คุณสมบัติที่แตกต่างระหว่าง “อิฐมวลเบา G4” จาก Smartblock กับ “อิฐมวลเบา G2”
ในปัจจุบันนั้นมีวัสดุที่สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างด้วยกันหลายชนิด ดังเช่น “อิฐมวลเบา” เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ก่อสร้างผนังที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน นอกเหนือจากความคงทนแข็งแรงแล้ว ยังสามารถตอบทุกโจทย์ของความต้องการ ในการก่อสร้างผนัง ให้กับที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากในปัจจุบัน ด้วยความนิยมที่มากขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในท้องตลาดมีสินค้าประเภทอิฐมวลเบาเกิดขึ้นมากมายหลากหลายให้เลือกใช้ตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันไป
อิฐมวลเบาโดยทั่วไปอาจแบ่งตามกระบวนการผลิตได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ชนิดไม่อบไอน้ำ (Cellular Lightweight Concrete:CLC) และ ชนิดอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง (Autoclave Aerated Concrete: AAC) ซึ่งมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป สำหรับในประเทศไทยนั้น อิฐมวลเบาประเภท AAC จะได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากคุณสมบัติโดยรวมของตัวอิฐมวลเบา สมารถตอบสนองการใช้งานในภาพรวมได้ดีกว่า
อิฐมวลเบา AAC โดยทั่วไป ถูกผลิตขึ้นจากวัตถุดิบ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์คุณภาพสูง ทรายบดละเอียด ปูนขาว ยิปซั่ม ผงอะลูมิเนียม และน้ำสะอาด วัตถุดิบทั้งหมดจะถูกผสมเข้าด้วยกันอยู่ในรูปแบบของเหลว เกิดปฏิกิริยาทางเคมีของส่วนผสม ทำให้เกิดฟองอากาศเล็กๆ มากมาย กระจายตัวกันอย่างสม่ำเสมอในเนื้อคอนกรีตมวลเบา ฟองอากาศเหล่านี้ทำให้มีน้ำหนักเบาและเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยม หลังจากนั้นคอนกรีตที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่จะถูกตัดแบ่งตามขนาดของบล็อกที่ต้องการ แล้วเก็บบ่มไว้ระยะเวลาหนึ่ง จึงนำเข้าอบด้วยไอน้ำที่มีอุณหภูมิ และแรงดันสูง (Autoclaved Method) เป็นเวลานาน บล็อกจึงเกิดเป็นผลึก Calcium silicate hydrate ที่มีความแข็งแรงสูง พร้อมนำไปใช้งาน
สำหรับชั้นคุณภาพที่นิยมเลือกใช้งานในการก่อสร้างประเทศไทยมีแบบชั้นคุณภาพ 2 (G2) และแบบชั้นคุณภาพ 4 (G4) ซึ่งจากตารางที่แสดงการเปรียบเทียบคุณสมบัติเฉพาะตัวของอิฐแต่ละชั้นคุณภาพนั้น แสดงให้เห็นว่าแบบชั้นคุณภาพ 4 (G4) สามารถรับแรงอัดและมีความหนาแน่นที่มากกว่าชั้นคุณภาพ 2 (G2)
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า สมาร์ทบล็อก G4 มีคุณสมบัติที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการก่อสร้างงานโครงการ หรือ บ้านที่อยู่อาศัยที่ต้องการความคงทนแข็งแรง รวมไปถึงงานโครงสร้างที่ต้องการการรับน้ำหนัก และ อาคารสาธารณะ รวมไปถึงอัตราการดูดซึมน้ำ และ ค่าการนำความร้อน ที่ต่ำกว่า อิฐมวลเบา G2 และ G4 ทั่วไป จึงทำให้ สมาร์ทบล็อก G4 เป็นอิฐก่อผนังที่ช่วยประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
สมาร์ทบล็อค G4 อิฐมวลเบาประหยัดพลังงาน ด้วยรูพรุนขนาดเล็กไม่ต่อเนื่องกันภายใน กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งก้อนอิฐ ผ่านการอบไอน้ำที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความดันอย่างเหมาะสม (AUTOCLAVED) ซึ่งผลิตจากโรงงานที่มีมาตรฐานสูง ผ่านการผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยคือ WEHRHAHN จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรที่มีความเชี่ยวชาญและทันสมัยเป็นที่ยอมรับทั่วโลก มีระบบควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน
และด้วยกระบวนการผลิตระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง สูตร Cement Base ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีคุณภาพและแข็งแกร่งทนทานกว่าระบบอื่น จึงทำให้คอนกรีตมวลเบา "สมาร์ทบล็อค" ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.1505-2541 โดยทุกก้อนมีคุณภาพสม่ำเสมอเท่ากัน ขนาดมิติทุกด้านเที่ยงตรง หน้าสัมผัสราบเรียบ ทำให้ก่อง่าย โดยใช้ปูนก่อบางเพียง 2-3 มิลลิเมตร และฉาบบางไม่เกิน 1 มิลลิเมตร สามารถลดปริมาณปูนก่อและฉาบได้มาก
อีกทั้ง ยังโดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่น้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่ง สามารถกันความร้อน กันเสียง ดูดซับเสียง ทนไฟและกันไฟได้นานๆ กว่า 4 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้ คอนกรีตมวลเบา "สมาร์ทบล็อค" จึงได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนชั้นนำให้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ระดับประเทศมากมาย
ตัวอย่างสินค้าเทียบเคียง
สนใจติดต่อสอบถามหรือสเปกสินค้าได้ที่
https://www.wazzadu.com/page/smartblock/contact
#Wazzadu #SmartBlock #Block #อิฐมวลเบา #LEGOsystem #ผนังอิฐ
ผู้เขียนบทความ