เมื่อแบตเตอรี่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานะของแข็งอีกต่อไป รู้จักกับ “Flexible Battery” แบตเตอรี่ที่ยืดหยุ่นได้และกำลังเติบโตในอนาคต
พูดถึงค่าแบตเตอรี่ทีไรก็นึกภาพเป็นก้อนพลังงานแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ เสมอ แต่ว่าโลกในปัจจุบันมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีรูปทรงการการใช้งานให้พับงบได้ อย่างโทรศัพท์มือถือหลายรุ่นของแบรนด์เจ้าดังอย่าง Samsung หรือคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คอีกหลายๆ เจ้าก็มีฟังก์ชันพับงอไปมา เพื่อใช้งานได้หลายแบบและสะดวกกว่ารูปแบบเดียว
ในอนาคตตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีงานวิจัยหนึ่งคาดการณ์ว่าตลาดของ Flexible Battery หรือแบตเตอรี่ยืดหยุ่นน่าจะเติบโดได้ถึง 240.47 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 2022-2027 มีอัตราการเติบโตของตลาดต่อปีคิดเป็น 22.79% ซึ่งเทียบเป็นเงินบาท ตลาดนี้ทำเงินได้กว่า 8,000 ล้านบาท
ทีนี้มาทำความเข้าใจกับ Flexible Battery หรือแบตเตอรี่ยืดหยุ่น กันหน่อยว่าคืออะไร
แบตเตอรี่ยืดหยุ่น ถูกออกแบบมาให้โค้งงอได้ตามรูปร่าง พื้นผิว หรือโครงสร้างของอุปกรณ์นั้นๆ ที่ต้องการติดแหล่งพลังงานเข้าไปด้วย โดยการผลิตแบตเตอรี่ยืดหยุ่นจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิตมี เช่น แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบยืดหยุ่นได้ (FLIB) มีวัสดุที่ใช้ได้แก่
- ท่อน้ำคาร์บอน (carbon nanotubes)
- กราฟีน (graphene)
- ใยคาร์บอน (carbon fibers)
- พอลิเมอร์ที่นำไปใช้ในส่วนของอิเล็กโทรด์ (electrodes)
- โซลิดโพลีเมอร์อิเล็กโทรไลต์ (SPE)
- อิเล็กโทรไลต์โพลีเมอร์เจล (GPE)
แม้ว่าแบตเตอรี่ยืดหยุ่นจะมีการขับเคลื่อนหลักมาจาก smartphone และ gadget ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ว่าในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ เน้นการสวม, biomedical sensors, นาฬิกา Smartwatches ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันด้านสุขภาพ ต่างก็ใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้ เพื่อส่งข้อมูลแบบ wireless ไปยังผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ นับว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตามผู้ป่วยระยะไกลได้ดี
ในอนาคตอีกไม่กี่ปี เราคงเห็นอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำๆ ที่มีการใช้แบตเตอรี่ยืดหยุ่นมากขึ้น และผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะช่วยให้การดำเนินชีวิตของเราสะดวกกว่าเดิมได้มากขนาดไหน แค่คิดเล่นๆ ก็น่าตื่นเต้นไม่น้อยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลและรูปประกอบจาก
techsauce
newatlas.com
iotcentral.io
cen.acs.org
ผู้เขียนบทความ
