กระจกนิรภัยเทมเปอร์ / กระจกลามิเนต มีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการใช้งานที่ต่างกันอย่างไร
“กระจก” ถือเป็นหนึ่งในวัสดุที่มีการนำมาใช้ในงานก่อสร้างอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการใช้เพื่อป้องกันความร้อน ป้องกันเสียง ให้ความปลอดภัย และเพิ่มความสวยงามสร้างอัตลักษณ์เด่นให้กับงานสถาปัตยกรรม
วันนี้ Wazzadu จึงหยิบยกข้อมูลพื้นฐานของกระจกที่นิยมใช้ในงานก่อสร้าง มานำเสนอด้วยกัน 2 ประเภท นั่นก็คือ กระจกนิรภัยเทมเปอร์ และกระจกลามิเนต นั่นเอง เราไปดูกันครับว่ากระจกทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการนำไปใช้งานต่างกันอย่างไรบ้าง
กระจกนิรภัยเทมเปอร์
หรือ ที่เรียกว่ากระจกอบ คือการนำกระจกธรรมดาไปผ่านกระบวนการอบที่ความร้อนสูงประมาณ 650 องศาเซลเซียส แล้วนำมาเป่าด้วยลมแรงดันสูงให้เย็นตัวลงทันที
ข้อดี
- มีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา 4-5 เท่า
- ทนความร้อนได้สูงถึง 290ºC โดยกระจกไม่แตก
- เมื่อกระจกแตก จะแตกเป็นชิ้นเล็กๆคล้ายเม็ดข้าว โพดทั่วทั้งแผ่น จึงมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
ข้อเสีย
- กระจกนิรภัยเทมเปอร์ไม่สามารถตัด เจีย เจาะ ได้
- กระจกนิรภัยเทมเปอร์มีโอกาสปริแตกด้วยตัวเอง หากเนื้อกระจกที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ผลิตมีสารนิเกิ้ลซัลไฟล์ปนเปื้อน
การนำไปใช้งาน
- ใช้ทำเป็นกระจกงานเฟอร์นิเจอร์
- ใช้ทำเป็นหน้าต่างกระจก ผนังกระจกทั่วไป
ราคา
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 90-600 บาท/ตารางฟุต
กระจกลามิเนต
จัดเป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่ง โดยเป็นการนำเอากระจกนิรภัยเทมเปอร์ หรือ กระจกประเภทอื่นๆจำนวน 2 แผ่น หรือมากกว่า แล้วนำมาประกบติดกันโดยมีชั้นฟิล์มคั่นกลางระหว่างกระจก
ข้อดี
- เมื่อกระจกได้รับความเสียหายจนเกิดการแตก เศษกระจกจะไม่ร่วงหล่นลงมา
- ทนต่อแรงดันลมในที่สูง ทนต่อแรงอัดกระแทก
ข้อเสีย
- ฟิล์ม PVB มีคุณสมบัติดูดความชื้น จึงทำให้ถ้าหากใช้กระจกประเภทนี้บริเวณที่มีความชื้นสูง จะทำให้การยีดเกาะระหว่างกระจกและฟิล์มไม่ดี และอาจเกิดการแยกตัวออกจากกันได้
การนำไปใช้งาน
- ใช้เป็นกระจกอาคารสูงตามกฎหมายควบคุมอาคาร
- ใช้ทำระเบียงราวกันตก หลังคากระจก กันสาดกระจก
ราคา
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 310 บาท/ตารางฟุต
อิฐมอญ / อิฐเซรามิก มีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการใช้งานที่ต่างกันอย่างไร
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม