เกร็ดฮวงจุ้ย-ไว้คุยแบบบ้าน

รูปประกอบ unreservedmedia.com

ไม่ว่าจะมีวิกฤตโรคระบาดหรือไม่อย่างไร การปลูกบ้านสำหรับบางคนเป็นเรื่องที่หยุดตามโรคไม่ได้ สำหรับท่านผู้อ่านที่กำลังทำบ้านในเวลานี้ ผู้เขียนเชื่อว่าอำนาจในการตัดสินใจว่าบ้านจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น อาจจะไม่ได้มาจากตัวเรา 100% แต่อาจมาจากซินแสถึง 50% (หรือตามความเชื่อที่มากน้อย)

ซึ่งในสังคมไทย(ผสมจีน)ที่มีความเชื่อนำในการดำเนินชีวิต เราจึงอาจจะหนีไม่พ้นฮวงจุ้ยที่จะต้องนำมาออกแบบบ้าน เพื่อความสุขและโชคลาภในการอยู่อาศัย

เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาแก่ตนเองและซินแสที่จะมายุ่งเกี่ยว การมีพื้นฐานความรู้ฮวงจุ้ยในระดับหนึ่ง ก็อาจจะช่วยให้เรามีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้นว่าบ้านควรออกมาเป็นอย่างไร โดยครั้งนี้ผู้เขียนได้รวบรวมความรู้พื้นฐานมาฝาก

รูปประกอบจาก slingshot.com

1. ความหมาย

‘ฮวง’ แปลว่า ‘ลม’  ‘จุ้ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ลมกับน้ำคือตัวแทนของพลังงานในเชิงสัญลักษณ์ ที่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติและมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ฮวงจุ้ยคือศาสตร์ความเชื่อโบราณที่เกิดจากการวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของพลังงานที่ไหลเวียนภายในบ้าน และนำมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ให้เหมาะสมกับผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้าน

รูปประกอบจาก r-cf.bstatic.com

2. องค์ประกอบ

องค์ประกอบของฮวงจุ้ยที่จะนำมาใช้เป็นเกณฑ์เพื่อวิเคราะห์ เราสามารถแยกเป็น 3 เรื่อง

1. สิ่งที่เปลี่ยนตามกาลเวลา เช่น แสงแดดลมฝนตามช่วงเวลาและฤดูกาล

2. สถานที่ที่ตั้งและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ที่มีจะผลต่อแดดลมฝนที่เปลี่ยนตามกาลเวลา

3. พลังงานและระดับจิตวิญญาณของผู้อาศัย ไม่ว่าจะเป็นอายุ สุขภาพ การงานอาชีพ

ซึ่งองค์ประกอบ 3 เรื่องนี้ คือสิ่งที่ต้องนำมาคิดวิเคราะห์ผสานกันเสมอในศาสตร์ของฮวงจุ้ย โดยมุ่งให้เกิดการอยู่อาศัยที่สบายและตอบโจทย์ที่สุด

รูปประกอบ fengshuitoday.com

3. ธาตุและทิศ

ในศาสตร์ฮวงจุ้ยสามารถแบ่งทุกอย่างบนโลกเป็น 5 ธาตุ ได้แก่ น้ำ ไม้ ไฟ ทอง ดิน ซึ่งแต่ละธาตุจะมีทิศประจำของตนเองตามสิ่งแวดล้อมเวลา ได้แก่

ธาตุน้ำ-ทิศเหนือ เพราะน้ำไหลจากเหนือลงใต้

ธาตุไม้-ทิศตะวันออก เพราะแสงแดดตอนเช้าทำให้ต้นไม้เติบโต

ธาตุไฟ-ทิศใต้  เพราะเป็นทิศที่แดดสาดตลอดทั้งวัน

ธาตุทอง-ทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศที่เมื่อพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นแล้วท้องฟ้าเป็นแสงแสงสีทอง

ธาตุดิน-ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ เพราะเป็นทิศที่ไม่โดนแดดในยามเช้าและโดนแดดไม่ร้อนมากในยามเย็น

ซึ่งเราอาจจะต้องลงมาดูว่าสิ่งไหนอะไรคือธาตุไหนอีกที(อาจจะต้องเปิดตำราควบคู่) แต่หัวใจสำคัญของมันก็คือจับสิ่งของที่เป็นธาตุนั้นๆ  มาอยู่ให้ตรงกับทิศธาตุที่ส่งเสริมกัน โดยไม่เอาธาตุที่ไม่เข้ากันมาอยู่ด้วยกัน เช่น ทิศธาตุน้ำเจอกับของธาตุไฟ

รูปประกอบจาก urganabenson.com

4. ตัวอย่างการใช้ฮวงจุ้ยตัดสินใจ

ตัวอย่างเช่นเราจะต้องตั้งศาลเจ้าตรงไหนดีในบ้านโดยใช้ฮวงจุ้ยมาจับ ก็ต้องมาดูว่าศาลเจ้าของเราเป็นธาตุอะไร ซึ่งปกติศาลเจ้ามักจะเป็นธาตุไฟ เพราะต้องจุดเทียนและธูปให้เกิดไฟเสมอ ดังนั้นเราก็ควรมองตำแหน่งการวางในทิศตะวันออกซึ่งคือธาตุไม้ เพื่อให้เป็นเชื้อเพลิงทำให้ธาตุไฟของศาลลุกสว่างไสวมงคล

บวกกับทิศตะวันออกก็เป็นทิศที่นิยมทำเป็นประตูทางเข้าบ้าน เพราะเป็นทิศที่กระแสลมไหลเข้าบ้านได้ดี กลายเป็นว่าศาลจะสมควรตั้งที่ทางเข้าบ้านพอดีตามทฤษฎีฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นเรื่องดีทั้งในความเชื่อที่เวลาเรากลับบ้านแล้วเห็นเทพเจ้าก่อนเข้าบ้าน และดีทั้งในการไหลเวียนของอากาศจากทิศของลมที่เข้ามาในบ้าน

รูปประกอบจาก cdn.cnn.com

หากเรามีความรู้เรื่องการออกแบบบ้านที่ดีอยู่แล้ว ถ้าลองนำหลักฮวงจุ้ยมาจับประยุกต์อะไรอีกนิดๆ หน่อยๆ ผู้เขียนเชื่อว่าจะช่วยประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้นเวลาคุยกับซินแส และช่วยในการออกแบบบ้านของเราได้อย่างลงตัวและมีโชคที่ดีนั่นเอง

ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์
สถาปนิกและนักเขียน มีคอลัมน์ประจำในนิตยสารออนไลน์ The Cloud ชื่อ ‘อาคิเต็ก-เจอ’ ปัจจุบันกำลังทำสตูดิโอสถาปนิกชื่อว่า Everyday Architect & Design Studio สนใจการออกแบบที่สอดคล้องกับงานเขียนของตัวเองที่เรียกว่า Urban Vernacular Design ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
พื้นที่ความเชื่อของบ้านคนไทย

ไอเดียมาใหม่

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ