เปรียบเทียบคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสียของกระเบื้องเซรามิก และกระเบื้องพอร์ซเลน

หากพูดถึงวัสดุตกแต่งพื้นและผนังที่ถูกใช้มาอย่างนาวนาน หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “กระเบื้อง” จากวัสดุดินเผาที่พวกเราต่างเรียกกันชินปากว่ามาจนปัจจุบันนี้ กระเบื้องมีให้เลือกมากมาย แต่ว่าจะมีความแตกต่างอย่างไรนั้น Wazzadu ได้หยิบเอา “กระเบื้องเซรามิก” กับ “กระเบื้องพอร์ซเลน” มาอธิบายในบทความนี้ครับ

กระเบื้องเซรามิก (Ceramic tile)

สำหรับกระเบื้องเซรามิกที่ใช้อย่างแพร่หลาย จะเป็นกระเบื้องที่ทำจากดินเผาธรรมดา สังเกตได้จากด้านหลังของแผ่นจะมีสีส้มคล้ายๆ สีอิฐมอญ กระเบื้องเซรามิกมีความแข็งแรงปานกลาง เผาด้วยอุณหภูมิ 900 – 1,100 °c ด้วยอุณหภูมิที่สูงไม่มากทำให้มีการดูดซึมน้ำสูง จึงเหมาะกับการใช้งานภายในอาคารเป็นหลัก

ทว่าด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้ามากขึ้น บางทีมีการเคลือบผิวหน้าด้วยน้ำยาเคลือบต่างๆ ที่ทำให้เพิ่มคุณสมบัติของกระเบื้องเซรามิกให้ทนทานมากขึ้น ทนชื้นมากขึ้น และมีลวดลายให้เลือกมากมาย กระเบื้องเซรามิกจึงมีให้เลือกหลายเกรด แต่ทั้งนี้ด้านคุณสมบัติของตัว Raw Material โดยพื้นฐานแล้วก็จะแตกต่างจากกระเบื้องพอร์ซเลนอยู่ดี เนื่องจากเป็นดินคนละประเภทที่ใช้ผลิต

ข้อดี :

- โดดเด่นเรื่องดีไซน์ที่มีลายให้เลือกหลายแบบ

- มีเรทราคาตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง จึงเลือกใช้ได้กว้างขวาง

ข้อเสีย :

- เมื่อมีน้ำท่วมขังบนกระเบื้องเซรามิกจะมีความลื่น อาจเกิดอุบัติลื่นล้มได้

- มีความทนทานน้อยในบรรดากระเบื้องทั้งหมด

- เหมาะกับการใช้งานตกแต่งแค่ครั้งเดียว ถ้ารื้อออกจะไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีก

การใช้งาน : มีการแบ่งเกรดทั้งแบบปูพื้นและบุผนัง แต่ส่วนใหญ่มักนิยมใช้ตกแต่งภายในอาคารเป็นหลัก

กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain tile)

อิงตามชื่อเลยก็คือ กระเบื้องที่ทำมาจากดินพอร์ซเลนที่เป็นกลุ่มดินขาว ตัวเนื้อดินมีความละเอียดและมีแร่ธาตุต่างจากดินทั่วไป มีความแข็งแรงทนทานสูง เพราะเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงประมาณ 1200°c ขึ้นไปและมีอัตราการดูดซึมน้ำที่ต่ำมาก สามารถใช้งานติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกของอาคาร

อีกทั้งกระเบื้องพอร์ซเลนนี้มีชื่อเรียกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Granite, Granito, Homogeneous (อ่านว่า โฮโมจีเนียส) หมายความว่ากระเบื้องแกรนิตและแกรนิตโต้ที่ใครๆ อาจได้ยินชื่อมาบ้าง ก็ผลิตมาจากดินพอร์ซเลนเช่นเดียวกัน หากจะอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้น สามารถแบ่งลักษณะได้ตามนี้ครับ

กระเบื้องพอร์ซเลนแบ่งออกตามความแตกต่างของ surface เป็น 2 ประเภท คือ

1. กระเบื้องเกลซพอร์ซเลน (Glazed Porcelain tile) : ลักษณะจะมีการเคลือบผิวแค่ด้านเดียว เป็นกระเบื้องที่ใช้การพิมพ์ลายตกแต่ง จึงมีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลาย

2. กระเบื้องแกรนิตโต้ (Granito tile) : หรืออีกชื่อว่า กระเบื้องโฮโมจีเนียส (Homogeneous tile) ลักษณะจะเป็นกระเบื้องแบบเนื้อเดียวที่ไม่มีแบ่งชั้นเคลือบสี เพราะสีของกระเบื้องชนิดนี้จะเกิดจากการผสมสีลงไปในเนื้อดิน

ข้อดี :

- ส่วนใหญ่จะมีสีสันและพื้นผิวคล้ายหินธรรมชาติ ทั้งยังสามารถพิมพ์ลายเลียนแบบวัสดุอื่นได้

- มีความแข็งแรง ทนทานสูงจึงรับน้ำหนักได้มาก สามารถใช้ปูเป็นพื้นที่จอดรถ

ข้อเสีย :

- มีราคาแพงกว่าแบบกระเบื้องเซรามิก

การใช้งาน : สามารถใช้งานตกแต่งพื้น ผนังได้ทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร

ซึ่งที่จริงแล้วกระเบื้องเซรามิกยังมีอีกหลายประเภท รวมถึงวัสดุที่ใช้ปูพื้นและบุผนังก็ต่างมีอีกมาก สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติม เข้ามาติดตามชมที่เพจ Encyclopedia นะครับ 

เขียน และเรียบเรียงโดย Wazzadu Encyclopedia

ข้อมูลอ้างอิงจาก

https://www.umi-tiles.com

http://www.thaiceramicsociety.com

https://www.porcela.co

https://www.jorakay.co.th

https://thinkofliving.com

รูปประกอบจาก :

https://www.archdaily.com