างสิ่งสวยงามเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกันได้อย่างเห็นภาพ...ไม่ Copy แน่นอนค่ะ แต่การทำงานเราก็ต้องการภาพตัวอย่างที่จะเล่าความในใจของแต่ละคนออกมาเนาะ >_< ขอบคุณจากใจจริงค่าาา

 

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม หรือส่งข้อความทักทายกันได้ที่ Facebook Fanpage "PAMAhouse Boutique Hostel" ตามลิงค์นี้นะคะ

https://www.facebook.com/pamahousehostel/

เราเป็น User ของ Wazzadu.com ที่ชอบเรื่องการออกแบบตกแต่ง และตอนนี้กำลังทำการ Renovate ตึกแถวของทางบ้านให้กลายเป็น Boutique Hostel เราเลยตัดสินใจอยากบันทึกเรื่องราวตลอดเส้นทางไว้เป็นความทรงจำของงานใหญ่ของครอบครัวครั้งนี้ : )

มาลุ้นไปพร้อมๆ กันกับเรานะ 55 ...

ไอเดียมาใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ