Playville@49 Playscape สนามเด็กเล่นที่คำนึงถึงเด็กในแต่ละช่วงวัย
โครงการอ้างอิง
Playscape สนามเด็กเล่นสุดสร้างสรรค์ โดย NITAPROW
โครงการ | อาคารพาณิชย์ |
ที่ตั้ง | Playville 8, 3 ซอย สุขุมวิท 49 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ประเทศไทย |
ปีที่สร้าง | 2018 |
การรีวิว | 1 บทความรีวิว |
A WILL TO PLAY
TEXT: JATURON KINGMINGHAE
ก่อนหน้านี้ครอบครัวเรามักจะพาลูกไปเล่นตามสนามเด็กเล่น และ Playgroup ตามที่ต่างๆ อยู่แล้ว แต่การพาลูกไปเล่นครั้งนี้แตกต่างออกไปจากทุกครั้ง เราไปกันที่ Playville ซึ่งออกแบบโดย NITAPROW ที่ร่วมกันก่อตั้งโดย นิษฐา ยุวบูรณ์ และ พราว พุทธิธรกุล หลายคนคงยังไม่ลืมงานชิ้นก่อนหน้าของสตูดิโอนี้อย่างงาน Patom Organic Living ในซอยทองหล่อ ด้วยความที่ผมไม่เคยนั่งคิดจริงๆ จังๆ กับโจทย์อย่างการออกแบบเพื่อเด็กเล็กแบบนี้เลย ผมจึงชะงักไปเล็กน้อยกับการคิดเรื่องสเกลกับการออกแบบพื้นที่ลักษณะนี้ในฐานะสถาปนิกคนหนึ่ง คือมันช่างต่างจากสถาปัตยกรรมและเมืองที่ปกติเราให้ความสนใจมากทีเดียว พอมาเป็นสเกลเด็กน้อยแบบนี้แล้ว คำถามที่ว่าเราจะเข้าไปมีความรู้สึกร่วมกับที่ว่างและองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างไร นี่ยังเป็นเรื่องที่ผมก็ยังต้องคิดให้ออก
พูดถึงสนามเด็กเล่นสมัยนี้ มันช่างต่างจากสมัยเด็กๆ ของเรา ที่ไปลุยตากแดดกันเอาตามสนามเด็กเล่น หรือพื้นที่ที่จัดไว้ของโรงเรียนหรือหน่วยราชการต่างๆ หรือแม้กระทั่งวัด พอได้เป็นพ่อแม่คนแล้ว เราต้องคอยหาข้อมูล และก็พบว่าสมัยนี้เรามีตัวเลือกเยอะมาก โดยเฉพาะสำหรับคนในเมือง ถ้าคุณอยากเน้นฝึกทักษะร่างกายให้เด็กเล็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมองเห็น การได้ยิน การร้องเพลง เรียนรู้เรื่องศิลปะ หรือจะอิงทฤษฎีพัฒนาการเด็กแบบไหน ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ยุคนี้ เราอ่านข้อมูลแล้วก็คิดไปสารพัด จนได้ข้อสรุปว่า ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีอะไร ถ้าอยู่ใกล้บ้าน ปลอดภัย ลูกเราเล่นสนุก อารมณ์ดี มีเพื่อนเล่น กลับบ้านกินอิ่มนอนหลับ เท่านี้ก็พอแล้ว
เราเดินทางไปที่ซอยสุขุมวิท 49 ก็จะเจอ 49 Playscape เป็นอาคาร 2 ชั้น มีลานจอดรถด้านหน้า ซึ่งก็ค่อนข้างสะดวกสำหรับการเดินทางมาเป็นครอบครัวพร้อมเด็กเล็ก พอขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นที่ตั้งของ Playville โดยชั้นล่างจะเป็นส่วนของ Dog Park ร้านอาหาร Hungry Pack และร้านขายของเล็กๆ เกี่ยวกับเด็ก พอเห็นที่ตั้งและตัวอาคารสูงแค่ 2 ชั้น พร้อมลานที่ว่าง ผมก็แอบชื่นชมเจ้าของโครงการแล้วว่า มันคงไม่ง่ายที่จะตัดสินใจลงทุนทำโครงการในโลเคชั่นกลางเมืองแบบนี้ ซึ่งหลุดไปจากวังวนการพัฒนาที่ดินเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่มากมายในกรุงเทพฯ
เมื่อเข็นรถลูกขึ้นลิฟท์ขึ้นมาถึง Playville เราเจอผืนผนังกระจกบานใหญ่พร้อมบานกรอบบางเฉียบเก็บรายละเอียดเรียบร้อย ด้วยพื้นที่จำกัดเราต้องจอดรถเข็นไว้ข้างนอกและอุ้มลูกที่บังเอิญหลับอยู่ เข้าไปรอด้านในผ่านการต้อนรับ ลงทะเบียนเสร็จ ก็ได้เวลาเขาตื่นและวิ่งออกแรงพอดี ที่นี่ถูกออกแบบให้เหมาะกับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่สำคัญมากในการปลูกฝังด้านการพัฒนาทักษะและศักยภาพด้านต่างๆ ทั้งด้านกายภาพ สมอง และความคิดสร้างสรรค์
พื้นที่ที่มีจำกัดของ Playville ได้รับการออกแบบให้มีมุมเล่นที่หลากหลาย โดยสถาปนิกหยิบเรื่องการรักษาสมดุลของการทรงตัวของเด็กที่มีความแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงวัยเป็นแก่นหลักของแนวคิด มีการตกแต่งบรรยากาศที่ดูเบาสบายด้วยสีขาวและสีจากเนื้อไม้ เพื่อร้อยพื้นที่ทั้งสี่โซนเข้าด้วยกัน
ทางเข้าและล็อคเกอร์ มีลักษณะเป็นแนวยาวเหมือนอุโมงค์พร้อมผนังตู้ไม้ ออกแบบให้เป็นกริดแบบตารางเพื่อเป็นล็อคเกอร์ ด้านข้างโถงทางเดินมองผ่านกระจกติดสติกเกอร์ลายฝ้า จำลองบรรยากาศที่เหมือนมองผ่านม่านหมอกบางๆ ท่ามกลางแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านช่องเปิดรับแสงจากด้านบนหลังคา จากตรงนี้เมื่อมองออกไปเห็นบรรยากาศระเบียงในร่ม ด้านนอก มีแทรมโพลีน หญ้าเทียม กระบะทราย และผนังระแนงไม้
ถัดเข้ามาก็จะเจอป้อมไม้กระดานลื่นยอดฮิตที่ทุกคนต้องปีน ขึ้นไปเล่น ซึ่งเด็กๆ คงจะชอบมาก สังเกตได้จากการเล่นแล้วเล่นอีกไม่รู้จักเหนื่อยของพวกเขา ข้างใต้ป้อมไม้กระดานลื่น นี้เป็นมุมศิลปะให้เด็กๆ ได้ต่อบล็อคไม้และรางรถไฟ ฝั่ง ตรงข้ามของโซนนี้จะเป็นมุมอ่านนิทาน มุมแสดงงานฝีมือเล็กๆ ห้องให้นมลูก และห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม พร้อมด้วยพี่เลี้ยงที่คอยสอดส่องดูแล พูดคุยกับน้องๆ โซนนี้จึงเป็นจุดเชื่อมต่อ (transition space) ก่อนเข้าสู่โถงหลัก ซึ่งเราจะเจอมุมจำลองเครื่องครัว และมุมเล่นจำลองการทำอาหารอยู่ด้านข้าง
ใจกลางโถงหลักนี้มีป้อมปราการไม้ขนาดใหญ่ ที่มีรูปทรงประหลาดอยู่ท่ามกลางทะเลลูกบอลสีขาว มาถึงตรงนี้ ลูกชายเราคงเข้าถึงแนวคิดการระเบิดออกของที่ว่าง จากพื้นที่เล็กแคบและบีบตัว ก่อนจะเปิดออกไปสู่พื้นที่เปิดกว้าง เป็นเหมือนเซอร์ไพรส์บนเส้นทางเดินภายในที่วนลูปได้ภายในผังแบบเปิด (open plan) ด้วยความตื่นเต้น เขามุ่งตรงไปลุยทะเลบอลและสำรวจพื้นที่ทันที
ป้อมปราการที่ว่านี้ประกอบด้วยไม้โดย HABA Habermass จากเยอรมนี มีรูปทรงที่น่าสนใจและน่าฉงน เพราะเกิดจากการประกอบกันของพื้นที่เล่นต่างๆ เข้าไปในตัว โดยสถาปนิกวางให้ป้อมหน้าตาประหลาดนี้อยู่กลางโถงหลัก ซึ่งแม้กระทั่งกับผู้ใหญ่อย่างพวกเราเอง ยังอดไม่ได้ที่จะนั่งมองและจินตนาการเป็นอะไรต่างๆ นานา
ด้านข้างของห้องโถงกลางเป็นกระจกบานใหญ่ของอาคารซึ่งหันรับแดดช่วงบ่าย สถาปนิกออกแบบแก้ปัญหาให้มีแผงกรองแดดรายล้อมตลอดแนวผนังกระจกสูงพื้นชนฝ้า ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับพื้นที่ แถมมีลูกเล่นให้เด็กๆ ได้จับหรือหมุนมันได้เมื่อวิ่งผ่าน ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเหล่านี้ทำให้แพทเทิร์นของแผงกันแดดปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมการเล่นของเด็กๆ เอง ในขณะเดียวกันก็ดูดซับเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในที่เล่นไปพร้อมกัน
เมื่อวนครบลูป พื้นผิวบนพื้นที่แตกต่างกันได้รับการออกแบบเพื่อเอื้อให้เด็กเรียนรู้ความแตกต่างจากสัมผัสและสายตา และความสัมพันธ์ของแสง สี เสียง สัมผัสที่เขารับรู้ได้ในสภาพแวดล้อม ลำดับของความเปลี่ยนแปลงของแสงและสีในแต่ละส่วนของลูปการเล่นในพื้นที่ ก็ช่วยเสริมประสบการณ์ที่เด็กจะมีต่อความเข้าใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบตัวเขา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็ก
ในสายตาของศิลปินและนักเขียนที่มีความสามารถหลากหลายหาตัวจับยากอย่าง บรูโน มูนาริ (Bruno Munari) เขาเคยเขียนไว้ว่า “การทำความรู้จักกับลำดับของภาพต่างๆ ก็คือการทำความเข้าใจการกลายร่าง เหมือนที่ลูกแพร์ไม่ได้เป็นแค่ลูกแพร์ แต่มันยังหมายถึงชั่วขณะหนึ่งของการกลายร่าง ที่เกิดขึ้นจากเมล็ดหนึ่งไปสู่อีกเมล็ด ผ่านลำต้นไม้ ดอกไม้ และผล การทำให้เด็กคุ้นเคยกับการกลายร่างของสิ่งต่างๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการช่วยให้เขาได้ฟูมฟักสภาวะจิตใจที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากขึ้นนั่นเอง”
ในตอนแรกที่เข้ามาเห็นภาพรวมที่เป็นโทนขาวและไม้ของ Playville นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดเปรียบเทียบว่า ความขาวเรียบแบบนี้ มันน่าจะเหมาะกับผู้ใหญ่บางกลุ่มเท่านั้นหรือเปล่า มันไม่มีสีสันอะไรเลยเมื่อเทียบกับสถานที่เล่นอื่นๆ ที่เคยไปมาซึ่งมักจะเน้นสีสันฉูดฉาดหลากหลาย สักพักได้เห็นลูก ซึ่งเป็นผู้ใช้งานตัวจริง ใช้เวลาเล่น ตามพื้นที่ต่างๆ แบบไม่กลัวเหนื่อย ท่ามกลางเสียงหัวเราะ เสียงกรี๊ด ความอลหม่านในการวิ่งไล่จับของเด็กโต ก็ได้เข้าใจว่า อ๋อ นี่สินะสีสันที่แท้จริง
Location: Sukhumvit 49, Thailand
Building Type: Commercial
Architect: NITAPROW
Building Area: - sq.m
ผู้เขียนบทความ
WHO ARE WE?
Founded in 1995, art4d is a magazine created by designers for designers. Through its 11 annual issues, art4d presents itself in contrast to the contemporary field of home and decoration titles currently available on the market. Whereas the majority of these publications are aimed at the general public, art4d serves to benefit the community of creative professionals and participants through its content, photography and commitment to presenting intelligent narratives accompanied by vivid images as standard editorial practice. art4d is for the exclusive benefit of designers, architects and artists, functioning as a venue for the exchange of ideas amongst art and design circles within Thailand – within Asia – and worldwide.
WHAT DO WE DO?
Monthly Magazine
a monthly print magazine covering art, architecture and design that has been based in Bangkok for the past 21 years.
art4d Weekly
a weekly e-newsletter focusing on architecture, design and art distributed regularly to our subscribers and community.
Website art4d.com
a web-based offshoot of art4d conceived as a real-time online component to the monthly print edition.
At the ASA Architect Expo
ARCHITECT – an annual trade show taking place in Bangkok, Thailand organized by The Association of Siamese Architects under Royal Patronage (ASA) and TTF welcomes countless visitors working within the architectural profession for its thorough presentation of the latest products and services trending in the construction and building industries. With an aim to serve as a catalyst for exchange of architecture and design knowledge and news, art4d has enjoyed the opportunity to exhibit its publications at ARCHITECT since 1995, sharing our books and magazines with all visitors through presentation within our art4d pavilion that, on its own, proves each year to catch the viewer’s eye with its striking and memorable designs.
Annual Event and Exhibition
With an aim to serve as a catalyst of design exchange, art4d has dedicated itself to creative activities for many years. Our focus on ‘the creative community’ and dedication to architecture, design and the arts has led to the development of countless pivotal activities promoting design culture both in Thailand and abroad. ... อ่านเพิ่มเติม