7 เคล็ดลับ การเลือกใช้ฉนวนวางบนฝ้า

เนื่องจากฉนวนกันความร้อนที่มีอยู่ในตลาดมีอยู่หลายประเภท เช่น ฉนวนโฟม จำพวก PE PU หรือ EPS และ ฉนวนยางดำ EPDM รวมถึงฉนวนที่มีลักษณะเป็นเส้นใย เช่น ฉนวนใยแก้ว และฉนวนใยหิน ซึ่งการเลือกใช้ฉนวนให้เหมาะกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญ

สำหรับฉนวนกันความร้อนที่วางบนฝ้าที่นิยมใช้ คือฉนวนที่มีลักษณะเป็นเส้นใย หุ้มด้วยอลูมิเนียมฟอยล์รอบด้าน ซึ่งคุณสมบัติของอลูมิเนียมฟอยล์จะช่วยสะท้อนความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ฉนวนวางบนฝ้าที่วางขายอยู่ในตลาด จะมีอยู่ 2ชนิดคือ ฉนวนใยแก้ว  ฉนวนใยหิน  ซึ่งทั้ง2 แบบสามารถกันความร้อนได้ดี

จุดสังเกตในการเลือกซื้อฉนวนวางบนฝ้า

• วัสดุปิดผิวด้วยอลูมิเนียมฟอยล์รอบด้าน สามารถสะท้อนความร้อนได้ถึง 95%
• ค่า Rt หรือ ค่าการต้านความร้อนรวมระบบหลังคา มีค่าสูง (ค่ายิ่งมากยิ่งต้านทานความร้อนได้ดี เมื่อเทียบกับความหนาของฉนวนที่เท่ากัน) ช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับการไม่ติดฉนวน
• วัสดุไม่ติด ไม่ลามไฟ ทนไฟมากกว่า 1000 องศาเซลเซียส
• สามารถกันเสียงรบกวนได้
• ไม่ก่อให้เกิดเชื้อรา
• ทนทาน ไม่หลุดร่วงง่าย
• ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน

ฉนวนวางบนฝ้าที่วางขาย จะมีลักษณะเป็นม้วนหุ้มด้วยอลูมิเนียมฟอยล์รอบด้าน ขนาดกว้าง 0.6เมตร ยาว 4 เมตร ความหนา 75 มิลลิเมตร (3นิ้ว)  พื้นที่ต่อม้วนคือ 2.4 ตารางเมตร ซึ่งสามารถคำนวณได้ง่ายๆว่าบ้านที่ต้องการนำไปปูฉนวนต้องใช้ฉนวนทั้งหมดกี่ม้วน

การคำนวณการใช้ฉนวนบนฝ้าเพดาน

พื้นที่บนฝ้าเพดาน (ตารางเมตร)

         กว้าง(ม.) xยาว(ม.)

_____________________             =    จำนวนฉนวนที่ต้องใช้ (ม้วน)  

           2.4 ตารางเมตร

          กว้าง 0.6ม x ยาว 4ม.

ยกตัวอย่างเช่น

นาย เย็นๆ ต้องการหาซื้อฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ซึ่งขนาดฝ้าของบ้านนาย เย็นๆ อยู่ที่ กว้าง 4 เมตร ยาว 9เมตร ดังนั้นพื้นที่รวมฝ้าเพดาน ของบ้าน นาย เย็นๆ จะอยู่ที่ (4ม. X 9ม.)= 36 ตารางเมตร

สูตรการคำนวณการใช้ฉนวนบนฝ้า ของบ้าน นาย เย็นๆ

             36 ตารางเมตร

____________________             =    15 ม้วน

            2.4 ตารางเมตร

ดังนั้น การเลือกใช้ฉนวนวางบนฝ้า จึงต้องเลือกฉนวนให้ถูกประเภท เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการต้านทานความร้อนที่จะเข้ามาสู่ภายในตัวบ้าน