สติ๊กเกอร์ฆ่าเชื้อไวรัส ดักกลิ่น กับเทคนิคการนำไปตกแต่งใช้งานในพื้นที่ต่างๆ

การตกแต่งภายในให้มีความแปลกใหม่สวยงามนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีหนึ่งที่น่าสนใจและทำได้ง่ายสะดวกรวดเร็วนั่นคือการใช้สติ๊กเกอร์ที่มีลวดลายต่างๆ มาใช้ในการเพิ่มบรรยากาศ และจะดีแค่ไหนหากสติ๊กเกอร์ที่ใช้ในการตกแต่งนั้นมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ด้วย

Wazzadu.com ขอแนะนำสติ๊กเกอร์กำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส (Airpurity Freetex) จาก IQ Lab ที่สามารถพิมพ์ลายได้ตามที่ต้องการ โดยปกติแล้วเรานิยมนำสติ๊กเกอร์ไปติดบริเวณที่มีโอกาสในการสะสมเชื้อโรคสูงหรือมีการใช้งานด้วยการสัมผัสบ่อย เช่น มือจับประตู มือจับรถเข็น ปุ่มกดลิฟท์ ราวจับบันได และจุดอื่นๆ แต่จริงๆ แล้ว สติ๊กเกอร์ Airpurity Freetex มีอีกคุณสมบัติที่น่าสนใจนั่นคือสามารถช่วยดักกลิ่นได้ด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมเทคนิคการประยุกต์ใช้สติ๊กเกอร์ฆ่าเชื้อไวรัสและดักกลิ่นในรูปแบบต่างๆ กันครับ 

1. ใช้สติ๊กเกอร์ปิดผิวผนังหรือฝ้าเพื่อตกแต่งและฆ่าเชื้อไวรัสไปพร้อมๆ กับการดักกลิ่น

เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานสัญจรผ่านไปมาค่อนข้างมาก เช่น โถงล็อบบี้ ห้องสมุด พื้นที่ส่วนกลางคอนโด คลินิกเสริมความงาม สปา ร้านนวด ร้านอาหาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีคนมาใช้งานพร้อมกันครั้งละหลายๆ คน หรือใช้กับพื้นที่ขนาดเล็กที่ใช้เก็บของที่อาจมีกลิ่นและมีเชื้อโรค เช่น ห้องแต่งตัว ห้องเก็บรองเท้า    

ในกรณีที่ไม่สามารถติดสติ๊กเกอร์ที่ผนังได้ เช่น ฟิตเนส ที่ต้องติดกระจกเงาเพื่อให้ผู้ใช้งานส่องกระจกเวลาออกกำลังกายได้ หรือรีเทลชอปที่ผนังเป็นกระจกใสเพื่อให้มองเห็นได้จากภายนอกและผนังด้านในต้องใช้ในการจัดแสดงสินค้าสามารถติดสติ๊กเกอร์ที่ฝ้าหรือเสาแทนได้ 

เนื่องจากสติ๊กเกอร์สามารถฆ่าเชื้อโรคที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศได้ เสมือนเป็นการฟอกอากาศไปในตัว วิธีการคือเชื้อโรคถูกดูดเข้ามาที่โพรงบนพื้นผิวของสติ๊กเกอร์ที่มีขนาด 0.1 -1 ไมครอน จากนั้นเซลล์ของแบคทีเรียและเชื้อไวรัสจะถูกประจุโลหะที่อยู่บนผิวสติ๊กเกอร์ทำลาย 

ทั้งนี้สามารถพิมพ์โลโก้ ลาย corporate ขององค์กร หรือลายกราฟิกทดแทนป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ลงบนสติ๊กเกอร์ได้ เนื้อวัสดุของสติ๊กเกอร์ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ขาวแบบนอนวูฟเวน สีขาวขุ่น สามารถพิมพ์ลวดลายได้โดยที่สีไม่เพี้ยนและไม่ซีดจางง่าย หมึกพิมพ์ที่ใช้นั้นเป็นหมึก Aqua Rasin ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

2. ใช้สติ๊กเกอร์ปิดผิวบนพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสไปพร้อมๆ กับการดักกลิ่น

เหมาะสำหรับติดลงบนพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย เช่น ปุ่มกดลิฟท์ ปุ่มกดบนเครื่องซักผ้าสาธารณะ มือจับประตู บานประตู บานตู้ล็อคเกอร์ มือจับรถเข็น ซึ่งสามารถติดเฉพาะส่วนได้โดยทำเป็นแถบติดเฉพาะบริเวณที่มือสัมผัส หรือไดคัทสติ๊กเกอร์ฆ่าเชื้อไวรัสและดักกลิ่นเป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อเป็นการลดปริมาณการใช้สติ๊กเกอร์แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการดักจับเชื้อโรคและช่วยขจัดกลิ่น 

สติ๊กเกอร์ฆ่าเชื้อไวรัสและดักกลิ่นมีประสิทธิภาพสูง สามารถกำจัดเชื้อโรคบนพื้นผิวได้มากกว่า 75% ภายใน 5 นาที และกำจัดเชื้อโรคถึง 99.99% ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง จึงมั่นใจได้ว่าผิวของสติ๊กเกอร์นั้นจะสะอาดอยู่เสมอและยังช่วยกำจัดกลิ่นได้อีกด้วย  

สติ๊กเกอร์กำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้รับใบรับรองจากหลายสถาบัน เช่น

• CE Declaration of Conformity (Measurement of Antimicrobial Activity on plastics and others non-porous surfaces)
• JIS Z 2801 (Test for Antimicrobial Activity of Plastics) 
• FDA (United States Food and Drug Administration)
• ALG (Analytical Lab Group) รัฐมิเนโซต้า, สหรัฐอเมริกา

3. ใช้สติ๊กเกอร์ฆ่าเชื้อไวรัสและดักกลิ่นพิมพ์เป็นลวดลายต่างๆ เพื่อใช้เป็นของพรีเมี่ยมหรือของสมนาคุณ 

การติดสติ๊กเกอร์ภายในร้านค้านั้นช่วยให้ลูกค้าเห็นถึงความห่วงใยของผู้ประกอบการถึงสุขภาพความปลอดภัยของผู้บริโภคหรือผู้ที่มาใช้งาน ทั้งนี้ทางร้านค้าต่างๆ ยังสามารถนำสติ๊กเกอร์มาใช้ในการทำการตลาดในด้านอื่นๆ ได้อีก เช่น ใช้สติ๊กเกอร์เป็นของพรีเมี่ยมมอบให้ลูกค้าเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ หรือใช้เป็นของแถมของสมนาคุณในกรณีที่ลูกค้าของทางร้านสะสมยอดซื้อได้ตามเป้าหมาย โดยอาจจะทำเป็นชิ้นเล็กๆ สำหรับติดโทรศัพท์มือถือ ติดบนแล็ปท็อป ไอแพด ติดในรถ  หรือไดคัทตามรูปร่างของวัตถุที่นำสติ๊กเกอร์ไปติด เช่น พวงกุญแจ หรือพัดพลาสติกสำหรับแจกลูกค้าได้ 

สติ๊กเกอร์ฆ่าเชื้อไวรัสและดักกลิ่นมีหน้ากว้างถึง 1.24 เมตร ยาว 30 เมตร ราคา 2,400 บาทต่อตารางเมตร หากสั่งขนาด 1 ตารางเมตรขึ้นไป สามารถสั่งพิมพ์ลายได้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม สติ๊กเกอร์ไม่หลุดล่อนง่าย และเมื่อลอกออกเนื้อกาวจะไม่ทำลายพื้นผิวของวัสดุ จึงไม่ต้องกังวลว่าโทรศัพท์มือถือหรือรถจะเป็นรอย

สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้

>>IQ Lab

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 027140644
Line OA: @iqlab