คุณสมบัติของไม้แอช (Ash Wood) ที่ใช้ในงานออกแบบ

ถื่นกำเนิดไม้แอชวูด (Ash wood)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Fraxinus americana (Oleacea) พบมากทางฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ

ลักษณะของไม้แอชวูด (Ash wood)

ไม้แอชเป็นไม้เนื้อแข็งที่เมื่อนำไปย้อมสีแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับไม้โอ๊คมาก จึงเป็นไม้ที่มักจะถูกนิยมนำไปใช้ในงานออกแบบหรือตกแต่งต่างๆ โดยเฉพาะการนำไปทำเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์เครื่องมือช่างที่มีด้ามจับเป็นไม้ ในส่วนของแก่นไม้แอชมีสีน้ำตาลอ่อนถึงปานกลาง มีเนื้อไม้ที่หยาบระดับปานกลางคล้ายไม้โอ๊ค ลักษณะลายไม้มีความเป็นเส้นลายอย่างชัดเจน แต่เป็นไม้ที่ค่อนข้างมีกลิ่นและเป็นอาหารของปลวกและมอด จึงต้องนำไปผ่านกระบวนการอบน้ำยากันปลวกมอดก่อนนำไปใช้งาน

ไม้แอชที่นำไปใช้งานต่างๆ จะมีด้วยกันหลายเกรด ไม้แอชที่มาจากท่อนไม้คุณภาพต่ำจะถูกนำไปทำเป็นลังไม้พาเลทหรือนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง เช่น ในต่างประเทศที่นำไม้แอชไปทำฟืน 

 

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.archdaily.com

Semi Detached House on a Hillside / MWArchitekten

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.archdaily.com

Semi Detached House on a Hillside / MWArchitekten

คุณสมบัติไม้แอชวูด (Ash wood)

  • มีความต้านทานต่อแรงกระแทกสูง
  • สีโทนสว่าง เมื่อนำไปตกแต่งจะช่วยลดความทึบตัน
  • นำไปผ่านกระบวนการอบไอน้ำเพื่อนำไม้ไปดัดโค้งได้ง่าย
  • เป็นไม้ที่ตอบสนองต่อเครื่องมือช่างได้ดี
  • เป็นไม้ที่เห็นลวดลายชัดเจน เหมาะกับงานที่ต้องการโชว์ลายไม้
  • ดัดแปลงทำเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งได้หลากหลาย ให้ความรู้สึกสวยแบบไม้เมืองนอก
  • เป็นไม้ขนาดใหญ่ และแข็งแรง

ขนาดของไม้แอชตามท้องตลาด : ความหนา 1 นิ้ว 2", 3" , 4" , 5"

ช่วงราคา : 900 - 4,500 บาท/แผ่น

ไม้แอช นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง

  • นิยมนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้
  • นำไปใช้ในงานตกแต่งผนัง
  • นำไปใช้ทำอุปกรณ์กีฬา เช่น ไม้เบสบอล
  • นำไปใช้ในงานประดิษฐ์ DIY ต่างๆ
  • นำไปผลิตเป็นเครื่องดนตรี เช่น กีตาร์

การเลื่อยไม้วิธีหลักๆ แบ่งได้เป็น 2 วีธีคือ Flat Sawn กับ Quarter Sawn แต่ Quarter Sawn ก็ยังถูกแบ่งย่อยได้อีกหลายแบบ ดังนั้น จึงขอยกตัวอย่างมา 3 แบบ เช่น

1. Flat Sawn

การเลื่อยแบบขนานไปเรื่อยๆ จนหมดท่อนซุง เป็นการเลื่อยไม้แบบปกติเวลานำไปใช้ทำโต๊ะ เก้าอีก ตู้เตียง หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ข้อดีของการเลื่อยแบบนี้คือจะได้ไม้ที่กว้างที่สุดเท่ากับเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนซุง และใช้ไม้ได้หมดทั้งต้น ลายไม้มีความสวยงาม คล้ายกับลายภูเขา ซึ่งการเลื่อยแบบนี้จะมีราคาถูกเมื่อเทียบกับ Quarter Sawn ส่วนข้อเสียคือตัวไม้จะไวต่อสภาพอากาศมากกว่า และมีโอกาสบิดตัวมากกว่าการเลือ่ยแบบ Quarter Sawn

2. Quarter Sawn

ลักษณะของการเลื่อยไม้แบบ Quarter Sawn คือการเลื่อยตามรัศมีของหน้าตัดไม้ ไม้แผ่นที่ใหญ่ที่สุดจะมีขนาดเท่ารัศมีของท่อนซุง ข้อดีคือ ลักษณะของเกรนที่เป็นเส้นตรงตลอดแนวความยาวไม้ ซึ่งจะช่วยลดการโก่งงอและบิดตัวของไม้ ช่วยให้ไม้ดูดและคายความชื้นได้ยากขึ้น ทำให้ไวต่อสภาพอากาศน้อยลง

3. Rift Sawn

การผ่าแบบ Rift Sawn จะเป็นการผ่าไม้ส่วนที่เหลือจากการผ่าแบบ Quarter Sawn ซึ่งลวดลายที่ได้จะเป็นลักษณะลายตรงเหมือนกัน แต่จะแตกต่างตรงที่ส่วนที่หัวไม้ จะเห็นลายวงปีในลักษณะเฉียงกับหน้าไม้

เปรียบเทียบสีและลวดลายของไม้เมืองนอก 3 ชนิด

1. ไม้แอช 

สีของไม้แอชจะออกน้ำตาลอมครีม ไปจนถึงน้ำตาลอมแดง แต่จะให้สีโทนสว่างและดูอบอุ่นแบบไม้เมืองนอก ลายไม้ชัด 

2. ไม้โอ๊ค สีออกน้ำตาลอ่อน คล้ายสีของกาแฟ ลายไม้จะน้อยกว่าไม้แอช แต่สีจะเข้มกว่า

3. ไม้วอลนัท สีออกน้ำตาลแดงหรือสีช็อกโกแลต ให้ความรู้สึกทึบ มีน้ำหนัก มั่นคง ลายไม้ไม่มาก แต่สีเข้ม ดูโมเดิร์น

ข้อเสีย

  • เป็นไม้ที่ปลวกและมอดกิน จึงควรนำไม้ไปอบน้ำยากันปลวกกันมอดก่อนใช้งาน
  • ไม้แอชเนื้อแข็ง มีร่องเสี้ยนไม้และรอยตาไม้ค่อนข้างเยอะ จึงจำเป็นต้องผ่านกระบวนการอุดลายไม้มากกว่าไม้อื่นๆ ทำให้ต้องใช้เวลามากในการทำสีพื้นผิว
  • เนื้อไม่ละเอียดแน่นเหมือนไม้ถิ่น 
  • ไม่เหมาะกับการใช้ภายนอกอาคาร

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.archdaily.com

Semi Detached House on a Hillside / MWArchitekten

ข้อมูล Wazzadu Encyclopedia  อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับไม้

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก

  • http://www.wood-database.com/

  • https://www.oxfordwoodrecycling.org.uk/

  • Siam Luthiers

  • สมาคมคนรักงานไม้แห่งประเทศไทย

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

ไอเดียมาใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ