เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย เคมีภัณฑ์กันซึมชนิดอะคริลิคกับชนิดโพลียูรีเทน
ต้อนรับเข้าสู่ฤดูฝนที่หลายคนเตรียมรับมือกับปัญหาการรั่วซึมที่เกิดขึ้นในอาคาร โดยเฉพาะบริเวณดาดฟ้ามีสาเหตุของปัญหานี้มาจากพื้นดาดฟ้าที่เสื่อมไปตามระยะเวลา เจอทั้งความร้อนของแสงแดดสลับกับความเย็นของฝนหรือช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินแล้วอุณหภูมิเย็นลง สภาพของพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตก็จะผุกร่อนและแตกลายงาไปโดยธรรมชาติ
อีกสาเหตุคือระดับพื้นที่ไม่สม่ำเสมอกัน ไม่มีร่องระบายน้ำที่ช่วยกระจายน้ำขังให้น้อยลง ยิ่งถ้าไม่มีสโลปที่ดี เมื่อเจอฝนเข้าไปดาดฟ้าก็จะมีแอ่งน้ำและน้ำท่วมขังอยู่เป็นเวลานานจนซึมเข้าสู่พื้นผิวดาดฟ้าและไหลผ่านชั้นคอนกรีตกลายเป็นหยดน้ำที่ตกลงตามผนังเพดานในบ้าน
สิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมได้ คือวัสดุกันซึมที่มีให้เลือกใช้หลายแบบ ตั้งแต่แบบผสมในคอนกรีตที่ใช้หล่อพื้น, แบบแผ่นที่ติดตั้งได้สะดวกและอีกแบบที่ Wazzadu.com จะมาเปรียบเทียบให้เห็นคือกันซึมแบบทา ที่เป็นของเหลวครับ เรียกง่ายๆ ว่าน้ำยากันซึมหรือเคมีภัณฑ์กันซึมนั่นเอง เพราะรูปแบบนี้หาซื้อมาใช้ได้ง่าย และสะดวกกว่าแบบอื่น แต่ควรจะเลือกเคมีภัณฑ์กันซึมแบบไหนดี ลองมาศึกษาข้อมูลเพิ่มกันครับ
กันซึมแบบทา มี 2 ประเภทที่แบ่งตามวัสดุ ได้แก่
1. อะคริลิคกันซึม (Acrylic Waterproofing)
หากบริเวณที่ต้องการทาเพื่อซ่อมแซมรอยแตกขนาดเล็ก ความลึกไม่ถึง 2 มม. แบบอะคริลิคจะใช้งานสะดวกกว่าเพราะเป็นส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่พร้อมใช้งาน โดยก่อนใช้จะผสมน้ำเปล่าเพื่อปรับเนื้อวัสดุให้ลดความเหนียวลง เพราะจะช่วยให้ทาง่ายขึ้น เมื่อทาอะคริลิคกันซึมเสร็จแล้วพออะคริลิคแห้งตัวจะมีลักษณะคล้ายแผ่นยางบางๆ ปิดทับไว้
ข้อดี :
- เนื้อวัสดุมีความยืดหยุ่น จึงไม่เกิดการหดตัวเมื่อทาเสร็จแล้ว
- ช่วยป้องกันน้ำซึมผ่านมากกว่าป้องกันน้ำกักขัง
- ช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดดได้
- มีให้เลือกหลายสี ช่วยให้ตกแต่งหน้างานได้สวยงาม
ข้อเสีย :
- ไม่เหมาะสำหรับทาปิดรอยแตกที่ลึกเกิน 2 มม. ควรใช้ตาข่ายไฟเบอร์เสริมเพื่อยึดเกาะรอยที่แตกแล้วทาอะคริลิคทับอีกทีถึงจะช่วยยึดเกาะรอยต่างๆ ให้สนิทขึ้น
- ไม่ทนต่อบริเวณที่เกิดการขังน้ำ มีโอกาสเกิดการรั่วซึมได้
การใช้งาน : เหมาะกับการทาป้องกันการรั่วซึมบริเวณหลังคา, ดาดฟ้า, ระเบียงและผนังอาคาร
ราคาเฉลี่ย :
- เริ่มต้นที่ 200 บาทขึ้นไป สำหรับอะคริลิคที่บรรจุน้ำหนัก 1-2 กิโลกรัม
- เริ่มต้นที่ 2,500 บาทขึ้นไป สำหรับอะคริลิคที่บรรจุน้ำหนัก 20 กิโลกรัม
*หมายเหตุ – ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเคมีภัณฑ์ที่จัดจำหน่าย
2. โพลียูรีเทนกันซึม (Polyurethane Waterproofing)
ถ้าต้องการป้องกันน้ำรั่วซึมในบริเวณที่มีปัญหามากๆ เป็นบริเวณน้ำท่วมขัง ใช้เป็นโพลียูรีเทนจะช่วยป้องกันได้ดีกว่า โดยสามารถใช้ทาทับได้เลยไม่ต้องผสมน้ำ นอกเสียจากบางยี่ห้ออาจมาแบบแยกส่วนแล้วต้องผสมกันก่อนจึงจะทาใช้งานได้ โพลียูรีเทนมีลักษณะคล้ายแผ่นยางเคลือบผิวแบบหนา ช่วยปกปิดรอยแตกรอยร้าวได้ดี
ข้อดี :
- มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปกปิดรอยแตกร้าวได้ดีและไม่หดตัว
- ทนทานต่อแรงขีดข่วน
- ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิและรังสี UV
- ช่วยป้องกันได้ทั้งน้ำไหลซึมและน้ำขังได้ดี
- มีให้เลือกหลายสี ช่วยให้ตกแต่งหน้างานได้สวยงาม
ข้อเสีย :
- เนื้อวัสดุมีความเหนียวตัวกว่า จะใช้งานทาทับยากกว่า
- มีราคาสูงกว่าแบบอะคริลิค
การใช้งาน : เหมาะกับการทาป้องกันการรั่วซึมบริเวณหลังคา, ดาดฟ้า, ระเบียง, ผนังอาคาร, รางระบายน้ำและพื้นที่ที่โดนฝนอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่าแม้จะป้องกันน้ำขังได้แต่ยังไม่เหมาะสำหรับจุดที่แช่น้ำหรือขังน้ำตลอดเวลา อย่าง บ่อปลาหรือสระว่ายน้ำ
ราคาเฉลี่ย :
- เริ่มต้นที่ 700 บาทขึ้นไป สำหรับโพลียูรีเทนที่บรรจุน้ำหนัก 4 กิโลกรัม
- เริ่มต้นที่ 3,500 บาทขึ้นไป สำหรับโพลียูรีเทนที่บรรจุน้ำหนัก 20 กิโลกรัม
*หมายเหตุ – ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเคมีภัณฑ์ที่จัดจำหน่าย
สุดท้ายขอฝากไว้ว่าก่อนที่จะใช้เคมีภัณฑ์กันซึมหรือน้ำยากันซึม แนะนำให้เคลียร์และทำความสะอาดหน้างานให้เรียบร้อยก่อนใช้ผลิตภัณฑ์นะครับ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและใช้งานอย่างถูกวิธีครับ
เขียน และเรียบเรียงโดย Wazzadu Encyclopedia
ข้อมูลอ้างอิงจาก
- รายการช่างประจำบ้าน
- รายการบ้านสร้างดีซ่อมได้ By วิศวกร วิน
- รายการคุยกับลุงช่าง
- https://www.jorakay.co.th
- https://www.firstconservices.com
- https://www.thaiwatsadu.com
- https://www.homepro.co.th
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม