คาดการณ์อนาคตกรุงเทพฯ ในปี 2050 โดย FutureTales Lab และ Arupt Foresight
โลกของเราเปลี่ยนแปลงขึ้นทุกวัน ซึ่งส่งผลทั้งการพัฒนาเมือง การดำรงชีวิต การเรียน การทำงาน และแทบทุกองคาพยพของชีวิต วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ จาก Trendmizi ที่ได้สรุปเทรนด์และฉากทัศน์ของกรุงเทพมหานครในอนาคต จากสัมมนาออนไลน์ Future of Urbanisation Scenarios for Greater Bangkok 2050 มาฝากกันครับ
คาดการณ์อนาคตกรุงเทพฯ ในปี 2050 โดย FutureTales Lab และ Arupt Foresight
โลกของเราเปลี่ยนแปลงขึ้นทุกวัน และการเปลี่ยนแปลงนั้นล้วนส่งผลในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาเมือง การดำรงชีวิต การเรียน การทำงาน และแทบทุกองคาพยพของชีวิต วันนี้ Trendmizi สรุปเทรนด์และฉากทัศน์ของกรุงเทพมหานครในอนาคตจากสัมมนาออนไลน์ 'EP.02 : Future of Urbanisation Scenarios for Greater Bangkok 2050’ จัดโดย FutureTales Lab by MQDC และ Arup Foresight เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 ซึ่งผู้จัดได้เสนอว่าในอนาคตจะมีฉากทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของกรุงเทพฯ ในอีก 30 ปีข้างหน้า ทั้งหมด 5 รูปแบบหลักๆ ดังนี้
1) Technotopia เมืองแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง
การแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง และการจัดการปกครองแบบบนลงล่าง (Top-down Governance) จะช่วยจัดการเรื่องสภาพอากาศและวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิผล ตัวอย่างฉากทัศน์ด้าน Technotopia เช่นพลังงานที่ผลิตจากผู้ใช้เอง รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ยาน Hyperloop ที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น หรือท่าอวกาศยาน (Spaceport) ฯลฯ ซึ่งกรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง มีสภาพอากาศที่ยืดหยุ่น และเป็นมหานครที่มีประสิทธิภาพด้วยการจัดการปกครองแบบบนลงล่าง... เมื่อสถานการณ์ Covid-19 ได้พลิกโฉมโลกใบนี้ ทำให้องค์กรมหาอำนาจนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ซึ่งประเทศไทยอาจนำหลักการและแนวคิดเชิงปฏิบัติจากบริษัทด้านเทคโนโลยีมาใช้ในการปกครองได้อีกด้วย เช่นการเปลี่ยนแปลงจาก Thailand 4.0 เป็น Thailand 5.0 (เมืองเศรษฐกิจไฮเทค)
2) Urban Playgrounds พื้นที่สุขภาพนิยม สร้างสรรค์ และมีชีวิต
ผู้คนทุกช่วงวัยจะให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพมากขึ้น ทั้งในเรื่องของชีวิตประจำวัน การทำงาน และไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง พื้นที่ใดๆ ที่ยังไม่ได้วางแผนด้านชุมชนสีเขียวและอุปกรณ์การเล่นสำหรับทุกเพศทุกวัยจะเติบโตมากยิ่งขึ้นผ่านการใช้แนวคิด Tactical Urbanism การเปลี่ยนบริเวณรกร้างให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์และมีชีวิตชีวา ที่ส่งเสริมกิจกรรมทั้งทางกายและสุขภาพ ตัวอย่างฉากทัศน์ด้าน Urban Playgrounds เช่นการนำสนามเด็กเล่นพร้อมสัตว์ป่าพื้นเมืองมาเลียนแบบทางธรรมชาติ การฟื้นฟูพื้นที่ป่าในเมือง หรือการผสมผสานระหว่างทางน้ำไปกับการพัฒนาเมือง ฯลฯ
3) Decentralised Resilience เมืองที่ยืดหยุ่นปรับตัว พร้อมรับทุกสภาวะ
บัดนี้คนกรุงเทพจำนวนมากต่างอยู่ในชุมชนที่ตั้งบนพื้นสูงอย่างมีความสุข ส่วนคนที่ไม่สามารถย้ายออกได้จะอยู่ในย่านที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมมาก่อน ดังนั้น การปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่แปรปรวนนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ ซึ่งกรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่มีความพร้อมต่อการรับมือน้ำท่วมเป็นอย่างดี ตัวอย่างฉากทัศน์ด้าน Decentralised Resilience เช่นการเคลื่อนย้ายอาคารที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมขึ้นไปเหนือระดับน้ำโดยใช้เทคนิคทางวิศวกรรม หอคอยอาหารสำหรับพื้นที่น้ำท่วม หรือทางเดินลอยฟ้าพร้อมแพล็ตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับพื้นที่สาธารณะ ฯลฯ ซึ่งการนำแนวคิดด้าน Circular Economy (ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน) มาใช้จะทำให้ชุมชนเมืองเชิงนิเวศนั้นเจริญก้าวหน้ามากขึ้น หรือชุมชนลอยน้ำในพื้นที่กรุงเทพเก่าก็สามารถพึ่งพิงอาหารได้ด้วยตนเอง
4) Accelerated Generation ส่งต่อปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น เมืองแห่งการเรียนรู้และสตาร์ทอัพ
ผู้สูงอายุจะกลับมามีบทบาทในสังคมอีกครั้งโดยใช้ความชำนาญของตัวเองในการสร้างสตาร์ตอัพที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในขณะที่การพัฒนาตัวเมืองและเศรษฐกิจนั้นจะเชื่อมโยงกับคุณค่าดั้งเดิมของไทย เพราะฉะนั้นการพัฒนาการศึกษาและทักษะนั้นถือเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ ตัวอย่างฉากทัศน์ด้าน Accelerated Generations ได้แก่ การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) การส่งต่อประสบการณ์และปัญญาให้คนรุ่นใหม่โดยผู้สูงอายุ โครงการมิกซ์ยูสที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งผู้สูงอายุและคนรุ่นใหม่ไปพร้อมๆ กัน หรือหรือสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Agile เพื่อรองรับการทำงานแบบสตาร์ทอัพ ฯลฯ
5) Transforming Lifestyles ไลฟ์สไตล์สุขภาพเชิงฟื้นฟูและอนุรักษ์ธรรมชาติ
ตั้งแต่มีโรคระบาดเกิดขึ้น มุมมองด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เปลี่ยนไป ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในระยะยาว พักผ่อนเพื่อสุขภาพ หรือมองหาสมดุลทั้งกายและใจมากขึ้น ดังนั้นกรุงเทพฯ จะเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มองหาการฟื้นฟูสุขภาพระยะยาว การหาความสมดุลทั้งกายและใจ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือแม้แต่การเทรนงานในอนาคต ฯลฯ ตัวอย่างฉากทัศน์ด้าน Transforming Lifestyles ได้แก่ การสร้างพื้นที่สีเขียวในตัวเมือง เขตการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สามารถฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพได้ หรือพื้นที่สงวนทางธรรมชาติที่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อให้ได้รับประสบการณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ฯลฯ
และนี่คือ 5 ฉากทัศน์ที่ทาง FutureTales Lab by MQDC และ Arup Foresight ได้คาดการณ์เอาไว้
Trendmizi คลังเทรนด์ออนไลน์เพื่อการพัฒนาแบรนด์และธุรกิจ โดยศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต Baramizi Lab
ขอขอบคุณ: FutureTales LAB by MQDC และ Arup Foresight
ที่มา : https://fb.watch/8vSSdsUQq3/
https://www.matichon.co.th/economy/news_2980742
https://www.bangkokbiznews.com/business/964691
https://foresight.arup.com/.../future-of-urbanisation.../
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางฟีเจอร์ต่างๆดังนี้
Search - ค้นหา และจัดเก็บ ทั้งไอเดีย และสินค้า และบริการสำหรับการออกแบบตกแต่ง
Sourcing - จัดหาสินค้า และเปรียบเทียบราคาโดยการติดต่อ ผ่านแบรนด์ต่างๆ หรือบริการในแพลตฟอร์ม
Spec - เครื่องมือสเปคข้อมูลวัสดุ โดยแสดงข้อมูลเพื่อการออกแบบ เปรียบเทียบคุณสมบัติเชิงลึก ทั้งการติดตั้ง ขนาด ราคา และรีวิวการใช้งาน
แบรนด์ / ผู้จัดจำหน่ายสามารถเปิดโปรไฟล์ และอัพโหลดสินค้าได้ฟรี
ติดต่อเราที่ 02-714-0454
Email: contact@wazzadu.com ... อ่านเพิ่มเติม