คุณสมบัติของ พื้นไม้จริง VS พื้นไม้เทียม กับวิธีดูแลรักษาไม้ทั้ง 2 ประเภท

สำหรับผู้ที่รักความสวยงามของลวดลายไม้ และอยากได้ฟิลลิ่งความเป็นธรรมชาติ รวมถึงความร่วมสมัยตลอดกาล ย่อมที่จะเลือกหาวัสดุไม้พื้นสำหรับมาใช้ปูเป็นพื้นของบ้าน แต่ด้วยนวัตกรรมของวัสดุทดแทนสมัยใหม่ทำให้เกิดการนำวัสดุมาสังเคราะห์ลอกเลียนข้อดีของไม้แท้ โฆษณาว่าดูแลง่ายกว่า เสี่ยงปลวกน้อยกว่า หรือ บางแบรนด์ก็เคลมว่าปลวกไม่กินเลย ก็อาจทำให้ท่านลังเล และเกิดข้อเปรียบเทียบขึ้นมาว่าแล้วควรเลือกใช้พื้นไม้จริง หรือ พื้นไม้เทียม อย่างไหนดี... ซึ่งวันนี้จะขอมาเปรียบเทียบคุณสมบัติให้ทราบกันครับ... 

คุณสมบัติ - ประโยชน์ของพื้นไม้จริง 
1. ให้สัมผัสที่สบายเท้า รองรับแรกกระแทกได้ดี
2. เพิ่มมูลค่าให้ตัวบ้าน ทำให้บ้านดูหรูมีราคา
3. แข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน
4. สามารถซ่อมบำรุงด้วยการขัด - ทาสีใหม่ให้กลับมาคงสภาพเดิมได้
5. ไม้พื้น หากผลิตจากไม้เนื้อแข็ง จะเสี่ยงปลวกน้อยถึงน้อยมาก 
6. ให้ความเป็นธรรมชาติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
7. มีลวดลายเฉพาะตัวแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทไม้ และแต่ละชิ้นไม้ นำมาสร้างสรรค์ดีไซน์เข้ากับบ้านได้อย่างลงตัว

*ข้อเสีย ต้องระวังเรื่องความชื้นทำให้ไม้หดตัว-ปัญหาปลวกกิน และราคาที่อาจสูงกว่าไม้เทียม 

คุณสมบัติ - ประโยชน์ของพื้นไม้เทียม 
1. ติดตั้งง่ายกว่าไม้จริง สามารถใช้งานได้ทันที 
2. ดูแลรักษา - ทำความสะอาดง่ายกว่าไม้จริง
3. ขนาด - ความหนาของแผ่นไม้แต่ละแผ่นได้มาตรฐานที่เท่าๆกัน เพราะถูกผลิตด้วยระบบโรงงาน
4. เสี่ยงปลวกน้อย - ปลวกไม่สามารถกินได้
5. พื้นไม้ไม่เกิดหดตัวจากปัญหาความชื้น 

*ข้อเสีย ดูไม่เป็นธรรมชาติ หากเกิดความเสียหายบริเวณพื้นผิวเคลือบจะดูไม่สวยงาม ไม่สามารถซ่อมบำรุงให้กลับมาเป็นสภาพเดิมได้ 100% และพื้นไม้บางแบรนด์ราคาใกล้เคียง หรือ สูงกว่าพื้นไม้แท้ 

วิธีดูแลรักษาพื้นไม้จริง 
1. หมั่นรักษาความสะอาดของพื้นอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้เกิดคราบน้ำ คราบต่างๆ ทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้กัดกร่อนจนไม้ผุพังได้ เบื้องต้นใช้ผ้าขนหนูบิดน้ำหมาดๆ เช็คทำความสะอาด หรือ หากเกิดคราบฝั่งลึกให้ใช้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำเปล่า และหยดน้ำมะนาวลงบนบริเวณซอก-คราบ เช็คทำความสะอาดออก

2. ใช้กระดาษทรายขัดเสี้ยนไม้ เพราะเมื่อพื้นไม้ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน อาจเกิดร่องรอยความเสียหายของหน้าไม้ ทำให้อาจมีเศษเสี้ยนไม้โผล่ขึ้นมา ให้ใช้กระดาษทรายขัดผิวหน้าไม้เรียบเสมอกัน บริเวณที่มีรอยหลุมให้ใช้เศษไม้จากการขัดผสมกาวลาเท็กซ์ผสมให้เข้ากันแล้วอุดทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วจึงขัดส่วนที่เกินออก ถ้าพื้นเสมอกันดี และไม่มีร่องรอยให้เช็ดทำความสะอาด และรอจนแห้งสนิทจึงทายูรีเทรนเคลือบไม้ให้เงา 

3. ใช้สีย้อมไม้สำหรับทาพื้นไม้ เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี สีของพื้นไม้จะซีดจางไปตามกาลเวลา จึงควรซ่อมแซมให้เหมือนใหม่ด้วยการทาสีย้อมไม้ อย่างเช่น สีย้อมไม้ แบรนด์ Solignum Decking Stain ซึ่งเป็นสีย้อมไม้พื้นโดยเฉพาะ พร้อมใช้ในขั้นตอนเดียว ไม่ต้องผสมกับสารใดๆ อีก เพียงเปิดกระป๋องคนสีให้เข้ากัน ก็ใช้งานได้เลย 

4. ป้องกันปลวกขึ้นบ้าน อย่างที่ทราบกันดีว่า หากเป็นพื้นไม้แท้ก็ย่อมจะเสี่ยงปลวกมากกว่า ฉะนั้นหากสามารถป้องกันตั้งแต่ต้นตอไม่ให้ปลวกเข้ามาภายในบ้านได้ ก็จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยการวางระบบเดินท่อลงน้ำยาป้องกันปลวกไว้ตั้งแต่ก่อนสร้างอาคาร หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดปลวกใต้ดิน ชนิดราดพื้น "Solignum Soilguard" ที่สามารถใช้งานได้ทั้งก่อน - หลังก่อสร้างอาคาร และเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องบ้านจากปลวกชนิดมีปีก รวมถึงแมลงทำลายไม้ชนิดต่างๆ ให้ทาไม้ด้วย ผลิตภัณฑ์น้ำยารักษาเนื้อไม้ ป้องกันปลวกและแมลงทำลายเนื้อไม้ ชนิดทาไม้ Solignum Colourless TK ทาทุกด้านของไม้ รวมทั้งหน้าตัดของไม้ และทาเคลือบทับ 3 ครั้ง 

วิธีดูแลรักษาพื้นไม้เทียม
จริงๆ แล้วในเบื้องต้นแทบจะไม่แตกต่างกับวิธีการดูแลพื้นไม้จริงสักเท่าไหร่ แต่อาจมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เช่น หลีกเลี่ยงของมีคม - สัตว์เลี้ยงเข้ามาทำพื้นผิวเสียหาย รวมถึงสารที่ใช้ทำความสะอาดพื้นควรเลือกที่ไม่มีกรดด่าง เพราะพื้นผิวของพื้นไม้เทียมจะเสียหายได้ง่ายกว่า โดยถ้าหากเกิดความเสียหายให้ใช้วัสดุอุดโป๊วร่องรอย และทาสีทาไม้ปกปิดรอย

สำหรับข้อมูลทั้งหมดนี้หวังว่าคงช่วยผู้อ่านทั้งหลายให้ตัดสินใจง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย แต่ทั้งนี้การแต่งบ้านถือเป็นรสนิยมความชอบส่วนบุคคลไม่มีถูกไม่มีผิด จงเลือกให้ถูกจริตกับเราเป็นดีที่สุดครับ

รายละเอียดสินค้า

สินค้า : ผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดปลวกใต้ดิน ชนิดราดพื้น

รุ่น : Solignum Soilguard

แบรนด์ : Solignum

การใช้งาน : ผลิตภัณฑ์มีความเข้มข้นสูง ต้องผสมน้ำก่อนใช้

คุณสมบัติ 

- มีความเข้มข้นสูง

- ประหยัดค่าใช้จ่ายต่อ ตร.ม.

- สีขุ่น มีกลิ่นบางเบา กลิ่นเฉพาะตัว

- ป้องกันปลวกและแมลงทำลายไม้

- ผสมน้ำง่าย ไม่เกาะเป็นก้อน

ข้อควรระวัง

- ปลวกใต้ดินเป็นปลวกที่ต่างจากปลวกทั่วไป

- สำหรับไม้ภายนอกต่างๆ มีความเสี่ยงกับความชื้น และปลวกใต้ดิน

- คนส่วนใหญ่จะคิดว่า ราดพื้นป้องกันปลวกแล้วบ้านจะปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่ เพราะปลวกมีหลายชนิด

- ปลวกใต้ดินเป็นปลวกที่ต่างจากปลวกทั่วไป ซึ่งสามารถทำลายไม้ได้ถ้าไม่มีวิธีกำจัดอย่างถูกวิธี

วิธีการใช้งาน

(สำหรับก่อนก่อสร้าง)

หลังจากปรับพื้นเรียบร้อยแล้ว ใช้ Solignum Soilguard เทราดลงบนดินหรือพ่นบริเวณที่จะเทคอนกรีตให้ทั่ว

ขุดร่องกว้างไม่เกิน 15 ซม. ลึกไม่เกิน 30 ซม. รอบรากฐาน เท Solignum Soilguard 5 ลิตร ต่อความยาวร่อง 1 ม. 

แล้วนำดินที่ขุดขึ้นมาก่อนหน้านี้ใส่กลับลงไปครึ่งหนึ่งแล้วราด Solignum Soilguard  5 ลิตร ต่อความยาวร่อง 1 ม.  ทับอีกหนึ่งครั้งก่อนนำดินกลบให้หมด

(สำหรับก่อสร้างเสร็จแล้ว)

เจาะรูที่พื้นอาคารหรือคอนกรีตบริเวณโดยรอบให้ห่างประมาณ 20-30 ซม. 

พ่น Solignum Soilguard ตามอัตราส่วนผสมข้างต้น โดยใช้เครื่องพ่นความดันต่ำ ลงไปในดินตามรูที่เจาะเอาไว้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร

อัตราส่วนอยู่ที่ 5 ลิตรต่อตร.ม. และสำหรับดินแนวรอบพื้นคอนกรีตนอกอาคาร ให้ใช้ท่อฉีดหรือขุดร่อง

ขนาด : มี 4 ขนาด ตั้งแต่ 200/500มล. และ 1/5 ลิตร

- ขนาด 5 ลิตร ผสมน้ำได้ถึง 1,000 ลิตร = ขนาดพื้นที่ใช้งาน 200 ตารางเมตร

- ขนาด 1 ลิตร ผสมน้ำได้ถึง 200 ลิตร = ขนาดพื้นที่ใช้งาน 40 ตารางเมตร

- ขนาด 500 มล. ผสมน้ำได้ถึง 100 ลิตร = ขนาดพื้นที่ใช้งาน 20 ตารางเมตร

- ขนาด 200 มล. ผสมน้ำได้ถึง 40 ลิตร = ขนาดพื้นที่ใช้งาน 8 ตารางเมตร

*ผลิตภัณฑ์ Solignum Soilguard เป็นสารป้องกันปลวกใต้ดิน (สูตรน้ำ) ที่มีความเข้มข้นค่อนข้างสูง ดังนั้นการใช้งานควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยการอ่านคู่มือการใช้งานควบคู่ไปด้วย

สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้

https://www.wazzadu.com/page/solignum/contact

สอบถามข้อมูล และติดต่อสั่งซื้อได้ที่เบอร์ 02-235-3947-8

#Wazzadu #Solignum #wood #woodpreservative #โซลิกนั่ม #ไม้ #สีย้อมไม้ #ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ #ผลิตภัณฑ์ทาไม้