ก่อนออกแบบเฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรรู้! ไม้อัดเฟอร์นิเจอร์แบบไหนเหมาะกับงาน Built-in หรือลอยตัว

ปัจจุบัน งาน Built-in เฟอร์นิเจอร์ ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมในเมือง มักมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ Built-in จึงนับว่าช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในได้เป็นอย่างดี แต่แม้ว่าเฟอร์นิเจอร์ Built-in จะได้รับความนิยมมากเพียงใด ก็ยังคงมีการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอย่างแพร่หลาย เนื่องด้วยข้อดีในหลายๆ ด้าน เช่น ราคาถูกกว่าเฟอร์นิเจอร์ Built-in  สามารถเคลื่อนย้าย ปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในห้องได้ ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ไม่สามารถขยับ หรือปรับเปลี่ยนได้ ทำได้เพียงการรื้อทิ้งและสร้างใหม่เท่านั้น

แต่การจะออกแบบเฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะในรูปแบบ Built-in หรือลอยตัว ก็ล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องรู้จักวัสดุที่จะเลือกใช้เป็นอย่างดีเสียก่อน โดยวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ ไม้อัดเฟอร์นิเจอร์ หรือไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติชนิดต่างๆ ว่าเหมาะกับการทำเป็นเฟอร์นิเจอร์รูปแบบใดกันบ้าง

เริ่มด้วยไม้อัดเฟอร์นิเจอร์อย่าง ไม้ปาร์ติเกิล และ ไม้ MDF ไม้ทั้ง 2 ชนิด เหมาะกับการนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ประกอบยึด (Fitting) ชนิดต่างๆ ในการยึดหรือประกอบ แต่ทั้งนี้ ไม้ปาร์ติเกิลและไม้ MDF ก็สามารถนำมาใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ Built-in ได้ แต่ช่างผู้ติดตั้งจะต้องเข้าใจวิธีการยึดประกอบและติดตั้งอย่างถูกวิธี เนื่องจากอุปกรณ์ประกอบยึด (Fitting) จะมีความแตกต่างจากงาน Built-in ไม้จริงหรือไม้อัดนั่นเอง

สำหรับ ไม้ปาร์ติเกิล เป็นไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติที่ผลิตจากชิ้นไม้ขนาดเล็ก (Flake) นำมาอัดโดยใช้กาวอัดร้อนชนิด Thermosetting resin เป็นตัวประสาน ทำให้เนื้อไม้มีความเหนียว แต่เนื้อไม้จะมีโพรงอากาศอยู่ภายใน ทำให้น้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มชนิดของไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ

การใช้งานหากไม่มีการปิดผิวหรือใช้วัสดุเคลือบทับจะไม่สามารถใช้งานแบบเปียก หรือในพื้นที่ที่มีตวามชื้นสูงได้ เพราะจะทำให้ไม้ปาร์ติเกิลเปื่อยยุ่ย และยังต้องคอยระวังไม่ให้เชื้อราอันเกิดจากความชื้นขึ้นที่ผิวไม้

นอกจากนี้ การพ่นสีบนปาร์ติเกิลบอร์ด จะต้องใช้ปริมาณเนื้อสีต่อพื้นที่ที่มากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ทดแทนไม้ชนิดอื่นๆ เช่น MDF ไม้อัด หรือไม้จริง เนื่องจากมีผิวที่เรียบละเอียดน้อยกว่าทำให้จะกินเนื้อสี ซึ่งการในการทำสีจะต้องมีการขัดเพื่อเตรียมพื้นผิวที่มากกว่า

สำหรับการปิดผิวโดยใช้วัสดุที่มีพื้นผิวบางเช่น การปิดผิวด้วยแผ่น PVC นั้นจะต้องมีการขัดเพื่อเตรียมพื้นผิวเพิ่มเติม  เนื่องจากชิ้นไม้ขนาดเล็ก (Flake) ที่นำมาบดอัดมีขนาดไม่สม่ำเสมอทำให้ผิวหน้าบอร์ดไม่เรียบละเอียด แต่อย่างไรก็ตามไม้ปาร์ติเกิล ก็ยังมีข้อดีในด้านราคาที่จับต้องได้ ขนย้ายสะดวกเพราะมีน้ำหนักเบา รวมทั้งหาซื้อได้ง่าย ทำให้นิยมใช้กับโครงการที่ต้องการควบคุมต้นทุน หรือมีงบประมาณจำกัด

ไม้ปาร์ติเกิล จากแบรนด์ WoodSmith ผลิตขึ้นจากไม้โตเร็วและเศษไม้จากการเลื่อย นำมาบดและผสมกาว อัดเป็นแผ่นให้มีความหนาแน่น 620-740 กก./ม3 มีน้ำหนักเบาที่สุดและราคาถูกกว่าในบรรดาไม้ทดแทนไม้จากธรรมชาติชนิดอื่นๆ เหมาะนำมาใช้กับงานตกแต่ง หรืองานเฟอร์นิเจอร์

ในส่วนของ ไม้ MDF (Medium Density Fiberboard) เป็นไม้ที่ผ่านการบดอัดด้วยเครื่องบดอัดไม้แรงอัดสูง อัดเป็นแผ่นด้วยความร้อน จนได้เนื้อไม้ที่มีความหนาแน่น ละเอียด ผิวเรียบเนียน แข็งแรงเทียบเท่าไม้จริง จึงรับน้ำหนักได้มากกว่าไม้ปาร์ติเกิล มีข้อดีคือ ความหนาแน่นของแผ่นไม้มากกว่าไม้ปาร์ติเกิล ส่งผลให้มีน้ำหนักมากกว่า สามารถพ่นสี หรือทาสีลงในเนื้อไม้ได้ นอกจากนี้ยังทนความชื้นได้อีกด้วย แต่เมื่อมาพร้อมกับข้อดีหลากหลายประการ ก็ย่อมต้องมาคู่กับราคาที่สูงกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ขณะตัดไม้ MDF หน้างาน ยังก่อให้เกิดฝุ่นเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดหน้างานให้เรียบร้อย

สำหรับ ไม้ MDF จากแบรนด์ WoodSmith ผลิตจากพืชที่มีเส้นใย หรือเส้นใยของไม้ เช่น ยูคาลิปตัส ยางพารา ฯลฯ นำมาผสมกาวและอัดเป็นแผ่นด้วยความร้อนให้มีความหนาแน่น 600-800 กก./ม3 สามารถผลิตแผ่นไม้ที่มีความบางมากๆ ได้ มีผิวละเอียด เรียบเนียน สม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น ด้วยคุณสมบัติในผิวหน้าที่ดี MDF จึงเหมาะสำหรับการนำไปใช้งานที่มีการขึ้นรูป ทำสี หรือ การตกแต่งผิวหน้าในหลายๆ รูปแบบ สามารถแต่งเนื้อไม้ให้เรียบ โดยไม่เป็นขุย จึงเหมาะกับการสร้างสรรค์ชิ้นงานไม้พื้นฐานและเฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบลอยตัวและ Built-in

ไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติอีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำมาใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ได้ คือ ไม้ปิดวีเนียร์ หรือ ไม้อัด KU จากแบรนด์ WoodSmith ซึ่งสามารถใช้งานทดแทนไม้อัดสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ Built-in สำหรับไม้อัดเกรด B หรือ C รวมถึงลักษณะงานที่ต้องใช้วัสดุปิดทับเพื่อตกแต่ง

ในส่วนของ ไม้อัดเฟอร์นิเจอร์จาก WoodSmith จะเป็นเกรด A ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด มีการควบคุมคุณภาพ และคัดผิวหน้าไม้อัดสำหรับงานที่ต้องการทำสี หรือโชว์เนื้อไม้ โดย ไม้ปาร์ติเกิลและไม้ MDF มีกระบวนการผลิตตามมาตรฐานสากล ผ่านการควบคุมกระบวนการผลิตและสุ่มทดสอบค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ที่มีผลต่อคุณสมบัติของไม้ เช่น ความหนาแน่น (Density), การทดสอบการหัก (Bending strength) หรือการพองตัวเมื่อได้รับความชื้น (Thickness swelling)  ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ไม่สามารถบ่งบอกได้จากการมองภายนอก

และนี่ก็คือคุณสมบัติเบื้องต้นของไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติชนิดต่างๆ รวมถึงไม้อัดเฟอร์นิเจอร์จาก WoodSmith ที่เรานำมาบอกต่อเพื่อการเลือกไม้อัดเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับตัววัสดุและความต้องการของผู้ใช้งานทุกคน

ตัวอย่างสินค้าที่แบรนด์จำหน่าย

สำหรับท่านที่สนใจสินค้าไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ

สามารถสอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่

www.wazzadu.com/page/woodsmith/contact

หรือโทร : 02-5879700 , Line@ : @Vanachai.woodsmith