Carbon Capture Utilization (CCU) เทคโนโลยีที่เปลี่ยนคาร์บอน ให้กลายเป็นวัสดุแห่งอนาคตของวงการก่อสร้างและออกแบบอาคาร
เมื่อพูดถึงแนวทางลดโลกร้อน หลายคนอาจคุ้นเคยกับแนวคิด Net Zero หรือการลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือศูนย์สุทธิใช่ไหมครับ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองอย่างมากในช่วงหลังคือ CCU หรือชื่อเต็มว่า Carbon Capture Utilization การดักจับคาร์บอนแล้วนำกลับมาใช้ใหม่
CCU ไม่ใช่แค่กำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ตามชั้นบรรยากาศ แต่สามารถเปลี่ยนคาร์บอนให้เป็นทรัพยากรที่มีมูลค่าได้มากกว่าเดิม! มาดูกันว่าเทคโนโลยีนี้น่าสนใจยังไงครับ
Carbon Capture Utilization หรือ CCU คืออะไร?
ขอเรียกสั้นๆ ว่า CCU นะครับ CCU เป็นเทคโนโลยีที่ดักจับคาร์บอนจากแหล่งกำเนิด อย่างตามโรงงานอุตสาหกรรมที่จะนำคาร์บอนจากที่โรงงานปล่อยออกมานั้นไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เชื้อเพลิงสังเคราะห์ พลาสติก หรือแม้แต่วัสดุก่อสร้าง ทำให้วงจรของคาร์บอนถูกนำกลับมาใช้อย่างมีประโยชน์ เป็นการใช้ประโยชน์จากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักจับได้ และ CCU มีวิธีการอยู่ 3 วิธีหลัก คือ
1. การนำไปใช้ประโยชน์โดยตรง เช่น ใช้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน, อุตสาหกรรมเครื่องดื่มน้ำอัดลม โซดา, อุตสาหกรรมอาหาร เป็นตัวทำละลาย เป็นต้น
2. การนำไปใช้ประโยชน์ด้วยการแปลงเป็นเชื้อเพลิง เช่น ก๊าซมีเทน (Methane) หรือไดเมทิลอีเทอร์ (DME)
3. การนำไปใช้ประโยชน์ด้วยการแปลงเป็นสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น การแปลงไปเป็นเมทานอล ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีการนำเข้าอันดับต้นๆ ของประเทศไทย หรือการแปลงสภาพจากขยะไปเป็นวัสดุที่มีโครงสร้างทางคาร์บอน อย่างเช่น กราฟีน
Cr.https://ecocart.io/how-does-carbon-capture-help-fight-climate-change/
และ CCU ถือเป็นเทคโนโลยีประเภท Climate Tech ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ควบคุมหรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน ยิ่งในแวดวงของการออกแบบงานสถาปัตยกรรมและอาคารที่ต้องปรับตัวตามไปด้วยความจำเป็นด้านกฏหมาย การที่มีนวัตกรรม Climate Tech สามารถนำไปประยุกต์เพื่อช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้ทั่วโลก โดยมุ่งมั่นสู่การออกแบบในอนาคตถึงความเป็น Net Zero
ปัจจุบันมีการนำคาร์บอนจากกระบวนการ CCU มาสังเคราะห์เป็นวัสดุประเภทกราฟีน (Graphene) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ ทั้งความแข็งแกร่ง น้ำหนักเบา และนำความร้อนต่ำ โดยเฉพาะนวัตกรรมนึงที่น่าสนใจ เมื่อได้เอากรีนบริสุทธิ์มาใช้เป็นส่วนผสมในคอนกรีต เกิดเป็นนวัตกรรมที่เรียกว่า “Hiper Concrete” คอนกรีตดีไซน์โซลูชั่น สำหรับสถาปัตยกรรมคาร์บอนต่ำ
Hiper Concrete คอนกรีตที่พัฒนาจากเทคโนโลยี CCU
ล่าสุด ภายในงาน “Wazzadu World 2025” ฟอรัมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คาร์บอนต่ำเพื่อการขับเคลื่อนสุขภาวะที่ดี ประจำปี 2025 ที่ดำเนินการจัดขึ้นโดย Wazzadu.com และ InnovatorX ภายใต้แนวคิด Low Carbon Real Estate For Wellness Life จะมีการเปิดตัวถึงนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจนี้ครับ
Hiper Concrete คือ นวัตกรรมโซลูชั่นที่เป็นวัสดุคอนกรีตคาร์บอนต่ำที่เพิ่มประสิทธิภาพสูงในงานก่อสร้างด้วย Super Green Graphene ที่เป็นกราฟีนบริสุทธิ์ ซึ่งมาจากเทคโนโลยี CCU และนี่คือนวัตกรรมที่ช่วยด้านประสิทธิภาพที่มีจุดเด่นเรื่อง...
1. เพิ่มอัตราการเซ็ทตัวที่รวดเร็ว
2. เพิ่มความแข็งแรงทนทานอันน่าอัศจรรย์ให้กับอาคาร
3. เพิ่มความแข็งแกร่งแต่เบามาก
4. เพิ่มประสิทธิภาพระบายความร้อนได้ดี
วัสดุนี้จึงเหมาะสำหรับโครงการที่ต้องการออกแบบภายใต้แนวคิด Low Carbon & Wellness Life หากใครสนใจนวัตกรรมวัสดุนี้ที่เปลี่ยนคาร์บอนให้กลายเป็นวัสดุที่ High Performance แบบนี้ สามารถมาเยี่ยมชมบูธของ Hiper Concrete ได้ที่งาน Wazzadu World 2025 ในเร็วๆ นี้ครับ
สนใจรายละเอียด คลิกอ่านเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1174395164718983&set=a.455872533237920
ผู้เขียนบทความ
ด้วยการเกณฑ์การประเมินคาร์บอนฯ ที่แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. Low Carbon CFO (Carbon Footprint for Organization) : การประเมิน carbon footprint ขององค์กร
2. Low Carbon CFP (Carbon Footprint of Product) : การประเมิน carbon footprint ของผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตและผู้พัฒนาวัสดุที่มีความมุ่งมั่นในการลดคาร์บอนจากวัสดุที่จำหน่าย มุ่งสู่เส้นทาง Low Carbon material ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทางโครงการมีการแบ่งเฟสที่บอกระดับว่าแต่ละองค์กรอยู่ที่จุดไหนแล้วบ้าง ได้แก่
Phase 1 : Committed เข้าร่วมโครงการ Wazzadu Low Carbon Material Library สู่เส้นทาง Low Carbon
Phase 2 : On-Track ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Phase 3 : Achieved สามารถปล่อยคาร์บอนฯ ต่ำได้แล้วเมื่อเทียบจากครั้งก่อนๆ
หวังว่าห้องสมุดที่รวมวัสดุคาร์บอนฯ ต่ำนี้จะช่วยให้ทุกท่านได้พบกับวัสดุที่สามารถใช้ออกแบบให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมคาร์บอนต่ำได้จริง ... อ่านเพิ่มเติม
