ฉนวนใยแก้ว / ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์ มีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการนำไปใช้งานต่างกันอย่างไร
“ฉนวน” ถือเป็นหนึ่งในวัสดุที่มีการนำมาใช้ในงานก่อสร้างอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการใช้เพื่อป้องกันความร้อน และรักษาความสมดุลของอุณหภูมิภายในอาคาร รวมไปถึงการใช้ห่อหุ่มท่องานระบบต่างๆ
วันนี้ Wazzadu จึงหยิบยกข้อมูลพื้นฐานของฉนวนที่นิยมใช้ในงานก่อสร้าง มานำเสนอด้วยกัน 2 ประเภท นั่นก็คือ ฉนวนใยแก้ว และ ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์ นั่นเอง เราไปดูกันครับว่าฉนวนทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการนำไปใช้งานต่างกันอย่างไรบ้าง
ฉนวนใยแก้ว
มีลักษณะเป็นเส้นใยไฟเบอร์เล็กๆ โครงสร้างของเส้นใยคล้ายกับรูพรุน ไม่ทึบตัน
ข้อดี
- มีคุณสมบัตินำความร้อนต่ำ
- ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี
- ป้องกันความชื้นสูง
- มีความยืดหยุ่น สามารถคืนตัวได้เร็ว
- มีน้ำหนักเบา ทนทาน ไม่เสื่อมสภาพ
ข้อเสีย
- มีโอกาสเกิดละอองขนาดเล็กๆ เมื่อเสื่อมสภาพ
- ตัวประสาน (binder) อาจลุกไหม้ได้เมื่อติดไฟ
วิธีการนำไปใช้งาน
- ใช้ในงานหุ้มท่อส่งลมเย็นหรือลมร้อนภายในอาคาร
- ใช้ติดตั้งเป็นฉนวนกันความร้อนและกันเสียงบริเวณพื้นที่ใต้หลังคา ฝ้าเพดาน และผนังอาคาร เช่น อาคารที่พักอาศัย, โรงงานอุตสาหกรรม, โรงงาน, สำนักงาน, ศูนย์การค้า, โกดัง ฯลฯ
ราคา
- ราคาเริ่มต้น ม้วนละ 1,500 บาท ขึ้นไป
ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์
มีลักษณะเป็นแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ 2 หน้า พื้นผิวบางเรียบ มีความมันวาว
ข้อดี
- ประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อนสูงสุด 97%
- ทนต่อความชื้นได้ค่อนข้างดี
- มีความทนทานต่อแรงดึง จึงทำให้ไม่ฉีกขาดง่าย
- เป็นฉนวนกันความร้อนที่ไม่มีสารระคายเคือง หรือ เป็นพิษต่อมนุษย์
ข้อเสีย
- ไม่มีคุณสมบัติเรื่องการกันเสียง
- แม้จะมีค่าสะท้อนความร้อน แต่ไม่กันความร้อนเข้าตัวบ้าน
วิธีการนำไปใช้งาน
- ใช้ปูเป็นฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาอาคารประเภทต่างๆ เช่น อาคารสำนักงาน, โรงงานอุตสาหกรรม, โกดัง, ที่อยู่อาศัย ฯลฯ
ราคา
- ราคาเริ่มต้น ม้วนละ 1,000 บาท ขึ้นไป
อิฐบล็อก / อิฐมวลเบา มีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการนำไปใช้งานต่างกันอย่างไร
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม