วัสดุเเนะนำ : พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring) กับคุณสมบัติที่น่ารู้ก่อนจะนำเอาไปใช้งาน
มาพบกันอีกแล้ว กับ WAZZADU Material Review พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring) วัสดุที่เรียกว่าไม้จริงเป็นไม้มาจากธรรมชาติ พร้อมทั้งทำผิวหน้าทางวิทยาศาสตร์ให้มีความคงทนสูง ขัดและทำสีไม้ให้สวยงามก่อนทำการติดตั้ง ไม่จำเป็นต้องขัดและทำสี จึงมีคุณสมบัติเหมือนไม้แผ่นเข้าลิ้นที่ทำสีเสร็จ การติดตั้งรวดเร็วกว่า สวยกว่า คงทนกว่า ให้ความรู้สึกในการสัมผัสที่ดี การติดตั้งง่าย มีให้เลือกหลากหลาย แต่เช่นเดียวกันยังไม่เป็นที่นิยมในเมืองไทยอีกทั้งผู้ผลิตได้พัฒนาไม้ชนิดต่างๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานและมีราคาที่หลากหลายให้เลือกใช้ ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบันมีไม้สำเร็จชนิดต่างๆให้เลือก
บรรยาาศการตกเเต่งโซนตอนรับ ที่ปูด้วยวัสดุปูพื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
บรรยาาศการตกเเต่งพื้นที่พักผ่อน ที่ตกเเต่งวัสดุพื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring) เป็นไม้จริงทั้งชิ้น เคลือบผิวสำเร็จด้วย UV acrylic lacquer พื้นไม้จริงนี้หนาประมาณ18mm .หน้ากว้างประมาณ 90 mm.ความยาว random ซึ่งเป็นขนาดของไม้จริงที่มีความเสี่ยงในการห่อตัวหรือบิดตัวของไม้น้อยกว่าไม้จริงที่มีขนาดหน้ากว้างมากๆเพราะไม้ชนิดนี้เป็นไม้จริงทั้งชิ้นไม่มีการวางโครงสร้างของไม้เหมือนพวก engineered floor ฉะนั้นไม้จริงชนิดทำสีสำเร็จประเภทนี้จึงถูกผลิตออกมาเพียงไม่กี่ชนิดของต้นไม้เช่นไม้สักหรือไม้โอ๊ค เพราะการควบคุมความชื้น หรือ อุณหภูมิ ภายนอกนั้นทำได้ยากไม้นอกชนิดอื่นที่ไม่ได้อยู่แถบเอเชียจึงมักเกิดปัญหาการขยายตัวหรือบิดตัวของไม้ได้มากกว่า (มิได้หมายความว่าไม้นอกด้อยคุณภาพ) แต่ขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นภายนอก ถ้าลูกค้าต้องการใช้ไม้จริงที่มีชนิดไม้ให้เลือกมากกว่าควรเลือกไม้ engineered floor และการติดตั้งไม้ solid wood flooring นี้ต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งเท่านั้นเพราะไม้ชนิดนี้มีราคาข้อนค่างสูงมาก
การใช้งานเเละคุณสมบัติของ พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
การปูพื้นบ้านนอกจากการใช้กระเบื้องเป็นตัวแทนของงานสร้างสรรค์บ้านที่ได้รับความนิยมแล้ว การปูพื้นบ้านด้วยไม้ยังเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่จะช่วยเติมแต่งให้บ้านดูน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่ทำให้บ้านดูคลาสสิค ตกแต่งในสไตล์วินเทจหรือบ้านแบบร่วมสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเสน่ห์ของพื้นไม้คือให้ความสบายตา ช่วยเสริมลวดลายที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการปูกระเบื้อง แต่ทว่าการปูพื้นไม้ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้อย่างหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น ปูพื้นพื้นห้องนอน,ปูพื้นห้องรับเเขก,ปูพื้นห้องนั่งเล่น
ไม้จริงหรือที่เราเรียกกันว่า Solid wood เป็นไม้ที่เกิดจากการกลึงเอาไม้ธรรมชาติมาผ่านกระบวนการให้กลายเป็นชิ้นงานเอาไว้สำหรับปูพื้นบ้าน บรรยากาศที่จะได้รับจากงานไม้เหล่านี้คือความอบอุ่น สัมผัสได้ถึงความสบายตา เงียบสงบและดูมีมนต์ขลัง ลวดลายที่เกิดขึ้นเป็นไปตามธรรมชาติที่ไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ ส่วนใหญ่ชนิดของเนื้อไม้ที่เลือกใช้ปูพื้นจะต้องมีความแข็งแรง เป็นชนิดไม้เนื้อแข็งเพื่อป้องกันการแตกร้าวเมื่อต้องรับน้ำหนักมาก อาทิเช่น ไม้มะค่า ไม้ประดู่ และอีกชนิดหนึ่งที่หาได้ยากมากในปัจจุบันอย่างไม้สัก แต่ข้อเสียของการนำเอาไม้จริงมาใช้ปูพื้นคือมันมีราคาแพง ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านที่จำกัดงบประมาณ เนื่องจากไม้เริ่มหาได้ยาก อีกทั้งการดูแลยุ่งยากกว่ากระเบื้องปูพื้น โดยเฉพาะความชื้น ปลวก และการกัดแทะของแมลงอื่นๆ ตามธรรมชาติ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย
ข้อดีของพื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
ข้อดีของไม้ชนิดนี้คือ การติดตั้งรวดเร็ว ไม่ต้องรอขัดทำสี เพราะไม้ผลิตให้มีผิวเคลือบพร้อมใช้เลย ซึ่งการขัดพื้นทำให้เกิดฝุ่นไม้มาก และต้องใช้ระยะเวลาในการทำทั้งการขัด และการทาเคลือบ เมื่อใช้นานหลายปีแล้วต้องการขัดทำสีก็สามารถขัดทำสีได้หลายเที่ยว เพราะเนื้อไม้จริงมีมากกว่าไม้ engineered flooring
ข้อเสียของพื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
ส่วนข้อควรระวังของพื้นไม้จะต้องระวังเรื่องความชื้น ถ้าเปียกต้องรีบเช็ดและระวังรอยขีดข่วนอาจเกิดขึ้นง่าย นอกจากนี้อาจมีปัญหาเรื่องการยืดหดตัวด้วย ปัจจุบันการปูพื้นจะปูทับลงไปบนพื้นคอนกรีตเลย ทำให้ไม่มีเสียงดังเวลาเดิน
คุณสมบัติที่น่าสนใจของพื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงามมากที่สุดในอุตสาหกรรมตกแต่งพื้น ไม้พื้นชนิดนี้ทำจากไม้จริงทั้งหมดจึงให้ความงดงามตามธรรมชาติ และ เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงาม ซึ่งบริษัท ดับเบิลฟลอร์เป็นผู้ผลิต และนำเข้าไม้พื้นชนิดต่างๆตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ไม้ท้องถิ่น เช่น ไม้สัก, ไม้มะค่า, ไม้ประดู่ หรือ ไม้แดง เป็นต้น รวมถึง และพันธุ์ไม้ต่างๆ จากทั่วโลก เช่น แอช, โอ๊ค, เมอบาว, เมเปิ้ล, วอลล์นัท และ เชอรี่ เป็นต้น ไม้ปาร์เก้ของเรามีทั้งแบบทำสีสำเร็จจากโรงงาน และทำสีหน้างาน ปาร์เก้มีหลายขนาดและโครงสร้าง ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปจนบางครั้งถึงกับทำให้แทบจะไม่อยากเชื่อถึงความหลากหลายดังกล่าว ในปัจจุบัน ปาร์เก้สามารถเข้าได้กับทุกๆ ห้องในบ้านของท่าน การเลือกชนิดและแฟชั่นต่างๆ ของปาร์เก้ให้ตรงกับห้องและความต้องการของท่านไม่ใช่เรื่องยาก หากท่านคุ้นเคยกับชนิดและคุณสมบัติของปาร์เก้ชนิดต่างๆ ที่มีอยู่ โดยที่ตัวแทนของดับเบิลฟลอร์ยินดีรับใช้และให้คำปรึกษาแก่ท่านอย่างเต็มที่ครับ
ขั้นตอนการติดตั้งของพื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
การติดตั้ง พื้นไม้สำเร็จสามารถทำได้หลายวิธี สิ่งที่สำคัญการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มงานมีดังนี้
อุปกรณ์
1. ไม้กวาดและอุปกรณ์ทำความสะอาด
2. ค้อนหุ้มยาง
3. ดินสอ
4. กาวกันความร้อน กันชื้น
5. เทปกันฝุ่น
6. ตัวขั้นหนา 14 มิล
7. พื้นยาง
8. ไม้กด Timber Square
9. ตัวงัดลิ้น 2 แฉก
10 โต๊ะผ่าไม้แบบเคลื่อนที่
11. เลื่อยฉลุไม้หรือลูกหมู
12. เครื่องตัดไม้แบบมือจับ
การเตรียมงานและวางแผนก่อนปูไม้พื้น
1. ควรใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดพื้นผิวก่อนติดตั้ง (เศษขยะอาจก่อให้เกิดความชื้นได้)
คิดว่าควรจะติดตั้งจากด้านไหน วิธีการดูให้ดูจากด้านที่เป็นด้านยาวที่สุดของห้องและเรียบไม่มีการเล่นระดับ ตัวอย่าง ถ้าห้องขนาด 5x4 ให้เริ่มจากด้านที่เป็นด้าน 5 ก่อน
2. เนื่องจาก พื้นไม้สำเร็จ เป็นไม้จริงเพราะฉะนั้นเราต้องมีการเผื่อพื้นที่ในการขยายตัวของไม้โดยการเว้นช่องว่างระหว่างกำแพงกับ พื้นไม้สำเร็จ ดังต่อไปนี้
- ด้านข้างของไม้ควรเว้นประมาณ 17 ซม.
- ด้านหัวไม้ควรเว้นประมาณ 12 ซม.
3. อาจจะต้องมีการตัดพื้นที่ใต้บัวเพื่อให้ พื้นไม้สำเร็จ มีการขยายตัวได้อย่างเต็มที่โดย ใช้เลื่อยฉลุ เพื่อให้ได้ระดับพอดีของไม้
การดูเเลรักษาของพื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring) ยังไงก็ตามพื้นไม้ก็ยังเป็นไม้ชนิดหนึ่ง ที่อาจจะมีอาการลอกเป็นรอยเมื่อผ่านการใช้งานมาโดยอาจจะขึ้นอยู่กับวิธีการดำเนินชีวิตของผู้ใช้หรือจำนวนผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน แต่ถ้าคุณมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอหรือได้ใช้วิธีการรักษาอย่างถูกวิธีคุณก็สามารถยืดอายุการใช้งานของพื้นไม้ พื้นไม้สำเร็จได้ดียิ่งขึ้น เพราะเรามีคำแนะนำในการดูแลรักษาซึ่งไม้ยุ่งยากซับซ้อนเพื่อยืดอายุการใช้งานของไม้พื้น
วิธีการดูแลรักษาพื้นไม้ มีดังต่อไปนี้
1. การใช้เครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาดไม้พื้นอาจจะทำให้เกิดรอยขีดขวดต่อพื้นผิวได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาดอาจจะต้องระวังล้อของเครื่องดูดฝุ่น
2. เมื่อน้ำหกใส่ควรรีบเช็ดให้แห้งทันทีโดยใช้ผ้าแห้งและนิ่ม
3. ไม่ควรใช้ไม้ถูพื้นที่เปียกชุ่มหรือลาดน้ำลงไปโดยตรงในการทำความสะอาดไม้พื้นเพราะการใช้ไม้ถูพื้นที่เปียกชุ่มจะทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นไม้ได้
4. ควรใช้เครื่องจักรเช็ดพื้นหรือเครื่องอบไอน้ำในการทำความสะอาด
*ที่สำคัญ ไม่ควรใช้น้ำยาในการทำความสะอาดที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้ ส่วนผสมที่มีกรดส้มหรือมะนาว, ด่าง, ซิลิโคลน หรือแอมโมเนีย การใช้น้ำยาเช็คพื้นเหล่านี้อาจจะมีผลระยะยาวต่ออายุการใช้งานไม้พื้น และอาจจะมีผลกระทบต่อการรับประกันสินค้าได้
5. ไม่ควรใช้น้ำยาขัดพื้นที่มีส่วนผสมของ Acrylics หรือ Urethane ในการขัดพื้น การใช้น้ำยาเหล่านี้ขัดพื้นอาจจะทำเกิดผลเสียที่ไม่น่าพึงพอใจต่อพื้นไม้ของท่านได้
6. ถ้าลูกค้าเลี้ยงสัตว์ เล็บของสัตว์อาจจะทำให้เกิดรอยขีดขวดได้ ควรทำความสะอาดและดูแลสัตว์ของท่าน
7. ควรใช้ที่หุ้มกันกระแทกใต้ขาโต๊ะและเก้าอี้หรือตู้เฟอร์นิเจอร์ เพื่อลดการเกิดรอยต่างๆ
8. ถ้าหากมีการย้ายอุปกรณ์ต่างๆ เช่นตู้เฟอร์นิเจอร์, ตู้เย็น หรือของที่มีขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถย้ายได้คุณควรใช้แผ่นยางรองไว้ด้านล่างไม้อัดเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
ราคารเฉลี่ยของ พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring)
พื้นไม้สำเร็จ (Solid Wood Flooring) ตามท้องตลาดปัจจุบันแล้ว มีสินค้าราคาเกรดสูง-ตำ่ ราคารเฉลี่ยของ พื้นไม้สำเร็จ อยู่ที่ ราคา ประมาณ 3,000-4,000 บาท แล้วแต่เกรด
(ยังไม่รวมค่าติดตั้งตงไม้และขัดทำสี อีกประมาณ ตรม.ละ 1,000-1,500 บาท)
แหล่งร้านค้า/เเบรนด์/ตัวเเทนจำหน่ายสินค้า
มีเเหล่งร้านค้าชั้นนำทั่วไป : HomePro,SCG,SHERA,Conwood,ไทยวัสดุ,บุญถาวร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @wazzadu.com
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก
http://www.hopibreton.com
http://fibersmartboardscg.blogspot.com
#WAZZADU #WazzaduMaterialEncyclopedia #CollectionMaterialIdea #WoodFlooring #SolidWoodFlooring#พื้นไม้
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม
