"เพราะทุกที่ต้องมีไม้" จากประสบการณ์สู่แรงบันดาลใจ ที่ทำให้เกิด Maxis Wood (1/2)
ในวันนี้ทางทีมงานมีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณสมภพ มาจิสวาลา หรือ คุณจิ๊ฟ สถาปนิกมากฝีมือที่ผันตัวเองจากผู้ออกแบบมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานไม้ และเป็นผู้ก่อตั้ง Maxis Wood ไม้คอมโพสิตคุณภาพสากลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศในฐานะ Wood Composite Expert
WAZZADU: อยากให้คุณจิ๊ฟเล่าถึงประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับเรื่องราวที่น่าสนใจของของ Maxis Wood ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และอะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้หลายๆคนนึกถึงคุณจิ๊ฟในฐานะ Wood Composite Expert ครับ
คุณจิ๊ฟ: ประมาณสิบกว่าปีก่อนในตอนที่ยังเป็นสถาปนิกเต็มตัว ผมทำงานในบริษัทเหมือนคนอื่นๆตามปกตินี่แหละ โดยโครงการที่ได้รับมอบหมายนั้นจะมีทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งในการออกแบบทุกๆครั้งมีสิ่งนึงที่เหมือนกันก็คือ "ทุกโครงการต้องมีไม้" ผมคิดว่าเราไม่สามารถหลีกหนีความเป็นธรรมชาติได้และในงานสถาปัตยกรรมไม่ว่าจะเป็นโครงการเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่มีไม้เป็นองค์ประกอบทั้งสิ้น
WAZZADU: เพราะเป็นสถาปนิกมาก่อนนี่เองจึงทำให้คุณจิ๊ฟมีมุมมองความงามในมิติที่เข้าใจทั้งเจ้าของบ้านและผู้ออกแบบด้วยกันเป็นพิเศษ ทราบมาว่าคุณจิ๊ฟได้ทำการเฟ้นหาแหล่งผลิตไม้เองด้วยใช่รึเปล่าครับ
คุณจิ๊ฟ: ใช่ครับ ผมเริ่มหาไม้จากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นประเทศที่มีไม้มาที่สุดคือ อินโดนิเซีย โดยเฉพาะในเกาะบอเนียวซึ่งเป็นเกาะที่มีป่าขนาดใหญ่มาก และที่นั่นยังมีเทคโนโลยีการตัดไม้รวมไปถึงอุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ที่ค่อนข้างมีมาตรฐาน ทันสมัยมากและใหญ่โตมากๆแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จากนั้นผมจึงเริ่มนำเข้าไม้จากที่นั่นซึ่งจะมีทั้งไม้พื้นเข้าลิ้น ไม้พื้นระเบียง ไม้ระแนง และอื่นๆ โดยไม้เหล่านี้จะมีระบบ clip ติดมากับตัวชิ้นงานเลย ทำให้การติดตั้งสะดวกเป็นอย่างมาก ที่สำคัญการนำเข้าไม้จากต่างประเทศนั้นไม่ต้องเสียภาษีเพราะมี AFTA (ASEAN Free Trade Area) รองรับอยู่
WAZZADU: การไปเลือกสรรวัสดุด้วยตัวเองอย่างนี้ต้องเป็นคนที่มี Passion หรือความหลงใหลในการทำงานอย่างจริงจังเลยนะครับ การนำเข้าไม้จากอินโดนิเซียนั้นน่าจะเป็นประสบการณ์สำคัญเลยทีเดียวไม่ทราบว่านอกจากข้อดีหลายๆอย่างที่กล่าวไปแล้วนั้น มีข้อเสียอะไรบ้างรึเปล่าครับ
คุณจิ๊ฟ: ไม้จริงมีราคาแพงและราคาไม่นิ่งครับขึ้นลงราวกับทองคำ ราคาไม้ที่อินโดนิเซียจะขึ้นอยู่กับ Demand Supply (อุปสงค์ อุปทาน) ในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ถ้ามีรายการสั่งซื้อจากจีนเข้ามามากราคาไม้ก็จะขึ้นสูงเลยทันที หรือหากมีปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติ เช่น มีพายุ คนงานไม่สามารถตัดไม้ได้ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นอีกเช่นกัน พอเจอเหตุการณ์แบบนี้มากๆเข้าผมจึงนึกถึงตัวเลือกสำรองอื่นๆเพิ่มเข้ามาซึ่งก็คือ ไม้คอมโพสิต
WAZZADU: ซึ่งย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นเมืองไทยก็เริ่มมีผู้ผลิตวัสดุทดแทนไม้จริงมาให้ได้ใช้งานกันบ้างแล้ว เพราะอะไรถึงไม่เลือกใช้สิ่งที่มีอยู่ในตลาดครับ
คุณจิ๊ฟ: ผมคิดว่าสิ่งที่มีอยู่ในตอนนั้นยังสวยไม่พอในสายตาผม ผมจึงได้ตระเวนหาจากแหล่งอื่นจนไปเจอกับแบรนด์นึงซึ่งเป็นการนำเศษไม้มาผสมกับพลาสติกแล้ว extrude* ออกมาเป็นชิ้นๆ เมื่อผมเจอผลิตภัณฑ์ไม้ในแบบที่ผมต้องการแล้ว จากนั้นจึงเริ่มนำมาทดลองทำตลาด ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ด้วยคุณสมบัติและรูปลักษณ์ที่เหมือนไม้จริงมากๆและมีรุ่นที่ผิวด้านบนเป็นไม้จริงๆ**เลย ทำให้เริ่มมีคนสนใจและใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆจนผมต้องเลิกทำงานออกแบบแล้วมาดูแลงานในส่วนนี้แบบเต็มตัวครับ
*วิธีการขึ้นรูปด้วยการอัดรีด
**รุ่น Wood Extreme
WAZZADU: ด้วยความเชี่ยวชาญและความเป็นเอกอุด้านไม้คอมโพสิตของคุณจิ๊ฟบวกกับคุณภาพของสินค้าจึงกลายเป็นที่มาของคำว่า Maxis Wood รึเปล่าครับ ซึ่งหมายถึงแกนของแนวคิดและมุมมองที่มากกว่าแค่แกนปกติ X Y Z เพราะเห็นจากรูปผลงานคร่าวๆแล้ว Maxis Wood สามารถทำได้ครบทุกมิติองศาจริงๆ ผมขออนุญาตเดาไปก่อนนะครับ
คุณจิ๊ฟ: จะคิดแบบนั้นก็ได้นะ แต่จริงๆแล้วมาจากนามสกุลของผมนี่แหละครับ Majiswala เป็นภาษาอาหรับ Majis ก็คือ Match ที่แปลว่าไม้ขีดไฟ ส่วนคำว่า wala แปลว่าตระกูล ผมคิดว่าบรรพบุรุษผมอาจจะทำไม้ขีดไฟมาก่อนนะ Majis ก็ผันให้เรียกง่ายๆจึงกลายเป็น Maxis ตระกูลผมคงมีความผูกพันกับไม้แหละครับ
WAZZADU: ถ้าอยากให้นิยาม Maxis Wood คุณจิ๊ฟคิดว่าคืออะไรครับ
คุณจิ๊ฟ: ถ้าพูดถึง Maxis Wood ทุกคนจะคิดถึง Wood Composite Expert ผู้ชำนาญการด้านไม้คอมโพสิต เพราะผมดูแลงานเกือบทั้งหมดด้วยตัวเอง บวกกับประสบการณ์ที่ยาวนานและความเชี่ยวชาญในงานสถาปัตยกรรมทำให้ผมเข้าใจกระบวนการทุกขั้นตอนเป็นอย่างดีครับ
WAZZADU: ไม่ทราบว่าโครงการที่ไว้วางใจใช้ไม้คอมโพสิต Maxis Wood จนถึงตอนนี้มีประมาณกี่โครงการครับ
คุณจิ๊ฟ: เกิน 1,000 โครงการครับ ถ้าถามคนในวงการนี้เค้าก็จะรู้จักกันหมด
WAZZADU: จังหวะนี้เรียกได้ว่า ไม่พูดเยอะเจ็บคอ ใช่มั้ยครับ !!!
ซึ่ง ณ เวลานี้เรียกได้ว่าผลงานของพี่จิ๊ฟก็พิสูจน์ตัวเองได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของความสวยงามและการติดตั้งที่เรียกได้ว่าละเอียดและพิถีพิถันมากๆ ซึ่งทำให้ Maxis Wood เป็นที่ยอมรับและใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและกำลังขยายวงน้ำแห่งความสำเร็จนี้ออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย และเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ในครั้งต่อไปเราจะมาพูดคุยเจาะลึกกับ คุณจิ๊ฟ Maxis Wood กันต่อครับ
สอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่ Maxis Wood Call Center: (+66) 081 407 6616
Email: info@maxiswood.com, Website: www.maxiswood.com, Facebook: maxiswood, Line ID: @maxiswood, WeChat ID: maxiswood, Fax: (+66) 02 870 9309
#Wazzadu #maxiswood #woodcomposite #woodcompositeexpert #maxisfacade #woodcompositeexpert #maxisfacadeextreme #wood
#ไม้คอมโพสิต #ไม้ฟาซาด #ผนังไม้ภายนอก #ไม้เทียม
ผู้เขียนบทความ