ผ้าม่านม้วน (Roller Blinds) ที่ตอบโจทย์การตกแต่งแบบ LUXURY/MODERN LOFT ที่เน้นความสวยงามและฟังค์ชั่นในการอยู่อาศัย
สำหรับงานตกแต่งภายในอาคารไม่ว่าจะเป็นอาคารใหม่ หรือ การรีโนเวทอาคารเก่า ผ้าม่าน คือ หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ ซึ่งนอกเหนือจากความสวยงามแล้ว ผ้าม่านยังช่วยป้องกันความร้อน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย และอีกมุมหนึ่งก็ช่วยแก้ปัญหาในด้านการใช้งานที่แตกต่างจากการใช้งานแบบปกติ และช่วยสร้างจุดเด่นให้กับ Detail ในงานออกแบบตกแต่งได้เช่นเดียวกัน
ในวันนี้แบรนด์ BIW Products จะพาทุกท่านไปชมการเลือกใช้ผ้าม่านม้วน (Roller Blinds) ที่ตอบโจทย์การตกแต่งแบบ LUXURY/MODERN LOFT ที่เน้นความสวยงามและฟังค์ชั่นในการอยู่อาศัย โดยเป็นการถ่ายทอดรายละเอียดในมุมมองจากสถาปนิกที่เป็นผู้ออกแบบโดยตรง ซึ่งแต่ละ Project จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ตามมาชมกันได้เลยครับ
PROJECT : MR.&MS. CANCELLONI
- Interior Architect : 3BS_Interior
โปรเจคนี้เป็นการออกแบบภายในห้องพักคอนโดมิเนียมแบบ Private Unit ที่กินพื้นที่ต่อกันถึง 3 ชั้น ซึ่งมีเจ้าของเป็นสามีภรรยาชาวต่างชาติ (CEO Brand Jim Thompson) โดยลูกค้าให้โจทย์กับทางสถาปนิกว่าต้องการให้ห้องนี้มีสไตล์แบบ Modern Luxury ที่ให้ความหรูหรานำสมัย
นอกเหนือจาก Concept Design หลักที่เป็น Modern Luxury Style แล้ว ในบางห้องก็ถูกออกแบบให้มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวที่มีความแตกต่างแต่ไม่แปลกแยกจากสไตล์หลัก เช่น ห้องทำงานของภรรยาที่ถูกออกแบบให้เป็นสไตล์ Vintage ที่มีความกลมกลืนไปกับ Modern Luxury ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการออกแบบฟังก์ชั่นหลักที่เป็น Highlight น่าสนใจอีกหลายจุด
ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ห้องทำงานสามี ที่แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย และคุ้มค่า ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่ทำงานแล้ว ผนังของห้องทำงานทุกด้านยังถูกออกแบบให้สามารถใช้เก็บอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ ใช้เป็นพื้นที่แขวนภาพอาร์ตเวิร์คที่สะสมอยู่หลายชิ้น ใช้เป็นตู้เสื้อผ้า Walk in closet และหน้าต่างช่องแสงที่จะต้องติดม่าน จะใช้เป็น ผ้าม่านม้วน Blackout เพื่อใช้ทั้งกันความร้อน และกันแสงแดด 100% อีกทั้งยังสามารถฉายโปรเจคเตอร์สำหรับทำงานได้อีกด้วย
และในส่วนของห้องนอนใหญ่ นอกจากจะมีการออกแบบที่หรูหราสวยงามแล้ว ยังถูกจัดแสงให้มีความผ่อนคลาย และอบอุ่น โดยมีการควบคุมแสงภายในห้องให้มืดที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่โดยไม่มีแสงภายนอกรบกวน ซึ่งสถาปนิกได้เลือกใช้ม่านม้วนไฟฟ้าในการควบคุมการเปิดรับแสงจากภายนอก โดยสามารถคอนโทรลเปิดปิดใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
มาต่อกับพื้นที่สังสรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากชื่นชอบการจัดปาร์ตี้และมักจะเชิญเพื่อนๆ มาที่ห้องบ่อยครั้ง พื้นที่ส่วนกลางและห้องรับแขกจึงถูกออกแบบเพื่อการรับรองแขกเป็นพิเศษ โดยออกแบบให้โซฟาและที่นั่งต่างๆ หันหน้าเข้าหากันในรูปแบบวงกลมหรือสี่เหลี่ยม เพื่อความสะดวกในการสนทนาในแบบฉบับชาวตะวันตก ซึ่งจะต่างจากห้องรับแขกแบบไทยที่มักจะมีที่นั่งหันหน้าเข้าหาทีวีเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ในบริเวณห้องรับแขกยังถูกออกแบบให้มี Bar Pantry เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านอาหาร และเครื่องดื่ม เช่น ไวน์ และค็อกเทล ให้กับแขกผู้มาเยือนได้อย่างประทับใจ
ในขณะที่ห้องอาหารถูกออกแบบให้อยู่ชั้นบนสุด โดยมีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนขนาดหย่อม Outdoor Roof Top ซึ่งทางลูกค้าจะใช้พื้นที่ส่วนนี้ในการพักผ่อน เช่น จัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ นั่งเล่น และพัตกอล์ฟ
สำหรับการเลือกใช้วัสดุในการตกแต่งนั้น ด้วยความที่สไตล์การตกแต่งหลัก คือ สไตล์ Modern Luxury การเลือกใช้วัสดุต่างๆ เช่น พื้น แผ่นลามิเนตปิดผิว ลายผ้าบุต่างๆ งาน Built-in และเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งอื่นๆ ล้วนถูกคัดสรรลวดลาย พื้นผิว และเฉดสีอย่างละเอียดประณีต ซึ่งวัสดุต่างๆ จะต้องสะท้อนถึงความหรูหรานำสมัยได้อย่างเด่นชัด
รวมไปถึงการเลือกใช้ม่านม้วนคอลเลคชั่น Royal Blue BIW by Coulisse ซึ่งเป็นคอลเลคชั่น ที่ออกแบบโดย Designer ชั้นนำของวงการแฟชั่นระดับโลกให้กับแบรนด์ม่านม้วนระดับโลกอย่าง Coulisse, Netherland ซึ่งตอบโจทย์การตกแต่งม่านเติมเต็มการออกแบบให้สถาปนิกและลูกค้าได้อย่างลงตัว
ม่านม้วนคอลเลคชั่น Royal blue เป็นคอลเลคชั่นผ้าม่านม้วนที่ให้ความสำคัญกับสไตล์การตกแต่งที่สวยงามมีระดับ โดยผู้ออกแบบได้แบ่งเฉดสีของผ้าม่านม้วนออกเป็นทั้งหมดถึง 10 เฉดสี แต่ละเฉดมีหลากหลายผิวสัมผัสและความโปร่งเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกการออกแบบ
นอกจากนี้ผิวสัมผัสของผ้าม่านม้วนยังให้อารมณ์ความเป็นผ้าที่มากขึ้น ผ้าโปร่งที่เบาบางแต่มีวอลลุ่มที่นุ่มนวล หรือผ้าผิวสัมผัสแบบผ้าไหมสะท้อนถึงความเรียบหรู ทั้งหมดถูกออกแบบลวดลายโดยได้รับแรงบันดาลใจจากโลกแฟชั่น สร้างความรู้สึกที่แตกต่างมีระดับไม่เหมือนใคร พร้อมทั้งยกระดับความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยม่านม้วนระบบมอเตอร์ของ BIW มาตรฐานการรับประกันถึง 5 ปี
“ ม่านม้วนไฟฟ้าตอบโจทย์ในแง่ของการ Design ได้ลงตัว ซึ่งลูกค้าต้องการจะซ่อนกล่องม่านไว้ในหลืบของฝ้าเพดาน เพื่อเปิดรับวิวภายนอกให้ได้มากที่สุดทุกๆห้อง โดยที่ไม่มีกล่องหรือรางม่านมาบดบังสายตา ถ้าหากมองเผินๆ ก็แทบไม่รู้เลยว่ามีม่านติดซ่อนอยู่ และที่ทำให้เกิดความแตกต่างจากม่านทั่วไปที่นอกเหนือจากการป้องกันแสง และความร้อนแล้ว ยังประยุกต์ให้สามารถฉายโปรเจคเตอร์สำหรับทำงานได้อีกด้วย ”
“ นอกจากผ้าม่านม้วนจะช่วยแก้ปัญหาในด้านการใช้งานที่มีความแตกต่างจากการใช้งานทั่วไปแล้ว ยังสามารถสร้างมูลค่าให้กับงานออกแบบ โดยสะท้อนผ่านคุณภาพของตัวม่าน และการใช้งานในระยะยาว ลูกค้าที่เป็นถึง CEO Brand Jim Thompson ซึ่งมีความรู้ลึกเรื่องผ้าอยู่แล้วจะเน้นในเรื่องคุณภาพ และความพิถีพิถันของเนื้อผ้ามากๆ เวลาที่นำเสนอลูกค้า เมื่อเราคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี และมีคุณภาพสูงให้กับเขา ลูกค้าก็จะมีความเชื่อมั่นตามไปด้วย ยิ่งเราลงลึกได้ถึงความต้องการของลูกค้าได้มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้งานออกแบบมีความประณีตสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ”
คุณอิ๊ก Interior Designer จาก 3bs_interior กล่าวปิดท้าย
ช่องทางการติดต่อ
ข้อมูลบริษัท: www.3bscompany.com
FB: Living the dream by 3BS
IG: 3bs_interior
YouTube Channel:
https://youtube.com/channel/UCZzFbZIaX0KeaAxCgXc8gXw
Portfolio online:
https://portfolio.3bscompany.com
ทดลองประเมินงบตกแต่งบ้านที่ใช่สำหรับคุณง่าย ๆ ใน 5 นาที ด้วยโปรแกรม Price The Look
PROJECT : THUMB UP COFFEE_FIT EXPRESS
- Architect : Tiwa Design
โปรเจคนี้เป็นการรีโนเวทตึกแถวเก่า 5 ชั้น ในย่านตลาด 200 ปี รังสิต ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างมาหลายสิบปี ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยสถาปนิกได้รับโจทย์จากทางลูกค้า ในการรีโนเวทใหม่ภายในตึกแถวจะต้องมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เป็นร้านกาแฟ ฟิตเนส และโคเวิร์คกิ้งสเปซ โดยใช้สไตล์ Modern Loft เป็นแนวทางในการตกแต่งหลัก
สำหรับที่มาของ Concept Design หรือแนวคิดการออกแบบนั้น เนื่องจากตัวตึกแถวตั้งอยู่กลางย่านชุมชนขนาดใหญ่ และหลังจากที่ลูกค้าได้ปรึกษากับทางสถาปนิกแล้ว จึงมีแนวคิดขึ้นมาว่าจะทำอย่างไรให้ตัวอาคารที่จะรีโนเวทใหม่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนเมือง และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต หรือเป็นทางเลือกในการใช้งานของคนในชุมชนให้ได้มากที่สุด จากโจทย์นี้จึงได้คลอดออกมาเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่จะทำให้ตึกแถว 5 ชั้น มีทั้งร้านกาแฟ ฟิตเนส และโคเวิร์คกิ้งสเปซ รวมอยู่ในอาคารเดียวกัน
จากฟังก์ชั่นที่มีทั้งร้านกาแฟ ฟิตเนส และโคเวิร์คกิ้งสเปซ รวมอยู่ในอาคารเดียวกัน แม้จะมีความหลากหลาย แต่ก็เป็นฟังก์ชั่นที่ลูกค้า และผู้ออกได้ได้วิเคราะห์ร่วมกัน แล้วสรุปตกผลึกได้อย่างชัดเจนแล้วว่าฟังก์ชั่นดังกล่าวเป็นฟังก์ชั่นที่มีอิทธิพล และสามารถแทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตคนเมืองในยุคปัจจุบันมากที่สุดนั่นเอง
ชั้น 1 ของอาคาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เข้าถึงง่ายที่สุด จะเป็นพื้นที่ของร้านกาแฟที่จะทำหน้าที่คอยดึงดูดให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปผ่านมาเข้ามาใช้งาน ซึ่งการมีร้านกาแฟอยู่ชั้นล่างจะทำให้ด้านหน้าอาคารดูคึกคักมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่พักเหนื่อยจากผู้ที่มาใช้บริการฟิตเนสที่อยู่ชั้นบน และเป็นจุดผักผ่อน หรือ หาเครื่องดื่มแก้ง่วง สำหรับผู้ที่มาใช้งานโคเวิร์คกิ้งสเปซที่อยู่ด้านบนด้วยเช่นกัน
ชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเป็น Private มากขึ้น ก็จะเป็นพื้นที่โคเวิร์คกิ้งสเปซสำหรับมานั่งทำงานในบรรยากาศสบายๆ
และในส่วนชั้น 3-5 จะเป็นส่วนของฟิตเนส ที่มีอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกาย และมีพื้นที่โล่งสำหรับกิจกรรมในลักษณะกายบริหาร เช่น การอบอุ่นร่างกาย หรือ โยคะ
และด้วยความที่ตัวตึกแถวมีอายุไม่น้อยกว่า 30 ปีแล้ว จึงมีรูปแบบชายคาด้านหน้า และด้านหลังที่ค่อนข้างสั้น จึงทำให้มีปัญหาเรื่องแสงแดด และความร้อนที่ส่องเข้ามาภายในตัวอาคาร ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยป้องกันความร้อนให้กับ Space ภายในอาคาร การรีโนเวทตั้งแต่ชั้นที่ 1-5 ทางสถาปนิกผู้ออกแบบจึงเลือกใช้ ผ้าม่านม้วน Sunscreen จากแบรนด์ BIW Products ที่มีคุณสมบัติการมองเห็นภายนอกได้ และยังสามารถป้องกัน UV ได้ตั้งแต่ 90-99% มาติดตั้งเพื่อช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้
การติดตั้งม่านม้วน Sunscreen นอกจากจะช่วยป้องกันแสง และความร้อนที่จะเข้าสู่ภายในอาคารได้โดยตรงแล้ว ด้วยคุณลักษณะที่มีความโปร่งแสงของตัวม่าน ยังทำให้แสงสว่างสามารถลอดผ่านได้อย่างเหมาะสม และสามารถมองทะลุได้ โดยตัวม่านไม่ได้ปิดทึบเสียทีเดียว (ผู้ออกแบบได้สเปคม่านม้วนที่มีค่าความโปร่งแสงอยู่ที่ 10%) จึงทำให้ส่วนพื้นที่ฟิตเนส ในโซนคาร์ดิโอ สามารถวางเครื่องออกกำลังกายริมหน้าต่าง เพื่อชมวิวภายนอกระหว่างที่ออกกำลังกายไปด้วยได้ โดยที่ไม่รู้สึกร้อน นอกจากนี้ผ้าม่านม้วน Screen Eco Friendly ยังได้รับมาตรฐาน Greenguard Gold ที่รับรองว่าไม่ก่อมลพิษในอากาศภายในอาคารที่อยู่อาศัยอีกด้วย
“ ผ้าม่านม้วน Sunscreen นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องแสง และความร้อนแล้ว ยังช่วยยกระดับให้กับงานออกแบบ โดยสะท้อนผ่านคุณภาพของตัวม่าน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความทนทานใช้งานได้ดี โดยเฉพาะตัวรอกที่เวลาลูกค้าดึงม่านขึ้นลง จะสัมผัสได้ถึงแรงตึงมือที่เหมาะสม จึงทำให้เกิดความสมูทไม่สะดุด หรือ ลื่นจนเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับม่านม้วนเกรดทั่วไป ”
คุณทิวา Architect จาก Tiwa Design กล่าวปิดท้าย
ช่องทางการติดต่อ
ถ้าหากท่านใจที่สนใจ สามารดูข้อมูลคุณสมบัติ "ม่านม้วน (Roller Blinds)" แต่ละประเภทได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ม่านม้วนรุ่นต่างๆ จากแบรนด์ BIW Products
-
Online
-
Online
-
ม่านม้วนBIW RF-ESVEDRA-0100
ผ้าบุ, ผ้าม่าน, เครื่องนอน อุปกรณ์ ผ้าบุ ผ้าม่านอื่นๆ
1,800 บาท/ตารางเมตร
Online -
ม่านม้วน BIW | RF-SAIGON-0500
ผ้าบุ, ผ้าม่าน, เครื่องนอน อุปกรณ์ ผ้าบุ ผ้าม่านอื่นๆ
2,500 บาท/ตารางเมตร
Online -
Online
-
ม่านม้วนBIW RF-WINCHESTER-1000
ผ้าบุ, ผ้าม่าน, เครื่องนอน อุปกรณ์ ผ้าบุ ผ้าม่านอื่นๆ
2,450 บาท/ตารางเมตร
Online
ผู้เขียนบทความ
โดยเรามีแนวคิด คุณภาพ สร้างสรรค์และหลากหลาย เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานซึ่ง BIW มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ รักษาคุณภาพ และคัดสรรสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม