รวมวัสดุปูพื้นราคาไม่เกิน 400 บาทต่อตารางเมตร
"วัสดุปูพื้น" ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัสดุตกแต่งที่มีความสำคัญสำหรับที่พักอาศัย วันนี้ Wazzadu จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลราคาของวัสดุปูพื้นที่ราคาไม่เกิน 400 บาท/ตารางเมตร และสรุปข้อดี ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ จะมีวัสดุปูพื้นประเภทไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปชมกันได้เลยครับ...
พื้นลามิเนต
ช่วงราคาอยู่ที่ : 390-2,000 บาท/ตรม.
ช่วงราคาของพื้นไม้ลามิเนตจะแบ่งออกตามเกรดของพื้นไม้ ดังนั้น ราคาจะมีตั้งแต่แบบถูกคือหลักร้อย ไปจนถึงราคาแพงคือหลักพันต่อตารางเมตรเลยทีเดียว
Raw Material วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
- ชั้นที่ 1. Overla/Wear Layer ส่วนของชั้นฟิล์ม หรือชั้นเคลือบผิว
- ชั้นที่ 2. Decorative Paper หรือ Decorative Film วัสดุพิมพ์ลายไม้ที่ปิดทับด้านบนของพื้นไม้ลามิเนต
- ชั้นที่ 3. Core Board ส่วนแกนของแผ่นไม้ลามิเนตที่ทำให้แผ่่นลามิเนตแข็งแรง เช่น ไม้อัด HDF
- ชั้นที่ 4. Backing or Stabilizing Film อยู่ใต้ชั้นแกนหลัก มักใช้วัสดุเป็นแผ่นรองไฟเบอร์กลาส ส่วนนี้ช่วยป้องกันความชื้น
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต
- มีผิวสัมผัสที่สวยงามให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริง
- สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้
- มีความทนทานต่อการรับน้ำหนัก และแรงกระแทกขีดข่วน
- มีน้ำหนักเบา
- ติดตั้ง หรือ เปลี่ยนแผ่นแบบเฉพาะจุดโดยไม่ต้องรื้อใหม่ทั้งหมดเวลาเเผ่นใดแผ่นนึงเกิดความเสียหาย ซึ่งทำได้ง่ายรวดเร็วด้วยระบบกลไกการล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ หรือที่เรียกว่า Click Lock
- สามารถปูทับ พื้นกระเบื้อง เซรามิค ได้เลย
ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต
- ไม่ทนน้ำ และความชื้นสูง ถ้าหากโดนน้ำขังนานเกิน 12 ชั่วโมงขึ้นไป จะทำให้เกิดการพองบวม และบิดตัว
- มีโอกาสโดนปลวกกินถ้าเลือกใช้เกรดไม่ดี
- มักจะเกิดความเสียหายเวลาที่รับน้ำหนักวัตถุที่มีลักษณะเป็นเดือยแหลมคม เช่น ส้นของรองเท้าส้นแหลม เป็นต้น
- ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยการใช้แว๊กซ์ น้ำยาขัดเงา หรือ น้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่ เพราะจะทำให้พื้นลามิเนตเกิดความเสียหายได้
พื้นกระเบื้องยาง (Rubber Tile Flooring)
ช่วงราคาอยู่ที่ : 165-1500 บาท/ตรม.
ช่วงราคาของวัสดุปูพื้นอย่างกระเบื้องยางไวนิลจะคล้ายกับพื้นประเภทลามิเนตคือมีตั้งแต่แบบถูกไปจนถึงแพง ขึ้นอยู่กับวัสดุหรือเกรดของพื้นกระเบื้องยาง
Raw Material : วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
- วัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ยางพารา ฯลฯ
- วัตถุดิบโพลิเมอร์ที่ได้จากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น สารสังเคราะห์ไวนิล ยางพีวีซี โพลียูรีเทน ฯลฯ
ข้อดีของพื้นกระเบื้องยาง
- มีพื้นผิวให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้ภายใน และภายนอกอาคาร
- ให้การยึดเกาะที่ดี ช่วยลดการลื่น ให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน
- ทนทานต่อสภาวะอากาศ และสิ่งแวดล้อมปกติ
- มีความคงทน เหนียว และคงรูปได้ดี
- มีทนต่อความชื้นได้ดี
- หมดปัญหาเรื่องปลวก และทำความสะอาดง่าย
- ใช้เวลาติดตั้งไม่นาน ไม่เกิดฝุ่น ไม่เสียงดังขณะติดตั้ง
- กระเบื้องยางที่ใช้ภายในอาคารบางประเภท ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งได้ด้วยตนเอง
- รอยต่อระหว่างแผ่นสนิท ลดปัญหาความสกปรกของร่องยาแนว ที่มักจะพบได้จากการปูกระเบื้องแบบทั่วๆไป
ข้อเสียของพื้นกระเบื้องยาง
- เกิดรอยขีดข่วนง่าย ไม่ทนต่อการลากถูสิ่งของบนพื้นผิว
- ไม่ทนต่อกรด ด่าง และสารเคมีบางประเภท
- ไม่ทนต่อรถเข็นล้อยาง หากใช้ในสถานที่มีรถเข็นที่ใช้ล้อเลื่อนเป็นยางจะทำให้ผิวหน้าเสียหาย ควรเลือกใช้ล้อประเภทพลาสติก หรือ ล้อในล่อน
- อาจเกิดการยืดหดตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติ ถ้าหากเลือกใช้กระเบื้องยางเกรดไม่ดี
- อาจเกิดความเสียหายจากความชื้นสูง หรือ โดนน้ำท่วมขัง ถ้าหากเลือกใช้กระเบื้องยางเกรดไม่ดี
- การติดตั้งทับพื้นกระเบื้องเซรามิค ต้องปรับตรงยาแนวให้เรียบก่อน ถ้าปูทับโดยไม่ปรับระดับยาแนวให้เรียบจะทำให้กระเบื้องยางเป็นลอนคลื่นอย่างชัดเจน
กระเบื้องเซรามิก
ช่วงราคาอยู่ที่ : 320-990 บาท/ตรม.
Raw Material : วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
- วัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นหลัก เช่น ดิน หิน และแร่ต่างๆ
- วัตถุดิบประเภทสารช่วยหลอม (Fluxes) เป็นแร่ที่ประกอบด้วยอัลคาไลน์หรืออัลคาไลน์เอิร์ท
- วัตถุดิบประเภทตัวเติม (Fillers) : โดยทั่วไปแล้วทรายแก้ว ที่ใช้ในส่วนผสมของเนื้อดิน
- ปูนปลาสเตอร์ สารเคลือบ และสีผสมต่าง ๆ
ข้อดีของกระเบื้องเซรามิก
- มีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี
- เป็นรอยขีดข่วนยาก
- ไม่กลัวปลวก ทนต่อความชื้นในสภาพอากาศเขตร้อนชื้น
- ทนต่อความร้อนสูง ไม่ติดไฟ ไม่มีกลิ่น และไม่นำไฟฟ้า
- ติดตั้งได้ง่าย และรวดเร็ว
- มีลวดลาย และโทนสีให้เลือกอย่างหลากหลาย
- ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ และหาซื้อได้ง่าย
- ผิวสัมผัสมีความเย็น จึงช่วยสร้างสภาวะอากาศที่เย็นสบายภายในอาคาร แม้ด้านนอกอาคารจะร้อนก็ตาม
- ง่ายต่อการทำความสะอาด
ข้อเสียของกระเบื้องเซรามิก
- เวลาเปียกน้ำมักจะดูดซึมน้ำสูง และมีความลื่นเสี่ยงเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน
- เมื่อรื้อแล้ว ไม่สามารถนำกลับมาปูใช้ใหม่ได้
- ไม่เหมาะกับพื้นที่ ที่จะต้องรับน้ำหนักมาก เพราะกระเบื้องเซรามิกอาจปริแตก หรือ ร้าวได้
- อุณหภูมิของผิวสัมผัสมีความเย็น ไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานในห้องของผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
กระเบื้องแกรนิตโต้ Granito Tile
ช่วงราคาอยู่ที่ : 220-990 บาท/ตรม.
Raw Material : วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
- ผงหินแกรนิตโต้บดที่ได้จากหินแกรนิตธรรมชาติ แล้วนำไปผ่านการเผาด้วยความร้อนสูง
- เคลือบผิวหน้าวัสดุด้วยสารเคลือบผิว เพื่อความเงางามและทำความสะอาดง่าย
ข้อดีของกระเบื้องแกรนิตโต้
- มีความแข็งแรงสูง
- มีสีและแบบให้เลือกหลากหลาย
- รอยต่อระหว่างแผ่นน้อยกว่ากระเบื้องทั่วไป
- มีความทนทานต่อการขีดข่วน
- หากเกิดรอยขีดสามารถขัดสีได้
- เป็นวัสดุปูพื้นที่การดูดซึมน้ำต่ำมาก
- รับน้ำหนักได้ดี
- ทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่าย
- มีอายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสียของกระเบื้องแกรนิตโต้
- ค่าปูกระเบื้องแพงมากกว่ากระเบื้องแบบอื่นๆ
- ปูค่อนข้างยากกว่าแบบอื่นๆ
- มีโอกาสที่กระเบื้องจะเกิดการยกตัวขึ้นมาจากพื้น จากการปูกระเบื้องชิดกันเกินไป
- ผิวสัมผัสที่ดูแข็ง และเย็นเท้า
พรมอัดปูพื้น
ช่วงราคาอยู่ที่ : 380-900 บาท/ตรม.
Raw Material : วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
แบ่งตามประเภทของพรมได้ดังต่อไปนี้
- พรมอัดเรียบ (Needle punched) ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอัดเส้นใยสังเคราะห์ออกมาเป็นแผ่น
- พรมอัดลูกฟูก ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์โพลิโพรพิลีน (Polypropylene หรือ PP) และโพลิเอสเตอร์ (Polyester หรือ Pet)
- พรมดักฝุ่น มักผลิตจากพีวีซี เน้นการใช้งานเพื่อช่วยดักฝุ่นกรวดทรายก่อนเข้าบ้าน
- พรมทอมือ เช่น พรมขนสัตว์ทอมือ พรมอะครีลิกทอมือ
ข้อดีของพรมปูพื้น
- ความสวยงามของลวดหลาย และสร้างบรรยากาศที่ดีในงานตกแต่ง
- เดินแล้วสบายเท้า เหมาะสำหรับพื้นที่ที่อากาศหนาว
- เป็นวัสดุปูพื้นที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ช่วยลดอุบัติเหตุ
- ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี
ข้อเสียของพรมปูพื้น
- เสียหายง่าย ไม่ทนทาน
- ทำความสะอาดยาก โดยเฉพาะเมื่อเลอะคราบต่างๆ
- พรมบางรุ่นค่อนข้างเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อรา
- พรมคุณภาพดีมักมีราคาสูง
- ไม่เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงสัตว์ เพราะอาจจะทำให้ขนของสัตว์เลี้ยงติด หรือกรณีที่สัตว์เลี้ยงขับถ่ายที่พรม จะทำความสะอาดค่อนข้างยาก
เสื่อน้ำมัน Linoleum
ช่วงราคาอยู่ที่ : 75-399 บาท/ตรม.
Raw Material : วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
วัสดุที่ถูกนำมาทำเป็นเสื่อน้ำมันมีหลากหลาย เช่น เสื่อน้ำมันหรือยางพารา เสื่อน้ำมันโพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC)
ประเภทของเสื่อน้ำมันแบ่งได้ 5 แบบคือ
- แบบที่ 1 เสื่อบางไม่เคลือบใส มีแค่ 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นล่างกับชั้นพื้นพิมพ์ ผิวสัมผัสมัน
- แบบที่ 2 เสื่อบาง นิยมใช้ในงานปูโต๊ะหรือปูพื้นชั่วคราว ผิวสัมผัสมัน
- แบบที่ 3 เสื่อกลาง นิยมใช้ปูพื้น ผิวสัมผัสมัน
- แบบที่ 4 เสื่อหนาผิวทราย นิยมใช้ปูพื้น ผิวสัมผัสหยาบคล้ายผิวทราย
- แบบที่ 5 เสื่อคลาสสิก เกรดที่ดีที่สุดของเสื่อน้ำมัน มีความหนาและทนทาน ผิวสัมผัสเป็นเม็ดๆ ช่วยกันลื่นได้
ข้อดีของเสื่อน้ำมัน
- เป็นวัสดุปูพื้นที่มีราคาถูก
- ทำความสะอาดได้ง่าย เพราะเสื่อน้ำมันไม่มีร่องยาแนว
- มีคุณสมบัติที่กันน้ำได้ อีกทั้งยังทนต่อความชื้นได้ดี
- มีลวดลายให้เลือกหลายแบบ
- สามาถติดตั้งและรื้อถอนง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง
ข้อเสียของเสื่อน้ำมัน
- สามารถมองเห็นตะเข็บหรือขอบของเสื่อน้ำมันได้ง่าย อาจจะดูไม่สวยงามนัก
- เกิดการเปิดหรือขยับได้ง่ายเวลาที่ทำการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
- เสื่อน้ำมันที่มีคุณภาพต่ำที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำของอากาศในห้องพักสามารถร้าวหรือเปลี่ยนรูปได้
- เกิดการชำรุดเสียหายได้ง่าย
ข้อมูลวัสดุศาสตร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
อ้างอิงข้อมูลจาก
- Wazzadu.com
- mpi.co.th
- thetvmom.com
- roxyrugs.com
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม