ดีไซน์พื้นที่ได้ดั่งใจ เปลี่ยนห้องแคบๆ ให้ดูกว้างขึ้นได้ด้วยบานกั้นห้องจาก OVERSEAS

บ้านหลังใหญ่มักกลายเป็นเรื่องสนุกในการที่จะดีไซน์แบ่งสัดส่วนห้องหรือพื้นที่ใช้สอยในบ้านได้ง่าย แต่สำหรับผู้ที่มีพื้นที่ในบ้านที่จำกัด และอยากจัดสรรพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน อาทิเช่น ต้องการกั้นห้องครัวให้เป็นครัวปิด เพื่อลดปัญหากลิ่นรบกวนในบ้าน การแบ่งห้องทำงานเงียบๆ กับห้องนั่งเล่นสำหรับบ้านที่มีเด็ก เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว หรือแม้แต่การทำห้องเสื้อผ้า (Walk-in Closet) ในห้องนอน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการจัดเก็บเสื้อผ้า ข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ

เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว การกั้นห้องที่สมบูรณ์แบบจึงจำเป็นต้องเลือกวัสดุและออกแบบประตูกั้นห้อง นอกจากจะแข็งแรง ทนทานแล้ว ยังต้องสะดวกในการใช้งาน และที่สำคัญต้องไม่ทำให้ห้องดูแคบหรือรู้สึกอึดอัด

การใช้บานเลื่อนกั้นห้องแบบกระจกแทนประตูเปิดปิด จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการทำบานเลื่อนแบบ Floor to ceiling หรือแบบเต็มผนังจากพื้นถึงเพดาน ข้อดีคือทำให้ไม่กินพื้นที่เวลาเปิดปิด รวมถึงการใช้กระจกเป็นวัสดุหลักจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัด และที่สำคัญการใช้บานเลื่อนกั้นห้องแบบรางเรียบหรือรางแขวน จะทำให้ลดความเสี่ยงในการสะดุดล้ม และเอื้อประโยชน์ต่อผู้สูงอายุที่ต้องรถเข็นได้เป็นอย่างดี

ทีนี้เรามาดูกันว่ากระจกบานเลื่อนกั้นห้องหลัก ๆ แล้วมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีข้อดีต่างกันอย่างไรบ้าง

กระจกใส/เขียวใส : กระจกใส แสงสว่างผ่านได้เต็มที่ถึง 81% เลยทีเดียว ความร้อนก็เช่นกัน จึงมักไม่ค่อยนิยมสำหรับอากาศแบบประเทศไทยสักเท่าไหร่ ปัจจุบันหลายคนจึงนิยมใช้กระจกสีเขียวใส ที่สามารถตัดแสงได้ถึง 50%-70% และยังตัดความร้อนได้ 49% เหมาะมาก ๆ สำหรับกันห้องภายในบ้าน เพราะนอกจากจะทำให้ห้องดูกว้างและปลอดโปร่งจากการได้รับแสงในปริมาณที่พอเหมาะแล้ว ห้องยังไม่ร้อนช่วยประหยัดค่าแอร์ได้อีกด้วย

กระจกสีชา : เป็นกระจกที่ช่วยให้ความร้อนผ่านน้อยที่สุดเพียง 34% แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระจกสีนี้แสงสว่างก็ผ่านได้น้อยเช่นกัน มักจะเรียกอีกอย่างว่ากระจกตัดแสง เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะมองจากข้างนอกเข้ามาได้ยาก อีกทั้งแสงสว่างในห้องต้องเพียงพอ สามารถใช้ทำเป็นประตูบานเลื่อนของห้องแต่งตัวตามภาพประกอบด้านล่างได้ หรือแม้แต่ห้องทำงานก็เหมาะเช่นเดียวกัน

กระจกฝ้า : เป็นกระจกอีกแบบที่ทำให้ห้องดูน่าค้นหา เพราะจะไม่สามารถมองเห็นข้างในได้ ซึ่งถือเป็นอีกจุดเด่นสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ด้วยความที่กระจกฝ้ามีผิวขรุขระ texture จะมีความหยาบ จึงสามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากการบิดเบือนทัศนียภาพให้ดูเบลอ ๆ ลดความคมชัดลงจากการมองเห็นภายในห้อง ขณะเดียวกันยังทำให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกด้วย หากทำเป็นบานเลื่อนกั้นห้องก็สามารถทำได้หลายห้องเลยทีเดียว ทั้งห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ

กระจกเงา : เป็นกระจกที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ความสามารถพิเศษของกระจกขนิดนี้คือการสะท้อนภาพ ซึ่งจะทำให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น อีกทั้งห้องจะดูหรูหราขึ้นมาทันที เหมาะมาก ๆ สำหรับใช้กั้นห้องแต่งตัว (Walk-in Closet) ที่ให้เราสามารถส่องได้ขณะแต่งตัว ซึ่งกระจกเงาเริ่มมีการออกแบบให้มีสีมากขึ้น นอกเหนือจากสีเงิน ซึ่งสีทองก็กำลังเป็นที่นิยมในยุคนี้

กระจกลายพิเศษ : เป็นการเพิ่มลวดลายให้กระจกที่มองแล้วไม่น่าเบื่อ อย่างกระจกลายผ้า ที่เป็นกระจกลามิเนต สามารถเพิ่มความหรูหราได้ ใช้กันห้องได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องครัว

หากต้องการดีไซน์พื้นที่ในบ้านของคุณให้เป็นสัดส่วน ใช้สอยได้เต็มที่ รวมถึงยังสามารถทำให้บ้านของคุณอยู่แล้วไม่อึดอัด แต่ยังรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย เข้าถึงทั้งอากาศและแสงแดด แม้จะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ‘บานกั้นห้องแบบกระจก’ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยคุณสมบัติของกระจกที่มีส่วนช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น ยังมีรูปแบบและการดีไซน์ของวัสดุที่ให้คุณได้สามารถออกแบบบ้านให้เป็นสไตล์ที่ใช่ และเหมาะกับการใช้งานของคนในบ้าน ตอบโจทย์การแก้ปัญหาพื้นที่จำกัด คับแคบ ให้ดูกว้างและน่าอยู่มากขึ้นได้

ขอบคุณรูปภาพประกอบบทความสวย ๆ จาก Pinterest.com