เก็บรายละเอียดงานตกแต่งพื้นให้เนี๊ยบเป๊ะ กับไม้พื้นลามิเนต ตัวจบไม้พื้นและบัวเชิงผนัง
สำหรับงานตกแต่งภายใน โดยเฉพาะกับพื้นที่สาธารณะ อาคาร ห้างร้านต่างๆ การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงการเก็บงานให้เรียบร้อย ไร้ที่ติ ล้วนแล้วแต่เป็นหน้าเป็นตาขององค์กร หรือหน่วยงานนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ทัศนคติของผู้ใช้งานจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับส่วนนี้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าสามารถสร้างได้ทั้ง first impression และความคิดในแง่ลบต่อสถานที่นั้นๆ ได้เลย
การเลือกวัสดุในการงานตกแต่งภายใน ก็สำคัญไม่แพ้กัน วัสดุที่ดี ย่อมส่งผลต่อการติดตั้ง และการใช้งานในระยะยาว ไม้พื้นลามิเนต เป็นผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูปอีกหนึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาที่เอื้อมถึงง่ายสำหรับโครงการที่มีงบประมาณจำกัด รวมถึงข้อดีด้านการติดตั้ง ด้านดีไซน์ ความสวยงาม และความแข็งแรงทนทาน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้พื้นไม้ลามิเนต ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
สำหรับไม้พื้นที่เราอยากแนะนำให้เป็นทางเลือกในวันนี้ คือ ไม้พื้นลามิเนต จากแบรนด์ WoodSmith ซึ่งมีให้เลือกหลายรุ่น ตอบสนองตามความต้องการได้หลากหลาย ได้แก่
- ไม้พื้นลามิเนต รุ่น Standard
- ไม้พื้นลามิเนต รุ่น V-Groove
- ไม้พื้นลามิเนตแบบชิ้นยาว
- ไม้พื้นลามิเนตแบบชิ้นกว้าง
นอกจากรุ่นสินค้าที่หลากหลายแล้ว ยังมีลวดลายและสีสันให้เลือกมากมายตอบโจทย์ดีไซน์ที่แตกต่างได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงขนาดก็ยังมีความหลากหลายอีกด้วย ที่สำคัญ ไม้พื้นลามิเนตจาก WoodSmith ยังผลิตตามมาตรฐาน EN13329 ซึ่งมีการทดสอบคุณภาพในด้านต่างๆ ทั้งวัสดุไม้ HDF (substrate) วัสดุปิดผิว (Surface) และคุณสมบัติในการประกอบ (pre-installation) ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ถึงความทนทานและประสิทธิภาพในการใช้งาน
ซึ่งเมื่อเทียบกับไม้พื้นลามิเนตทั่วไปในท้องตลาดแล้ว แม้ว่าจะมีหลากหลายเกรดและราคา แต่เมื่อมองด้วยตาเปล่า จะไม่สามารถบอกถึงความแตกต่างได้ในบางคุณสมบัติของเนื้อไม้ แต่เมื่อมีมาตรฐานมาเป็นตัวช่วยการันตีแล้ว จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งานได้แน่นอน แต่หากต้องการให้อายุการใช้งานยาวนานแล้วละก็ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกความชื้น เตรียมพื้นที่ก่อนการติดตั้ง และดูแลรักษาให้ถูกวิธีควบคู่กันไปด้วย
นอกจากไม้พื้นลามิเนตแล้ว WoodSmith ยังมีไม้สำเร็จรูปชนิดอื่นๆ ได้แก่ ตัวจบไม้พื้น บัวเชิงผนัง และบัวมอบฝ้า วัสดุที่ช่วยให้งานตกแต่งพื้นเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ โดยประกอบไปด้วย
บัวมอบฝ้า ได้แก่ ไม้บัวล่าง ไม้บัวกลาง ไม้บัวบน และไม้บัวพื้น แบ่งออกเป็น ทั้งหมด 6 ตัว ตามลักษณะการใช้งาน
ตัวจบไม้พื้นและบัวเชิงผนัง ได้แก่
- บัวเชิงผนัง (Skirts)
- ตัวจบครอบฉาก (Cover)
- ตัวจบเก็บขอบ (Edge)
- ตัวจบต่างระดับ (Transition)
- ตัวจบระดับเดียวกัน (Joint)
ซึ่งในแต่ละตัว จะมีสีสันให้เลือกมากถึง 7 สี ใช้วัสดุ MDF หรือ WPC ขึ้นรูปปิดผิวด้วย PVC
ดังที่ทราบกันดีว่า การติดตั้งไม้พื้นลามิเนตจำเป็นจะต้องเว้นช่องว่างสำหรับให้ไม้ขยายตัว เนื่องจากไม้ลามิเนตยาว 1 เมตร มีโอกาสขยายตัวประมาณ 1 มม. จึงต้องใช้ตัวจบในการเก็บขอบมุมเพื่อความสวยงามและป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ใช้งานนั่นเอง มาดูกันว่า การใช้ตัวจบแต่ละประเภท ควรเว้นระยะห่างของไม้พื้นเท่าไหร่บ้าง
บัวพื้น (Baseboard) หรือ บัวเชิงผนังกลาง (Skirts) จาก WoodSmith
เมื่อติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตมาถึงบริเวณผนัง จะต้องเว้นระยะห่างระหว่างผนังกับพื้นไม้ลามิเนตไว้ประมาณ 1 - 1.5 cm เพื่อให้พื้นไม้ลามิเนตขยายตัว แล้วทำการติดตั้งบัวพื้นบริเวณช่องดังกล่าวเพื่อกดทับให้พื้นไม้ลามิเนตไม่กระเดิด และยังช่วยเก็บรายละเอียด เพิ่มความสวยงามไปด้วยในตัว
ตัวที (T-Moulding) หรือ ตัวจบระดับเดียวกัน (Joint) จาก WoodSmith
T-Moulding ใช้สำหรับเชื่อมรอยต่อระหว่างวัสดุที่เหมือนกัน หรือ แตกต่างกันให้เกิดความเรียบร้อย สวยงาม และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน เช่น พื้นไม้ลามิเนต กับพื้นกระเบื้อง หรือ พื้นไม้ลามิเนต กับไม้ธรณีประตู เป็นต้น
ตัวจบ Edging หรือ ตัวจบเก็บขอบ (Edge) จาก WoodSmith
Edging ใช้สำหรับจบงานระหว่างพื้นไม้ลามิเนตกับผนัง หรือ ขอบที่เป็นมุมฉากซึ่งไม่สามารถใช้บัวพื้นได้ เช่น บริเวณพื้นไม้ กับเฟรมอลูมิเนียม เป็นต้น
ตัวจบต่างระดับ (Transition)
Transition ใช้สำหรับจบงานในกรณีที่พื้นไม้ลามิเนตสูงกว่าพื้นที่เชื่อมต่อกัน เช่น บริเวณระดับพื้นหน้าห้องน้ำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็คือ เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการติดตั้งตัวจบไม้พื้น ให้เข้ากับไม้พื้นในจุดต่างๆ และผลิตภัณฑ์วัสดุตกแต่งพื้น ที่ช่วยเก็บรายละเอียดและเพิ่มความเรียบร้อยสมบูรณ์แบบให้กับงานปูพื้นของคุณ ที่ WoodSmith พร้อมให้บริการเพื่อตอบทุกความต้องการ
ตัวอย่างสินค้าที่แบรนด์จำหน่าย
สำหรับท่านที่สนใจสินค้าไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ
สามารถสอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่
www.wazzadu.com/page/woodsmith/contact
หรือโทร : 02-5879700 , Line@ : @Vanachai.woodsmith
ขอบคุณรูปประกอบจาก Wazzadu Academy
ผู้เขียนบทความ
“วู้ดสมิตร” จะมีสาขาในทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย โดยจะมี ทั้งแบบร้าน standalone และร้านที่ร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อให้ผู้บริโภคได้เรียนรู้และ สัมผัสสินค้าไม้สำเร็จรูปทดแทน ธรรมชาติอย่างใกล้ชิดก่อนซื้อ ภายใต้แนวคิด วู้ดสมิตร “มิตรงานไม้” ที่เป็นมิตรกับคู่ค้าลูกค้า และให้ความสำคัญ กับการผลิตที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการผลิตแผ่นไม้ ทดแทนไม้ธรรมชาติต้องปรับตัว และพัฒนากระบวนการ ผลิตให้ก้าวทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปและลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมที่วิกฤตขึ้นทุกวัน วนชัยเป็นองค์กรแรกๆ ในอุตสาหกรรมไม้ที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวด ล้อมอย่างเป็นรูปธรรมโดยยึดแนวคิดในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด ลดการใช้วัตถุดิบที่ฟุ่มเฟือย และเน้นการ มองหาทรัพยากรทดแทนเพื่อรักษาธรรมชาติให้สมดุล เช่น การเลือกใช้ไม้ยางพาราที่ หมดน้ำยางแล้วมาใช้ผลิตแผ่น ไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ
วู้ดสมิตรเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้า เพื่อทำให้ ตัวแทนจำหน่าย และ วนชัยสามารถร่วมกันดูแลตอบสนอง ลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพ มากขึ้น นอกจาก นี้ยังมีเป้าหมายในการพัฒนาสินค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้า ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของตลาด เป็นสินค้าใหม่ที่พัฒนามาเป็น ทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค
นอกจากนี้ “วู้ดสมิตร” จะเป็นช่องทางสื่อสารใหม่ที่วนชัย ส่งตรงถึงกลุ่มผู้บริโภค สามารถทำให้วนชัยเข้าถึงและเข้าใจ ความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคจะมีทางเลือกใหม่ในการซื้อสินค้าไม้สำเร็จรูปแบบ ใหม่ที่ยังไม่มีขายในร้าน modern trade และตัวแทนจำหน่าย ซึ่งสินค้าไม้สำเร็จ รูปแบบใหม่นี้ ได้รับการพัฒนามาเพื่อ ช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดระยะเวลาการติดตั้งในการก่อสร้าง ผู้บริโภคจะได้รับการบริการที่ใกล้ชิด และ รวดเร็วมากขึ้น ผ่านทีมช่างมิตรและเครือข่ายของ วู้ดสมิตร และ วู้ดสมิตรออนไลน์ที่พร้อม ตอบสนองผู้บริโภคทุกเวลาและทุกสถานที่ ... อ่านเพิ่มเติม