ออกแบบสนามกีฬา (Sport Flooring) ควรเลือกใช้พื้นประเภทอะไร?!

การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น นอกจากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้วถ้าได้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยจะยิ่งเห็นผลมากขึ้น สนามกีฬาที่ปัจจุบันนี้ไม่ได้มีแค่ตามโรงเรียนและโรงยิม เพราะมีสนามหลายที่เปิดให้ใช้บริการตามแต่ละประเภทกีฬาและบางที่ก็เป็นหนึ่งใน Facility ของอสังหาริมทรัพย์ในโครงการหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียมเป็นต้น

ด้วยความถี่ของการใช้งานที่หนักและบ่อยครั้งกว่าพื้นทั่วไป เทียบกันแล้วพื้นสนามจะเจอแรงกระแทกมากกว่าแรงกดที่การก้าวเดินแบบปกติ น้ำหนักตัวและแรงส่งต่อที่ไหลลงสู่พื้นซึ่งซ้ำเติมในทุกๆ วัน ล้วนส่งผลกระทบให้พื้นผิวของสนามสึกหรอได้ วัสดุที่เลือกใช้ออกแบบสนามกีฬาจึงต้องมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อช่วยกระจายแรงที่ได้รับให้ลดน้อยลง เป็นการรักษาสภาพพื้นให้ใช้งานได้ยาวนาน

ไม่ใช่แค่เรื่องใช้งานระยะยาวแต่พื้นที่ดีสามารถช่วยป้องกันให้กับผู้ใช้งานได้ด้วย!? อยากรู้ว่าช่วยได้อย่างไรลองมาดูคุณสมบัติและจุดเด่นของพื้นสนามกีฬาประเภทพื้นไวนิลของ Grabo Sport Flooring จากแบรนด์ Skulthai United กันดีกว่า

สำหรับกีฬาในร่มที่นิยมออกแบบเป็นสนามจะมีขนาดที่ต่างกันออกไป และวันนี้ทาง Skulthai จะยกตัวอย่างของกีฬายอดนิยมอย่าง สนามบาสเกตบอล, แบดมินตันและวอลเลย์บอล มาแชร์ให้ทราบถึงรายละเอียดคร่าวๆ กันว่าควรใช้พื้นที่ประมาณเท่าไหร่ มาดูกันเลย!

ขนาดของสนามบาสเก็ตบอล

ตามมาตรฐานของสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ (FIBA) กำหนดไว้ที่ :

- ขนาดสนามทั่วไป ยาว 28 เมตร กว้าง 15 เมตร โดยวัดจากขอบในของเส้นสนาม

- ขนาดสนามที่เล็กที่สุดที่ใช้ในการแข่งขันได้ คือ ยาว 26 เมตร กว้าง 14 เมตร กรณีเป็นสนามในร่ม ความสูงของเพดาน หรือสิ่งกีดขวางต้องไม่ต่ำกว่า 7 เมตร

ขนาดสนามแบดมินตัน

- ขนาดสนามซึ่งอยู่ภานในเส้น ยาว 1340 ซม. กว้าง 610 ซม.

- ความสูงของสนามไม่ควรต่ำกว่า 10 เมตร (โดยวัดจากจุดต่ำสุดของคานหลังคา)

- ความห่างของแต่ละสนามขั้นต่ำ 100 ซม. (วัดจากเส้นข้างสนามทั้งสอง)

- ด้านหลังสนามควรมีพื้นที่ปลอดภัยจากเส้นหลังสนามขั้นต่ำ 80 ซม.

- เส้นมีขนาด 4 ซม. เป็นสีขาวหรือสีเหลือง (ต้องไม่สะท้อนแสง)

ขนาดสนามวอลเลย์บอล

- ขนาดสนาม ยาว 18 เมตร กว้าง 9 เมตร ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งแดนด้วยตาข่าย ทำให้เกิดพื้นที่แดนละ 9×9 เมตร

- พื้นที่โล่ง เป็นพื้นที่โล่งเหนือสนามควรสูงอย่างน้อย 7 เมตร แต่แนะนำที่สูง 8 เมตร ส่วนพื้นที่โล่งรอบสนามควรกว้างอย่างน้อย 3 เมตรขึ้นไป ในการแข่งขันระดับโลกหรือที่เป็นทางการมักกำหนดพื้นที่โล่งเหนือสนามที่ 12.5 เมตร ด้านข้าง 5 เมตร ด้านหลัง 6.5 เมตร

และนี่ก็เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ ที่มาแชร์เพื่อแนะนำวัสดุปูพื้นประเภทไวนิลและแถมท้ายกับการออกแบบขนาดสนามกีฬาเพื่อนำไปต่อยอด หากสนใจข้อมูลพื้นไวนิลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่แบรนด์ Skulthai United

ขอบคุณข้อมูลจาก :

sportshop.in.th

sites.google.com/site/site57005

th.wikipedia.org/wiki/วอลเลย์บอล

#Wazzadu #Skulthai #VinylSportsFlooring #GraboSportFlooring #พื้นกีฬากราโบสปอร์ต  #ระบบพื้นสนามกีฬา #สนามบาสเกตบอล #สนามแบดมินตัน #สนามวอลเลย์บอล #พื้นสนามกีฬาในร่ม