Apple Store Central World กับแนวคิดในการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุที่น่าสนใจ

แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Apple ที่ผลิตสินค้าทางด้านเทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และอุปกรณ์เสริมต่างๆ อย่างที่ทราบกันดีว่า ในการเปิดตัวสินค้าใหม่แต่ครั้งจะมีผู้ที่ติดตามข่าวสารและลุ้นว่าจะมีอะไรว้าวๆ จากทาง Apple ออกมาอีก

แต่ไม่ใช่เพียงแค่ด้านผลิตภัณฑ์เท่านั้นที่ผู้คนให้ความสนใจ แต่รวมไปถึงการสร้าง Apple Store แต่ละสาขาทั่วโลก ที่ผู้คนให้ความสนใจมากไม่แพ้กัน ด้วยความล้ำสมัยและการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งสร้างความโดดเด่น ดึงดูดสายตาของผู้คนได้มากมาย และล่าสุดนี้กับ Apple Store สาขา Central World

Apple Store สาขา Central World ตั้งอยู่ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เข้าได้จากชั้น 1 ของห้าง และชั้น 2 ทางสกายวอล์คราชประสงค์ ซึ่ง Apple Central World สาขานี้ถือเป็นสาขาที่ 4 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยก่อนหน้าจะมีที่สิงคโปร์ 2 แห่ง และในไทย 1 แห่งที่ไอคอนสยาม ซึ่งล่าสุดนี้กับ Apple Store สาขา Central World ที่นับเป็นสาขาที่ 511 ของโลก

Apple Store สาขา Central World

สถาปนิก นักออกแบบ : Foster + Partners

ช่างภาพ : Bear and Terry

ขอบคุณภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

การออกแบบที่น่าสนใจ

โครงการ Apple Store สาขา Central World นี้ เป็นการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมงานที่ของ Apple และสถาปนิกจาก Foster+Partners 

ดีไซน์ของร้านจะเป็นรูปแบบ Tree Canopy (ชั้นเรือนยอด) การตกแต่งเสมือนกับต้นไม้ที่แผ่ขึ้นมาเป็นส่วนของหลังคา บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของ Apple Store สาขา Central World แห่งนี้ ที่มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังยืนมองลำต้นของต้นไม้ขนาดใหญ่

ซึ่งเสาไม้ที่โดดเด่นนี้ไม่ใช่มีไว้เพียงแค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นโครงสร้างของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ด้วย ถือว่าเป็นการดีไซน์ที่คุ้มค่าและชาญฉลาด เพราะได้ทั้งเรื่องของความสวยงามและประโยชน์ด้านโครงสร้างที่แข็งแรง

โดยรอบของอาคารเป็นกระจก ที่เมื่อมองจากภายนอกเข้าไปจะเห็นการออกแบบตกแต่งภายในได้อย่างชัดเจน และหากมองจากภายในออกไปก็จะสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ดังนั้น จึงทำให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการหรือเยี่ยมชมรู้สึกถึงความปลอดโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัดทึบตัน

เมื่อเดินเข้าไปข้างในจากทางเข้าชั้น 1 จะพบความโดดเด่นของเสาของอาคาร ที่เลือกใช้วัสดุอย่าง "ไม้" เป็นวัสดุหลักๆ ในการตกแต่งเพื่อให้ได้ความรู้สึกธรรมชาติ ซึ่งความพิเศษคือแผ่นไม้ที่มีขนาดยาวและถูกดัดโค้งเพื่อให้รับกับความโค้งของเสา การเรียงต่อที่เรียบเนียน ไร้ตะปูหรือคราบกาวที่จะทำให้รู้สึกขัดสายตา เทคนิคนี้ถูกตกแต่งตั้งแต่บริเวณเสาตรงกลางแผ่ขยายไปจนถึงส่วนของเพดาน และเมื่อมองขึ้นไปก็จะพบว่ามีการติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับอาคารไว้แล้ว เช่น ไฟ สปริงเกอร์ดับเพลิง หรือลำโพง ซึ่งเป็นการติดตั้งแบบเนียนๆ ไม่ทำให้เกะกะหรือรกสายตา

ทางเชื่อมขึ้นไปชั้น 2 นอกจากบันได้วนที่อยู่บริเวณรอบของเสาไม้ ยังมีลิฟท์ทรงกระบอกที่พาไปได้ทั้งชั้น 2 และชั้นใต้ดิน ซึ่งส่วนนี้มีความโดดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่นๆ กับการตกแต่งด้วยวัสดุอย่าง Stainless steel ที่มีความเงางามและมีพื้นผิวใกล้เคียงกับกระจก เรียกได้ว่ากลมกลืนไปกับวัสดุตกแต่งอื่นๆ ได้อย่างลงตัว

ในส่วนของพื้นบริเวณชั้น1 หากสังเกตดีๆ จะพบว่าพื้นภายในร้านกับพื้นบริเวณนอกร้านจะมีการใช้วัสดุปูพื้นที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เพื่อสร้างความต่อเนื่องของดีไซน์ทั้งภายในร้านและบริเวณนอกร้านให้ดูเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แบ่งแยก ซึ่งบริเวณรอบนอกก็จะมีที่นั่งสำหรับเป็นจุดนั่งพักผ่อน ตกแต่งด้วยต้นไม้สร้างบรรยากาศธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง

วัสดุที่ใช้

  • กระจก
  • ไม้
  • สเตนเลส

Apple Store สาขา Central World นี้ ยังคงคอนเซ็ปต์การเลือกใช้วัสดุที่ใกล้เคียงกับ Apple Store สาขาอื่นๆ คือเน้นความเรียบ ทันสมัย โปร่งโล่ง จึงมีการนำวัสดุอย่าง "กระจก" มาใช้เป็นวัสดุหลัก ซึ่งกระจกที่เลือกมาใช้ก็เป็นกระจกแบบสั่งทำมาพิเศษที่มีความหนาถึงสองชั้น รับประกันได้ในเรื่องของความปลอดภัย

ต่อมาคือวัสดุที่เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับงานออกแบบอย่าง "ไม้" ซึ่งไม้ที่ถูกนำมาใช้ เป็นประเภทไม้ที่นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ และที่สำคัญคือเป็นไม้จากป่าปลูก ที่เมื่อถูกตัดและนำมาใช้แล้วจะมีการปลูกชดเชยขึ้นมาใหม่ จึงไม่เป็นการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การนำ "Stainless steel" มาเป็นวัสดุตกแต่งบริเวณลิฟต์ทรงกระบอก ที่สร้างความสวยงามโดดเด่น แต่ก็ยังกลมกลืนกับวัสดุอย่างกระจกซึ่งเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง นอกจากลิฟต์ ยังมีอีกส่วนที่ใช้สเตนเลสก็คือส่วนของบันได้วน ความพิเศษคือแต่ละขั้นของบันไดจะไม่มีความเป็นเหลี่ยมมุม อีกทั้งเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปจะพบว่าความเงางามของสเตนเลส นั้นเข้ากันได้ดีกับวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ได้อย่างลงตัว

การแบ่งพื้นที่ของแต่ละชั้นที่น่าสนใจ

ชั้นที่ 1 : Product Zone

จะเป็นโซนจัดแสดงสินค้าต่างๆ ของทาง Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad Mac Apple Watch และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ซึ่งการตกแต่งจะเน้นความโปร่งโล่ง สบายตา แม้แต่โต๊ะที่จัดวางสินค้าซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องใช้การต่อสายไฟในการทดลองใช้งาน ก็ไม่มีสายไฟที่รกสายตา เพราะถูกเก็บซ่อนไว้หมด ทำให้ดูแล้วเป็นระเบียบเรียบร้อย 

ชั้นที่ 2 :  Today at Apple

ในส่วนของชั้น 2 จะถูกจัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งคงคอนเซ็ปต์ท์ของ Apple Store เหมือนเช่นเคย มีหน้าจอขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่ในหลายๆ สาขา เป็นส่วนที่มีไว้เพื่อจัดกิจกรรม Today at Apple หรือเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ Apple เป็นผู้จัดขึ้น เช่น กลุ่มครีเอทีพ กลุ่มสร้างสรรค์คอนเทนต์ ดนตรี การถ่ายภาพ พื้นที่ส่วนนี้ก็จะเป็นเหมือนเวิร์คช็อปขนาดย่อมเพื่อสอนการใช้งานเบื้องต้นผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ต่างๆ ให้กับผู้ที่มารับชม

ชั้นใต้ดิน : Boardroom

ลักษณะการออกแบบเสมือนห้องรับรองหรือห้องนั่งเล่น เพื่อรองรับการประชุม การเจรจาทางธุรกิจ การจัดประชุมของนักพัฒนา คู่ค้า หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ในกรณีที่มีหัวข้อในการปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของทาง Apple ซึ่งต้องมีการจองหรือนัดล่วงหน้าก่อน การตกแต่งด้วยวัสดุจากไม้ และมีอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรองรับการประชุม

ข้อมูลวัสดุศาสตร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

อ้างอิงข้อมูลจาก

  • www.archdaily.com

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
ระบบสุขาภิบาลในอาคาร Building sanitary system

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

ไอเดียมาใหม่

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
ระบบสุขาภิบาลในอาคาร Building sanitary system

โพสต์เมื่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ