เพิ่มคะแนน LEED ให้กับอาคาร ด้วยการเลือกใช้ Fiberboard ที่มีใบรับรอง FSC ดีต่อโลก ดีต่อผู้ใช้งาน
ในสหรัฐอเมริกาได้มีการพัฒนาเกณฑ์ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) เพื่อใช้ในการประเมินอาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่ว่าเป็นอาคารที่รับผิดชอบในการรักษาสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าอาคารเขียว (Green Building) เกณฑ์คะแนนของ LEED แบ่งเป็น 4 ระดับได้แก่
- ระดับผ่านการรับรอง (Certified)
- ระดับเงิน (Silver)
- ระดับทอง (Gold)
- ระดับแพลตตินัม (Platinum)
การรับรองจาก LEED นั้นแสดงถึงความรับผิดชอบของเจ้าของโครงการที่มีต่อสังคม จากผลสำรวจพบว่าอาคารที่ถูกประเมินว่าเป็นอาคารเขียวนั้น นอกจากจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรนั้นๆ แล้วยังช่วยให้พื้นที่เช่ามีราคาที่สูงกว่าอาคารทั่วไปอีกด้วย เนื่องจากผู้บริโภคมีความยินดีที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีความใส่ใจในผลกระทบของโครงการที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับในประเทศไทยก็มีเกณฑ์ประเมินอาคารเขียวเช่นกันนั่นคือ TREES ย่อมาจาก Thai's Rating of Energy and Environmental Sustainability ซึ่งหลักเกณฑ์โดยรวมนั้นมีความคล้ายคลึงกัน แต่แตกต่างในรายละเอียดบางส่วนที่ปรับให้เหมาะสมกับบริบทและสภาพอากาศของไทยมากขึ้น
หลักเกณฑ์การประเมินอาคารเขียวนั้นมีหลากหลายปัจจัยด้วยกัน หนึ่งประเด็นที่สำคัญคือการเลือกใช้วัสดุที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยมีการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก การเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่ผ่านมาตรฐาน FSC ก็จะช่วยเพิ่มคะแนน LEED ได้
FSC ย่อมาจาก Forest Stewardship Council™ เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อให้การจัดการป่าไม้ของโลกเป็นไปอย่างมีความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายของประเทศที่ผืนป่านั้นตั้งอยู่ สิทธิของชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในป่านั้น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งระบบการควบคุมดูแลรักษาสภาพผืนป่าและการกำหนดแผนการปลูกป่าทดแทน เป็นต้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
- FM ย่อมาจาก Forest Management เป็นมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนตามแนวทางที่ FSC ครอบคลุม ตั้งแต่การปลูกไม้จนถึงการตัดไม้เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับกระบวนการถัดไป นับเป็นการปกป้องความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
- CoC ย่อมาจาก Chain of Custody เป็นการตรวจสอบวัตถุดิบที่ได้รับการ รับรอง FSC ที่ผ่านกระบวนการผลิตจนถึงการจัดเก็บ ซึ่งผลิตภัณฑ์สามารถมีองค์ประกอบของชิ้นส่วน หรือ ส่วนใดส่วนหนึ่งที่ไม่ได้รับการรับรอง FSC รวมอยู่ด้วยได้
- Controlled Wood แสดงถึงวัตถุดิบที่มีต้นกำเนิดในป่าไม้ หรือพื่นที่ป่าปลูก ที่ไม่ได้รับการรับรอง FSC มาพร้อมกับการอ้างสิทธิ์ FSC โดยผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับการตรวจประเมินโดยหน่วยรับรอง (Certificationbody) เพื่อประเมินความสอดคล้องกับข้อกำหนดห่วงโซ่การครองสิทธิ์ (Chain of Custody) หรือข้อกำหนด FSC ในการควบคุมวัตถุดิบ
สำหรับไม้ที่นำมาผลิตเป็น Fiberboard ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ FSC ภายใต้แบรนด์ Agro fiber ที่ได้รับ Certificate FSC 100% หมายถึงการใช้ไม้จากป่าปลูกที่มีการจัดการอย่างสมบูรณ์ (FSC – FM ) ซึ่งแสดงถึงความใส่ใจต่อระบบนิเวศ สังคมและเศรษฐกิจของส่วนรวม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืนไปถึงรุ่นต่อไป
อีกหนึ่งเกณฑ์การประเมินอาคารเขียวที่ผู้ออกแบบและเจ้าของโครงการคำนึงถึงเป็นพิเศษนั่นก็คือ การเลือกใช้วัสดุที่ไม่ปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs: Volatile Organic Compounds) หรือมีการปล่อยสารในปริมาณน้อย (Low VOCs) ซึ่งไม้จาก Agro fiber นั้นผ่านการรับรอง ตามมาตรฐาน Certificated CARB P2 / EPA TSCA TITIE VI
การวัดค่าฟอร์มัลดีไฮด์โดยทั้วไป แบ่งเป็น 4 ระดับ ซึ่งแต่ละระดับเหมาะแก่การใช้งาน ดังนี้
- E2 คือคลาสที่นิยมใช้สำหรับงานไม้และเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปในเมืองไทย โดยใช้การระบายถ่ายเทอากาศเพื่อให้สารฟอมัลดีไฮด์ลดลง ก่อนที่จะเข้าใช้งานในบริเวณดังกล่าว หรือสามารถลดการปล่อยสารได้ด้วยการ ใช้แผ่นเมลามีนปิดผิวไม้ หรือทำสีเคลือบผิว เป็นต้น
- E1 คือคลาสที่มีสารฟอร์มัลดีไฮด์เจือปนไม่เกิน 0.1 ppm ซึ่งเหมาะสำหรับทุกคนที่ห่วงใยในสุขภาพเป็นพิเศษ นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในโรงพยาบาล บ้านพักคนชรา ของเล่นเด็ก และเหมาะในการใช้ตกแต่งภายในบ้านพักอาศัย และอาคารทั่วไป
- E0 มีคุณสมบัติที่ดีกว่าคลาส E1 โดยไม้ที่จะผ่านมาตรฐาน E0 คือมีสารฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนไม่เกิน 0.07 ppm
- Super E0 เป็นไม้ที่พัฒนาจากไม้ E0 ขึ้นอีกระดับหนึ่งเป็นไม้ที่มีระดับฟอร์มัลดีไฮด์ต่ำมากจนเทียบเท่าไม้ธรรมชาติ แต่ราคาของสินค้าก็สูงตามคุณภาพด้วย
จะเห็นได้ว่าไม้ Fiberboard คลาส E1 นั้นเหมาะสมในการใช้ตกแต่งภายในมากที่สุด เนื่องจากมีสารเจือปนในปริมาณที่น้อยมากและมีราคาที่คุ้มค่า
ที่สำคัญทางแบรนด์ Agro fiber มีไม้ MDF เกรด E1 FSC ที่ได้รับ Certificated CARB P2 / EPA TSCA TITIE VI มาตรฐานส่งออก และใช้สำหรับงานโครงการที่ต้องการเพิ่มคะแนน LEED ให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสให้งานโครงการนั้นผ่านมาตรฐานอาคารเขียว หรือใช้ในกรณีที่ต้องการเพิ่มมูลค่าหรือสร้างจุดขายให้กับโครงการ
ในการตกแต่งภายในอาคารนั้นไม้นับเป็นส่วนประกอบที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งฝ้า ผนัง งานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานตู้บิวท์อินต่างๆ ส่วนใหญ่จะใช้ไม้เกือบทั้งสิ้น โดยคิดเป็น 30-50% ของงานตกแต่งเลยทีเดียว สำหรับ Fiberboard จาก Agro fiber นั้นผ่านเกณฑ์ FSC มีหลายชนิดซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป ได้แก่
- ไม้เอ็มดีเอฟ (MDF: Medium-Density Fiberboard) คือ ไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง มีความหนาต่างๆ ตั้งแต่ 2.3 - 25 mm. ตามที่ต้องการเพื่อนำไปใช้งานในลักษณะที่แตกต่างกันได้ตามความเหมาะสม เหมาะสำหรับใช้ในงานตกแต่งภายใน เช่น ผนังตกแต่ง และสามารถใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น หน้าบานตู้ โต๊ะ ชั้นวางของได้
- ไม้เอชเอ็มอาร์ (HMR: High Moisture Resistance board) ไม้ HMR คือ แผ่นใยไม้อัดทนความชื้นหรือไม้เอ็มดีเอฟผสมสารทนความชื้น ทำให้สามารถใช้งานในบริเวณที่มีความชื้นสูงได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินในห้องน้ำหรือห้องครัว แต่ไม่แนะนำให้ใช้ไม้ในบริเวณที่แช่น้ำหรือโดนน้ำโดยตรง
- ไม้เอชดีเอฟ (HDF: High-Density Fiberboard) คือ แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง และมีความแข็งแรงดีที่สุดเมื่อเทียบกับไม้ MDF และไม้ HMR จึงเหมาะที่จะนำไปใช้งานในลักษณะที่สามารถรับน้ำหนักหรือรับแรงกระแทกได้ดี เช่น ผนังกั้นห้อง หรือใช้ทำบานประตู
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มาตรฐาน FSC รับรองของ Agro fiber ได้แก่ MDF E1, MDF E0, HDF E1, HMR E2, HMR E1
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์จากบริษัท อะโกรไฟเบอร์ จำกัด ผ่านตามมาตรฐานการรับรอง LEED ในด้านของวัสดุและการก่อสร้าง( Materials and Resources) และ คุณภาพสภาวะแวดล้อมในอาคาร (Indoor Environmental Quality) โดยมีเอกสาร Leed score form Agro fiber ที่ใช้ตรวจสอบเรื่องคะแนน LEED เพื่อให้ผู้ที่สนใจเช็คคะแนนได้อีกด้วย
กล่าวโดยสรุปคือ หากเจ้าของโครงการหรือผู้ออกแบบกำลังมองหาวัสดุสำหรับตกแต่งภายในที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยกับผู้ใช้งาน แนะนำให้เลือกใช้ไม้ Fiberboad คลาส E1 FSC 100% ที่ได้รับ Certificated CARB P2 / EPA TSCA TITIE VI มาตรฐานส่งออก จาก Agro fiber ข้อดีอื่นๆ คือขึ้นรูปได้สะดวก ตัดหรือเจาะรูง่าย ผิวไม้เรียบเนียน สามารถทำสีลงบนไม้ได้เลย และรับน้ำหนักได้ดีกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้
www.wazzadu.com/page/agrofiber/contact
หรือติดต่อที่เบอร์ 038-538347, 085-8352241
ผู้เขียนบทความ
บริษัท อะโกร ไฟเบอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิต MDF และ Pallet เพื่อจำหน่ายให้กับตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ บริษัทตระหนักดีถึงบทบาทและความรับผิดชอบในฐานะองค์กรที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เราจึงใช้วัตถุดิบป่าปลูกจากเกษตรกรกว่าล้านครัวเรือนทั่วประเทศ แทนการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ และระบบบำบัดน้ำเสียที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ตลอดจนดำเนินการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและมีผลกระทบน้อยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อม
อะโกรไฟเบอร์ มุ่งสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้า เราเน้นการทำงานเป็นทีม มีประสิทธิภาพสูง และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยทุกผลิตภัณฑ์ของ อะโกรไฟเบอร์ จะผลิตจากความตั้งใจ ที่จะมอบ “คุณค่า” ที่ดีที่สุดจากเราสู่ลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคนทั่วโลก และ เราพร้อมเสมอที่จะดูแลและให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนของการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้เราและลูกค้าเติบโตไปพร้อมกัน จากธุรกิจต้นน้ำที่มั่งคงและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อะโกรไฟเบอร์ พร้อมส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าคนสำคัญของเรา ... อ่านเพิ่มเติม