ไม้ลามิเนต (Laminate wood flooring) กับคุณสมบัติที่น่ารู้ก่อนจะนำเอาไปใช้งาน

LAMINATED WOOD FLOORING  พื้นไม้ลามิเนต

 

สินค้าเทียบเคียงในหมวด"พื้นไม้ลามิเนต"

ส่วนประกอบของพื้นไม้ลามิเนต

พื้นไม้แบบลามิเนตนั้น เป็นพื้นไม้ที่ถูกผลิตขึ้นด้วยวิธีทางวิทยศาสตร์ โดยมีไม้เป็นส่วนประกอบแค่บางส่วนเท่านั้น
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต คือ สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้ส่วนมากพื้นไม้ลามิเนตหนึ่งแผ่น จะประกอบด้วยชั้นต่างๆ กัน3-4 ชั้น แล้วนำมาอัดด้วยแรงดัน และความร้อนสูงทำให้พื้นไม้แบบลามิเนต มีการพองและหดตัวน้อยกว่าไม้จริงหลายเท่า

HDF มีคุณสมบัติทนต่อแรงกดทับ  มีความทนทานสูงป้องกันความชื้น   ป้องกันแมลง ป้องกันการขูดขีดและแรงกระแทก สีไม่ซีดจาง ดูแล รักษาทำความสะอาดได้ง่าย  
ผู้ผลิตบางรายอาจจะใส่สารป้องกันความชื้นลงในชั้นนี้ด้วย

Core layer-Fiberboard

ค่ามาตรฐานความหนาแน่น

HDF

880-920 kg/m3

MDF

680–830 kg/m3

 

พื้นไม้แบบลามิเนตนั้น เป็นพื้นไม้ที่ถูกผลิตขึ้นด้วยวิธีทางวิทยศาสตร์ โดยมีไม้เป็นส่วนประกอบแค่บางส่วนเท่านั้น
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต คือ สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้ส่วนมากพื้นไม้ลามิเนตหนึ่งแผ่น จะประกอบด้วยชั้นต่างๆ กัน3-4 ชั้น แล้วนำมาอัดด้วยแรงดัน และความร้อนสูงทำให้พื้นไม้แบบลามิเนต มีการพองและหดตัวน้อยกว่าไม้จริงหลายเท่า

1.พื้นไม้ลามิเนตชั้นบน ป็นชั้นที่แสดงถึงลายไม้ จึงต้องมีความทนทานสูง เพื่อไม่ให้เกิดริ้วรอยบนพื้นไม้ ลวดลายบนพื้นไม้ลามิเนตนั้น มาจากการใช้ภาพถ่ายลายไม้เสมือนจริง หรือออกแบบโดยคอมพิวเตอร์ และนำไปเคลือบทับด้วย เมลามีน ลามิเนต เพื่อให้ทนทานต่อการเกิดรอย นอกจากนี้ยังเคลือบด้วย เคลือบผิวหน้าด้วย Overlaying Filmชั้นนี้จะเป็นส่วนกันรอยขูดขีด 

 

2.ชั้นกลาง จะเป็นชั้นที่หนาที่สุดในพื้นไม้แบบลามิเนต และทำจากโดยการนำไม้มาบดละเอียด จนเป็นเส้นใยแล้วนำมาผสมด้วยเรซิน อัดด้วยความร้อน และ แรงดันสูงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ ที่เรียกว่า HDF หรือ High Density Fiberboard

HDF มีคุณสมบัติทนต่อแรงกดทับ  มีความทนทานสูงป้องกันความชื้น   ป้องกันแมลง ป้องกันการขูดขีดและแรงกระแทก สีไม่ซีดจาง ดูแล รักษาทำความสะอาดได้ง่าย  
ผู้ผลิตบางรายอาจจะใส่สารป้องกันความชื้นลงในชั้นนี้ด้วย

 

Core layer-Fiberboard

ค่ามาตรฐานความหนาแน่น

HDF

880-920 kg/m3

MDF

680–830 kg/m3

 

3.ชั้นล่าง จะเป็นชั้นที่ป้องกันความชื้น โดยผู้ผลิตบางรายจะเคลือบด้วยเมลามีน เพื่อให้เกิดความแข็งแรง และป้องกันความชื้นได้ดียิ่งขึ้น

ส่วนลิ้นไม้นั้นจะเป็นระบบคลิ๊กล๊อค (click lock system)ซึ่งง่ายต่อการติดตั้งเพราะไม่ต้องใช้กาวในการติดตั้ง ส่วนร่องลิ้นนั้น จะถูกเคลือบด้วยพาราฟินเพิ่มประสิทธิภาพในการกันความชื้น

ควรใส่ใจในส่วนนี้ให้มากในการเลือกใช้พื้นลามิเนท เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่ผู้ซื้อไม่ทราบคือไม้ลามิเนทตามท้องตลาดนั้นมีหลายเกรด และหลายราคา แต่บางตัวนั้นไม่มีการเคลือบพาราฟินที่ลิ้น เวลาทำความสะอาดแบบปกติถ้าความชื้นซึมผ่านลงไปได้ ก็จะทำให้ไม้พื้นนั้นเกิดบวม ระเบิด หรือหัวไม้ขึ้นเป็นสันได้ ก่อนซื้อควรศึกษาคุณสมบัติเป็นอันดับแรก และค่อยมาพิจารณาเรื่องราคา เพราะพื้นไม้จะได้อยู่กับเราไปนานๆ

 

AC Rating ของพื้นไม้ลามิเนตคืออะไร?

AC rating คือคำที่ใช้บอกถึงระดับความทนทานของพื้นไม้ลามิเนต มันถูกใช้โดยองค์กรอิสระที่ชื่อว่า European Producers of Laminate Flooring (EPLF) AC rating เป็นโค้ดบอกความทนต่อแรงบีบอัดของพื้นไม้ลามิเนต ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเลือกผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้นและเหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น การกำหนด AC rating นั้น จะต้องมีการทดสอบหลายอย่างเช่น ความทนทานต่อการไหม้ รอยข่วน คราบ และการกระแทก และยังทดสอบไปถึงความทนทานต่อขาของเฟอร์นิเจอร์ ฐานเก้าอี้ หรืออะไรก็ตามที่ต้องวาง และเคลื่อนย้ายบนพื้นด้วย พื้นไม้ลามิเนตจะได้ตรา AC rating ต่อเมื่อผ่านการทดสอบทุกขั้นตอนแล้วเท่านั้น ถ้าไม่ผ่านแม้แต่ขั้นเดียวก็จะไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ AC rating ทันที ระดับของ AC rating นั้นจะพิจารณาร่วมกับผลการทดสอบ และสถานที่ที่จะนำไม้ลามิเนตนั้นไปใช้ด้วย คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับ AC rating ระดับ AC rating ต่างๆจะแสดงใน diagram ข้างล่าง อธิบายถึงวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์และความทนทาน ระดับต่างๆจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
ระดับที่อยู่อาศัยและการค้า ซึ่งจะแบ่งย่อยออกไปตามความหนักเบาในการใช้งาน มีคนเดินผ่านไปมามาก (heavy) ทั่วไป (general) หรือปานกลาง (moderate) คำอธิบายของ AC rating สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องและการใช้งานที่เหมาะสมจะถูกอธิบายดังนี้

- AC 1 : 21 (ที่พักอาศัย, เดินผ่านปานกลาง : เหมาะกับห้องนอนหรือห้องรับแขก)

- AC 2 : 22 (ที่พักอาศัย, เดินผ่านทั่วไป : เหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือห้องทานอาหาร)

- AC 3 : 23 (ที่พักอาศัย, เดินผ่านมาก : ใช้ได้ทุกที่)

- AC 3 : 31 (สำหรับพื้นที่การค้า, เดินผ่านปานกลาง : เหมาะจะปูห้องในโรงแรมหรือ Office เล็กๆ)

- AC 4 : 32 (สำหรับพื้นที่การค้า, เดินผ่านทั่วไป : สำนักงาน, ภัตตาคาร, ร้านเสริมสวย, คาเฟ่)

- AC 5 : 33 (สำหรับพื้นที่การค้า, เดินผ่านมาก : อาคารสาธารณะ, ห้างสรรพสินค้า)

ผู้ผลิตพื้นไม้ลามิเนตทุกรายจะถูกกำหนดให้ต้องทำตามมาตรฐานนี้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้า  ลูกค้าจะต้องตรวจสอบ AC rating ก่อนจะซื้อพื้นไม้ลามิเนตโดยต้องพิจารณาถึงระดับความทนทานที่ต้องการด้วย

พื้นไม้ลามิเนตมีคุณสมบัติอย่างไร?

1. พื้นไม้ลามิเนต ทนต่อรอยขีดข่วน หรือกระทั่งกรงเล็บของสัตว์เลี้ยงของท่าน
2. พื้นไม้ลามิเนต ทนต่อแรงตกหรือกดกระแทก
3. พื้นไม้ลามิเนต ทนความร้อนของก้นบุหรี่ และคราบของนิโคตินสามารถเช็ดออกได้โดยง่าย
4. พื้นไม้ลามิเนต ไม่เป็นคราบ สามารถเช็ดออกได้ง่าย
5. พื้นไม้ลามิเนต สีและลายไม่ซีดจาง แม้จากการตากแดดโดยตรงก็ตาม
6. พื้นไม้ลามิเนต ดูแลรักษาความสะอาดง่าย และทนต่อน้ำยาทำความสะอาดต่างๆที่ใช้ภายใน บ้าน ไม่สามารถทำให้ผิวหน้าเป็นรอยได้
7. พื้นไม้ลามิเนต ปลอดภัยเนื่องจากพื้นลามิเนตไม่มีขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้สาร Dioxins จึงปลอดภัยต่อ สุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยพื้นผิวที่สะอาดถูกสุขอนามัยไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
8. พื้นไม้ลามิเนต แข็งแรงมาก แม้การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ทำให้เกิดรอย (สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำเมื่อวางของหนักๆบนพื้นก็คือใช้สักหลาดรองส่วนที่ สัมผัสกับพื้นเท่านั้นเอง)
9. พื้นไม้ลามิเนต ติดตั้งได้ง่ายและเร็ว สามารถติดตั้งทับบนพื้นเดิมได้เลย

ข้อควรทำและควรเลี่ยงสำหรับพื้นไม้ลามิเนต

บอกได้ว่าพื้นไม้ลามิเนตนั้นไม่ต้องการการดูแลมาก แต่ก็มีบางสิ่งที่ควรจะนึกถึงไว้ก่อนที่จะเลือกซื้อ และควรนึกถึงเมื่อคุณได้ติดตั้งไปแล้ว ซึ่งประเด็นที่ควรพิจารณาก็มีดังนี้

ข้อควรทำ 

- คิดถึงสถานที่ที่คุณจะปูพื้น ตัดสินได้จากการเดินผ่านไปมาว่ามากน้อยขนาดไหนและระดับความชื้น เพื่อที่คุณจะสามารถตัดสินใจได้ว่าพื้นแบบไหนเหมาะที่สุด อย่าลืมเช็ค AC rating ด้วย

- เลือกแผ่นรองที่สามารถป้องกันความชื้นที่มาจากใต้พื้นได้

- อ่านคู่มือการติดตั้งอย่างละเอียด

- จ้างช่างมาถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะทำได้

- ต้องมั่นใจว่าชั้นใต้พื้นได้ระดับ สะอาดและแห้ง

- เมื่อคุณปูพื้นไม้ลามิเนต คุณควรจะเว้นระยะห่างจากเส้นรอบวงของบริเวณที่คุณจะปูสัก 10 มม. ซึ่งรวมไปถึงการเว้นระยะห่างนี้ให้กับเครื่องเรือนหรือวัสดุที่เคลื่อนย้าย ไม่ได้ด้วย คุณควรเว้นไว้เพราะต้องเผื่อการขยายตัวด้วย เมื่อใช้ไปพื้นไม้ลามิเนตจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบ้าง

- เมื่อปูพี้นไม้ลามิเนตไปแล้ว ถ้าเกิดมีอะไรหกลงพื้นก็ควรทำความสะอาดอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน

- ใช้ไม้ม๊อบหมาดๆหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด

- ช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วน

- ถ้าทำได้ก็ให้ยกเฟอร์นิเจอร์หนักๆอย่าลากไปตามพื้น

- นอกจากแผ่นรองขาแล้ว ให้ใช้ชิ้นผ้ารองเฟอร์นิเจอร์หนักๆใหญ่ๆก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมันบนพื้นลามิ เนตของคุณ ถ้ามันหนักมากก็อย่าลืมหาผู้ช่วยมาด้วย

- ถ้าห้องของคุณถูกแสงแดดโดยตรงก็ควรปิดผ้าม่านหรือที่บังแดดเพื่อลดโอกาสการเกิดสีซีดจาง

หลีกเลี่ยง :

- การปูพื้นไม้ลามิเนตบนพื้นพรม

- ปูพื้นไม้ลามิเนตบริเวณที่ความชื้นสูง

- ปูทั้งๆที่แถวแรกมันเบี้ยว แถวแรกมีความสำคัญต่อการปูพื้นที่เหลือทั้งหมดมาก

- ใช้แว๊กซ์ น้ำยาขัดเงา หรือน้ำยาขัดพื้นทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต เพราะมันจะก่อความเสียหายได้

- การเคลือบเงาหรือขัดพี้นไม้ลามิเนต

- ใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่ หรือน้ำยาขัดเงาต่างๆบนพื้นไม้ลามิเนต

- เดินบนพื้นไม้ลามิเนตขณะสวมรองเท้าส้นแหลม หรือรองเท้ากีฬาที่ปุ่มมีโลหะหรือเดือย

ราดน้ำลงบนพื้นเพื่อทำความสะอาด นั่นอาจทำให้พื้นไม้ลามิเนตของคุณกลายเป็นลอนๆได้

 

ขอบคุณเเหล่งที่มาเเละภาพประกอบ

http://www.wellfloor.com/laminatefloors.html

http://www.iyaraflooring.co.th

 http://www.kswood.com

 

 

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
หน้าต่างในงานสถาปัตยกรรม (Window type in architecture)

ไอเดียมาใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ