กระจก Low-E กับการออกแบบเพื่อลดการใช้พลังงานภายในอาคาร

การออกแบบอาคารในสมัยนี้มีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงนอกเหนือจากความสวยงามและฟังก์ชัน นั่นคือ ทำอย่างไรให้ตัวอาคารเกิดสภาวะน่าอยู่ สบาย และลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองให้มากที่สุด ซึ่งวิธีที่นิยมใช้มี 2 แบบคือ

Passive คือการวางผังอาคารให้มีส่วนที่รับความร้อนจากแสงแดดน้อยที่สุด การทำระแนงบังแดด หรือการปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงากับตัวอาคาร และอื่นๆ

Active คือ การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคาร เช่น การใช้กระจกสะท้อนความร้อน การออกแบบระบบไฟฟ้าแสงสว่างที่เหมาะสม หรือการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่เป็นรุ่นประหยัดพลังงาน และมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน หรืออื่นๆ

กระจกที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารนั้นก็มีหลายประเภทอีกเช่นกัน ที่นิยมใช้กันทั่วไปคือ กระจกสีตัดแสง กระจกรีเฟล็กทีฟ และกระจก Low-e ซึ่งหากเทียบประสิทธิภาพกันแล้ว จะพบว่า

กระจกสีตัดแสง

  • ข้อดีคือ แสงสว่างสามารถผ่านเข้ามาในตัวอาคารได้ ทำให้สะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มมากนัก 
  • ข้อเสียคือ ตัวกระจกสามารถส่งผ่านความร้อนที่เข้ามาในอาคารได้มาก

กระจกรีเฟล็กทีฟ

  • ข้อดีคือ ช่วยสะท้อนความร้อนความร้อนที่ส่องผ่านเข้ามาในอาคารได้เป็นอย่างดี ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างมาก  
  • ข้อเสียคือ สารที่เคลือบผิวกระจกนั้น ส่งผลให้แสงสว่างสามารถผ่านเข้ามาในตัวอาคารได้น้อย ภายในอาคารจะค่อนข้างมืด 

กระจก Low-e

  • ข้อดีคือ ความร้อนส่องผ่านเข้ามาในอาคารได้น้อยมาก ในขณะที่ตัวกระจกยังสามารถส่งผ่านแสงสว่างให้เข้ามาในตัวอาคารได้มาก
  • ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูงในตอนแรก เพราะในการใช้งานต้องใช้เป็นแบบอินซูเลท หรือการประกบกระจกเข้าหากันสองแผ่น และเว้นช่องว่างระหว่างกระจกไว้ เนื่องจากสารเคลือบนั้นไม่ค่อยทนทานต่อสภาวะอากาศโดยทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงาน ทั้งเครื่องปรับอากาศ และระบบไฟฟ้าแสงสว่างในระยะยาวแล้ว ถือว่าการเลือกใช้กระจก Low-e นั้นมีความคุ้มค่ากว่ามาก   

 

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วก็พบว่ากระจก Low-e นั้นเหมาะสมที่สุดเพราะสามารถกันความร้อนได้มาก และยังให้แสงสว่างผ่านเข้ามาในอาคารได้มากเช่นกัน 

ระบบการเคลือบผิวของ กระจก Low-e นั้นใช้วิธีการเคลือบแบบ Hard Coating ที่กระจก โดยมีกระบวนการเคลือบในขณะที่กระจกอยู่ในช่วง Semi molten glass หรือช่วงที่เป็นกึ่งน้ำกึ่งแก้ว ส่งผลให้ Tin Oxide ที่เคลือบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผิวกระจก จึงมีความแข็งแรงทนทาน และช่วยป้องกันการส่งผ่านความร้อน ซึ่งความร้อนสามารถผ่านเข้ามาได้เพียง 41.4% ในขณะที่ในกระจกทั่วไปนั้นมีความร้อนผ่านเข้ามาในตัวอาคารสูงถึง 73%

กระจก Low-e ของแบรนด์ TYK นั้นมีชื่อว่า Igglass ซึ่งมี 2 รุ่นด้วยกันคือ   

Double Silver Series

  • กระจกประหยัดพลังงานในระดับสูงสุด ป้องกันความร้อนผ่านกระจกในขณะที่ให้แสงส่องผ่านได้มาก
  • ให้ค่าสัมประสิทธิ์การส่งผ่านความร้อน (SHGC) ต่ำถึง 0.37*
  • ให้ค่าการส่องผ่านของแสง (Visible Light Transmission) สูงถึง 68%*
  • สามารถเพิ่มความปลอดภัยโดยการลามิเนทหรือเทมเปอร์ได้ตามต้องการ

 

Standard Series

  • กระจกประหยัดพลังงานสำหรับอาคารทั่วไปที่ต้องการแสงส่องผ่านเข้าภายในอาคารได้มาก
  • ป้องกันความร้อนในระดับปานกลาง ค่าสัมประสิทธิ์การส่งผ่านความร้อน (SHGC) 0.54*
  • สามารถเพิ่มความปลอดภัยโดยการลามิเนทหรือเทมเปอร์ได้ตามต้องการ

สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้

https://www.wazzadu.com/brand/104/contact

 

สอบถามข้อมูล และติดต่อสั่งซื้อได้ที่เบอร์ ฝ่ายขาย 02-960-2790 ,02-434-9590 -9

  มือถือ 085-111-5238​

Line: @tykgroup ,E-mail: info@glassform.co.th

TYK
Because "I love glass" ที่กลาสฟอร์ม พวกเรารักและให้ความใส่ใจกับกระจกทุกแผ่น เพราะเรามองกระจกเป็นมากกว่าวัสดุตกแต่งทั่วไป เพราะเราเห็นความสวยงามในการสร้างสรรค์ผลงานกระจก และเพราะเราเห็นรอยยิ้มของลูกค้าที่เกิดจากการใช้สินค้าของเรา ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

TYK

brand

โพสต์เมื่อ

TYK

brand

โพสต์เมื่อ

ไอเดียมาใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ