น้ำลด…ปัญหาผุด เคล็ด (ไม่) ลับ ซ่อมแซมบ้านไม้ที่รัก หลังเกิดน้ำท่วม

ฤดูฝนที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะบ้านเรือนส่วนใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานี จนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้ และแม้ว่าตอนนี้ปริมาณน้ำจะลดลงจนเป็นปกติแล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาหลังเกิดน้ำท่วม คือการซ่อมแซมข้าวของที่เสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน

โดยการซ่อมแซมไม้ภายในบ้าน มีวิธีการที่แตกต่างกันไปตามชนิดของไม้ ซึ่งควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน เพราะหากซ่อมแซมผิดวิธี ก็สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าเดิม 

มาดูกันครับว่า การซ่อมแซมส่วนต่างๆ ภายในบ้าน รวมทั้ง เฟอร์นิเจอร์ไม้ จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง

1. การซ่อมแซมไม้พื้นหลังน้ำท่วม
อันดับแรก ควรประเมินความเสียหายก่อน หากไม่มีความเสียหายใดๆ ให้เช็ดพื้นผิวหน้าไม้ให้แห้ง และเปิดหน้าต่าง-ประตูให้พื้นผึ่งลมระเหยความชื้นจนหมด ซึ่งจะทำให้พื้นไม้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่หากเนื้อไม้เกิดเป็นรอยน้ำซึมเข้าเนื้อไม้ ไม้มีการบิดตัว สีเคลือบไม้หลุดร่อน รอยต่อไม้แต่ละแผ่นขึ้นตะเข็บ พื้นโก่งขึ้น พื้นไม้หลุดออกจากปูน สามารถแก้ไขได้ด้วยการผึ่งพื้นไม้ให้แห้ง และทิ้งช่วงให้ความชื้นระเหยออกจากพื้นปูนประมาณ 15 วันขึ้นไป จึงเรียกช่างเข้ามาซ่อมแซมพื้นที่ไม้หลุด หรือโก่งตัว 

ในกรณีที่ไม้ไม่หลุดออก แต่กาวเสื่อมสภาพ ให้เจาะรูบริเวณไม้นั้นแล้วจึงอัดกาวลาเท็กซ์ลงไป รอระยะเวลาให้กาวแห้ง 7-15 วัน จากนั้นจึงทำการขัดพื้น และเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ ชนิดทาไม้ อย่าง "Solignum Colourless TK" ทาไม้ 3 ครั้ง เพื่อช่วยป้องกันปลวกและแมลงทำลายเนื้อไม้ ก่อนการทำสีใหม่

2. การซ่อมแซมผนังไม้หลังน้ำท่วม
หากพบเจอคราบน้ำตามผนัง ให้ตรวจสอบปัญหาร่องรอยการรั่วของไม้ หากเจอรอยรั่ว ควรทำการอุดโป๊วให้เรียบร้อยเสียก่อน หากไม้เสียหายจนมีอาการบวมจากน้ำขัง ให้ทำการรื้อฝาไม้ส่วนล่างของผนังออกเพื่อระบายความชื้น ส่วนขอบผนังด้านนอกควรเช็ดทำความสะอาดเพื่อให้ผิวสามารถระบายความชื้นได้ง่ายขึ้น เมื่อแห้งดีแล้ว ใช้ น้ำยารักษาเนื้อไม้ "Solignum Colourless TK" ทาพื้นผิวก่อนการทำสีต่อไป (วิธีที่ถูกต้องควรทาสีด้านในบ้านก่อนทิ้งไว้ 5-6 เดือน จึงทาสีด้านนอกต่อ)

3. การซ่อมแซมโครงคร่าวไม้หลังน้ำท่วม 
สำหรับส่วนที่เป็นโครงคร่าว เช่น โครงผนัง คานรองพื้น ไม้หน้าจั่ว ฯลฯ โครงสร้างเหล่านี้มักทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้ตะเคียนทอง ไม้แดง ฯลฯ ซึ่งปกติแล้ว ไม้เนื้อแข็งเกือบทุกชนิดจะมีความแข็งแรง ทนทานต่อน้ำได้นานเป็นเดือน โดยไม่ผุกร่อนเสียหาย หรือหากเสียหายก็จะน้อยมาก

หากต้องการประเมินด้วยสายตาว่าควรซ่อมแซมหรือไม่ มากน้อยเพียงใด ให้ทำขัดพื้นผิวของไม้ใหม่ แล้วใช้ ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ ชนิดทาไม้ อย่าง "Solignum Brown TK" ทาทับทุกด้านของไม้ รวมทั้งส่วนที่เป็นหน้าตัดไม้ เพื่อช่วยป้องกันปลวกและแมลงทำลายเนื้อไม้ โดยโซลิกนั่ม บราวน์ ทีเค ยังประกอบไปด้วยสารป้องกันหยดน้ำ (Water repellant) ที่ช่วยให้น้ำไม่เกาะซึมเข้าไปในเนื้อไม้ ช่วยป้องกันความชื้นจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม้ทนทานยาวนานยิ่งขึ้น 

4. การซ่อมแซมประตูไม้หลังน้ำท่วม
"ประตูไม้" เมื่อน้ำแช่นานก็จะบวมและผุพัง สามารถแก้ไขโดยการทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นจึงซ่อมแซมส่วนที่ผุด้วยการอุดโป๊วให้เรียบร้อย และใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ "Solignum Colourless TK" ชนิดสีใส ทาผิวไม้เสียก่อนแล้วจึงทาสีใหม่ แต่หากประเมินแล้วพบว่าไม้ผุมาก ควรเปลี่ยนประตูใหม่ทั้งบาน ทางด้านของวงกบไม้อาจมีการบวมโก่ง หากแห้งแล้วยังปิดประตูไม่เข้า ควรนำบานประตูมาไสออกนั่นเอง

5. การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ไม้หลังน้ำท่วม
"เฟอร์นิเจอร์ไม้แท้" หลังจากแช่น้ำเป็นเวลานาน ไม้จะมีอาการบวมเนื่องจากไม้ดูดซับความชื้นที่ได้จากน้ำ ข้อควรระวังเด็ดขาด คือห้ามนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เสียหายไปตากแดดไล่ความชื้น เพราะผลที่ได้คือ ไม้จะโก่ง บิดงอ วิธีการที่ดีควรนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ไว้ในที่ร่ม อาจวางไว้บริเวณที่ลมสามารถพัดผ่านได้ดีเพื่อผึ่งลม เมื่อไม้แห้งดีแล้วจึงนำไปซ่อมแซม ทำสี-เคลือบเงาต่อไป

*กรณีที่เป็นเฟอร์นิเจอร์จากไม้อัดน้ำจะทำให้ไม้พอง ยุ่ย หรือ เสียรูป อาจไม่สามารถซ่อมแซมได้อีก 
 

นอกเหนือจากการซ่อมแซมความเสียหายหลังน้ำท่วมแล้ว สิ่งที่เราควรทำต่อไป คือ การเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาฝนสาด และปัญหาน้ำท่วมในปีต่อๆ ไป เพราะมีโอกาสที่บ้านบริเวณพื้นที่เดิมจะถูกน้ำท่วมซ้ำ โดยอาจทำกันสาดบริเวณรอบนอกตัวบ้านยื่นออกไป เพื่อป้องกันน้ำฝน และยกพื้นบ้านให้สูงขึ้น หรือทำแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมตามความเหมาะสมต่อไปครับ 

รายละเอียดสินค้า

สินค้า : ผลิตภัณฑ์น้ำยารักษาเนื้อไม้ ป้องกันปลวกและแมลงทำลายเนื้อไม้ ชนิดทาไม้

รุ่น : Solignum Colourless TK

แบรนด์ : Solignum

คุณสมบัติพิเศษ

- ไม่ต้องผสมน้ำ พร้อมใช้งานทันที ดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสูด ผู้ใช้ไม่ควรผสมโซลิกนั่มกับน้ำหรือสารใดๆอีก 
- ใช้ทาทับทุกด้านของไม้ รวมทั้งหน้าตัดของไม้ 
- ทาทับสามครั้งก่อนจะนำไปใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพสูงสูด ควรเคลือบไม้ด้วยโซลิกนั่ม 3 ครั้ง ก่อนนำไปใช้งานจริง โดยการเคลือบโซลิกนั่มสามารถทำได้ 3 วิธี คือ 
1. การใช้เครื่องฉีดพ่น 
2. ทาด้วยแปลง 
3. การจุ่มหรือแช่ทุกด้านของไม้ ให้จมลงในสารโซลิกนั่ม

มี 2 ขนาด คือ : 
- ขนาด 1 ลิตร พื้นที่การใช้งานเฉลี่ย 4-5 ตารางเมตร 
- ขนาด 5 ลิตร พื้นที่การใช้งานเฉลี่ย 20-25 ตารางเมตร

หมายเหตุ

- นอกจาก Solignum : Colourless TK (สีใส) ยังมีสูตร Solignum Brown TK (ชนิดสีน้ำตาล)

- น้ำยารักษาเนื้อไม้ป้องกันปลวก Solignum Colourless TK มี 2 ขนาด

- ขนาด 1 ลิตร พื้นที่การใช้งานเฉลี่ย 4-5 ตารางเมตร 
- ขนาด 5 ลิตร พื้นที่การใช้งานเฉลี่ย 20-25 ตารางเมตร

สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้

https://www.wazzadu.com/page/solignum/contact

สอบถามข้อมูล และติดต่อสั่งซื้อได้ที่เบอร์ 02-235-3947-8

#Wazzadu #Solignum #​SolignumColourlessTK #wood #โซลิกนั่ม #ไม้ #ผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก #ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ #ผลิตภัณฑ์ทาไม้ #วิธีดูแลไม้