Marquetry คืออะไร? ค้นหาคำตอบไปกับ Path Design และตัวอย่างลวดลายเบื้องต้น

เดิมที Marquetry เป็นเทคนิคของการต่อไม้ โดยการนำไม้ที่มีลายต่างกันมาตัดต่อใหม่ให้เกิดเป็นรูปต่างๆ มีทั้งรูปเหมือนจริง และ Abstarct แต่โดยส่วนมากเน้นทำเป็นรูปทรงเรขาคณิต   ในปัจจุบันเราสามารถนำเทคนิคนี้มาประยุกต์ใช้กับการตัดต่อลายแผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนต (High Pressure Laminate) ได้เช่นกัน เนื่องจากพื้นผิวของวัสดุมีความใกล้เคียงกับไม้จริงมาก ทั้งในเรื่องของสีสัน ลวดลายและเท็กซ์เจอร์ นอกเหนือจากแผ่นลามิเนตลายไม้แล้ว กรีนแลมยังมีลายให้เลือกอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ลายหิน ลายกราฟิก สีพื้น และอื่นๆ สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมไอเดียการออกแบบลวดลายกันครับ

1. ลายก้างปลาหรือลายเฮอร์ริ่งโบน (Herringbone)

ลายเฮอร์ริ่งโบนคือการใช้ไม้ที่มีลักษณะยาวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาเรียงแพทเทิร์นแนวเฉียงให้เหมือนก้างปลา สามารถใช้วัสดุที่มีสีหรือลวดลายต่างกันหรือลายเดียวกันแต่วางแผ่นคนละแนวสลับกันเพื่อให้เกิดความแปลกใหม่และมีความน่าสนใจได้

2. ลายรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม (Box)

ลักษะการต่อลายให้มีลักษณะเป็นทรงกล่องสี่เหลี่ยมนั้นใช้การตัดวัสดุ 3 สามลาย โดยแต่ละลายนั้นเป็นรูปร่างที่ต่างกัน ควรเลือกลายให้มีสีที่ต่างกันชัดเจนโดยแบ่งเป็น 3 เฉดคือ สีเข้ม สีกลาง และสีอ่อน จากนั้นจึงนำมาต่อกันให้ดูคล้ายภาพสามมิติด้วยการสลับสีไม้ ซึ่งจะทำให้ดูเหมือนกล่องที่มีแสงเงาตกกระทบนั่นเอง 

3. ลายหกเหลี่ยมหรือลายเฮค-ซะก็อน (Hexagon)

ลาย Hexagon คือการนำเอารูปหกเหลี่ยมมาเรียงต่อกัน ลายนี้เป็นรูปแบบพื้นฐานที่นิยมนำไปใช้กับงานออกแบบต่างๆ เช่น รูปแบบของกระเบื้อง ลวดลายวอลเปเปอร์ เราสามารถเลือกใช้แผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตสีเดียววางสลับทาง หรือใช้แผ่นลามิเนตหลายลายผสมกันก็ได้ หรือทำให้มีมิติเพิ่มขึ้นโดดยการเสริม Backing ด้านหลังให้แต่ละชิ้นมีความสูงที่แตกต่างกัน ก็จะได้เอฟเฟกต์ที่แตกต่างออกไป

4. รูปแบบพัดหรือแบบเห็ด (Mushroom)

รูปแบบการต่อลายที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงพัด เห็ด หรือคลื่น รูปแบบการต่อลายนี้จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจทำให้ดูเหมือนลายสามมิติ ควรใช้แผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตอย่างน้อย 2 ลายเช่นกันเพื่อให้เห็นลวดลายที่ชัดเจนขึ้น  หรือหากใช้หลายลายแล้วนำมาเรียงต่อกันแบบสุ่มก็สวยไปอีกแบบ

5. รูปแบบวงกลม (Circle)

การต่อลายแบบวงกลมนั้นสามารถทำได้ 2 แบบคือ แบบวงกลมเดี่ยวๆ และแบบวงกลมที่ซ้อนทับกัน แบบวงกลมเดี่ยวๆ นั้นควรใช้แผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตอย่างน้อย 2 ลายคือส่วนที่เป็นวงกลมและส่วนของพื้นหลัง สำหรับวงกลมที่ซ้อนทับกันนั้นจะมีความซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อย เพราะเมื่อซ้อนกันจะมีส่วนที่ดูเหมือนดอกไม้ ควรใช้แผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตอย่างน้อย 2 ลายเช่นกันเพื่อให้เห็นลวดลายที่ชัดเจนขึ้น  

จะเห็นได้ว่าแผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตนั้นสามารถผสมผสานลวดลายกันเพื่อให้เกิดเป็นลายใหม่ๆ ไม่ซ้ำใครได้ตามต้องการโดยใช้ลวดลายต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้นนนั้นเป็นลายพื้นฐานซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ นอกจากนี้แผ่นลามิเนตยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ปลอดภัยกับผู้ใช้งานเนื่องจากสามารถต้านทานการเจริญเติบโตของเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินชีวิตแบบ New Normal ในยุคปัจจุบัน สามารถอ่านรายละเอียดเรื่องคุณสมบัติของสินค้าเพิ่มเติมได้จากลิ้งก์บทความด้านล่างนี้ครับ  

สนใจติดต่อ 02-2091-2569 

หรือกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่

www.wazzadu.com/page/greenlam/contact

และ line ID Greenlam : @greenlam​

line ID Crystalboard : @crystalboard

#Wazzadu #GreenlamLaminates #Laminates #HighPressureLaminate #HPL #PathDesign #CrystalBoard #PathDesign #Marquetry #ลามิเนต #ลามิเนตปิดผิวผนัง #กรีนแลม #ไฮเพรสเชอร์ลามิเนต #ลามิเนตปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ #คริสตัสบอร์ด