7 วิธีประหยัดเงินในค่าไฟฟ้าภายในบ้าน
7 วิธีประหยัดเงินในค่าไฟฟ้าภายในบ้าน
7 วิธีประหยัดเงินในค่าไฟฟ้าภายในบ้าน การประหยัดค่าไฟฟ้าภายในบ้านเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน นี่คือวิธีง่ายๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าในบ้าน ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้ อย่าลืมปิดไฟทีวี คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้ ปิดหลอดไฟในห้องที่ไม่มีคนอยู่เพื่อประหยัดพลังงานและค่าไฟฟ้า เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED ใช้ตัวควบคุมการใช้พลังงาน ตั้งเวลาเครื่องซักผ้าหรือเครื่องอุ่นน้ำให้ทำงานในช่วงเวลาที่ต้องการ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในช่วงฤดูร้อนเพื่อประหยัดพลังงาน และปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ได้ใช้งานห้อง ช่วงเวลากลางวันใช้แสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ใช้พลังงานทดแทน หันมาศึกษาการใช้พลังงานทดแทนเช่น ระบบโซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าทดแทนพลังงานไฟฟ้า โคมโซล่าเซลล์ติดตั้งหน้าบ้านก็ได้ หรือจะเป็นโซล่ารูฟท็อปก็จะได้ระยะเวลาที่ยาวนานและผลิตไฟฟ้าเพียงพอต่อบ้านเรือนที่ติดตั้งแนะนำวิธีคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้น
ค่าไฟฟ้าเป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเป็นรายเดือนและการคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย โดยใช้สูตรต่อไปนี้ หากคุณทราบว่าอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณใช้กำลังไฟฟ้าเท่าใด (หน่วยเป็นวัตต์) และระยะเวลาที่ใช้งาน (หน่วยเป็นชั่วโมง) คุณสามารถคำนวณหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ได้โดยใช้สูตรดังนี้ พลังงานไฟฟ้า (หน่วยเป็นจูล) = กำลังไฟฟ้า (หน่วยเป็นวัตต์) x เวลา (หน่วยเป็นชั่วโมง) เมื่อคุณได้ค่าพลังงานไฟฟ้า (หน่วยเป็นจูล) คุณสามารถแปลงเป็นหน่วยไฟฟ้าที่บริษัทไฟฟ้าเรียกว่า "หน่วยไฟฟ้า" ได้โดยใช้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าต่อหน่วย (หรืออัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย) ที่บริษัทไฟฟ้ากำหนดให้ อัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะแตกต่างกันไปตามบริษัทไฟฟ้าและช่วงเวลา โดยปกติจะอยู่ในหน่วยเงินต่อหน่วย (บาท/หน่วย)เปิดสูตรคำนวณไฟฟ้า 2566 วิธีคิดค่าไฟเครื่องใช้ไฟฟ้า
หน่วยไฟฟ้า = กำลังไฟวัตต์ หาร 1,000 คูณ ชั่วโมงการใช้งาน (1 kwh = 1 หน่วย) ค่าไฟฟ้าอัตราตามช่วงเวลาการใช้ (TOU)- สำหรับแรงดัน 12-24 กิโลโวลต์ หากใช้ไฟฟ้าช่วง On Peak จะมีราคาหน่วยละ 5.1135 บาท ส่วนในช่วง Off Peak ราคาหน่วยละ 2.6037 บาท
- สำหรับแรงดันต่ำกว่า 12 กิโลโวลต์ หากใช้ไฟฟ้าช่วง On Peak จะมีราคาหน่วยละ 5.7982 บาท ส่วนในช่วง Off Peak ราคาหน่วยละ 2.6369 บาท
วิธีคำนวณค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัย
ยกตัวอย่างวิธีการคิดค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัย หากใช้ไฟฟ้า 100 หน่วย สามารถคำนวณ และคิดค่าไฟโดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คิดค่าไฟฟ้าฐาน- หน่วยที่ 1-15 หน่วยละ 2.3488 บาท แปลว่าขั้นนี้มีค่าไฟอยู่ที่ 15 x 2.3488 = 35.23 บาท
- หน่วยที่ 16-25 หน่วยละ 2.9882 บาท แปลว่าขั้นนี้มีค่าไฟอยู่ที่ 10 x 2.9882 = 29.88 บาท
- หน่วยที่ 26-35 หน่วยละ 3.2405 บาท แปลว่าขั้นนี้มีค่าไฟอยู่ที่ 10 x 3.2405 = 32.41 บาท
- หน่วยที่ 36-100 หน่วยละ 3.6237 บาท แปลว่าขั้นนี้มีค่าไฟอยู่ที่ 65 x 3.6237 = 235.54 บาท
คิดค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ค่าไฟฟ้า
ค่าภาษี 7% คิดคำนวณจาก [ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่า Ft] x [7/100] = 23.08 จากนั้นนำค่าในส่วนที่2 มาบวกกับค่าภาษี ก็จะได้ค่าไฟฟ้าที่เราต้องจ่ายจริง คือ 329.65 + 23.08 = 352.73 บาท (*หมายเหตุ: จำนวนนี้ยังไม่รวมส่วนลด 3% จากนโยบายรัฐบาล เป็นราคาประมาณการเท่านั้น) หรือถ้าอยากให้ง่ายกว่านี้ ก็สามารถเข้าไปใช้ระบบคำนวณค่าไฟฟ้าแบบออนไลน์ได้ที่ การคิดค่าไฟฟ้าประเภทต่างๆ การไฟฟ้านครหลวง และ ระบบประมาณการค่าไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยการคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้นดังนี้ คุณสามารถประเมินและวางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เหมาะสมกับงบประมาณของคุณและช่วยลดค่าใช้จ่ายในค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำนวณค่าไฟฟ้าเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นและค่าที่เห็นอาจแตกต่างไปตามประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน และอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่กำหนดโดยบริษัทไฟฟ้าในพื้นที่ของคุณ คุณควรตรวจสอบในรายการบิลไฟฟ้าจริงเพื่อความแม่นยำที่มากยิ่งขึ้น7 วิธีประหยัดเงินในค่าไฟฟ้าของคุณ
ค่าไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตประจำวัน แต่คุณสามารถปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของคุณเพื่อลดรายจ่ายในค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่าง เราจะแนะนำวิธีประหยัดเงินในค่าไฟฟ้าของคุณด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของคุณได้ทันที เพื่อให้คุณสามารถหยุดเพิ่มรายจ่ายที่มากับค่าไฟฟ้าต่อเดือน หากคุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้าอย่างจริงจังเรามีวิธีแค่ 7 วิธีง่ายๆที่ใครๆก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองเป็นการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันเล็กน้อยก็ทำให้ค่าไฟของคุณลดลงได้จริงๆ หรือจะติดตั้ง โซล่าเซลล์ เพื่อทดแทนพลังงานไฟฟ้าดั้งเดิม1.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน
เป็นสิ่งที่เรามักจะลืมบ่อยครั้ง คือการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ เช่น ทีวีหรือคอมพิวเตอร์ หากไม่ได้ใช้งาน คุณควรปิดหลอดไฟในห้องที่ไม่มีคนอยู่ เพราะการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานจะช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้ง่ายๆ2.เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED
การเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านของคุณเป็นหลอดไฟ LED จะช่วยลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้าในระยะยาว หลอดไฟ LED ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟแบบธรรมดาและยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าด้วย3.ใช้ตัวควบคุมการใช้พลังงาน
การใช้ตัวควบคุมการใช้พลังงาน เช่น ตั้งเวลาเครื่องซักผ้าหรือเครื่องอุ่นน้ำอัตโนมัติ เพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานในช่วงเวลาที่ต้องการเท่านั้น และปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้าได้4.ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ
เมื่อใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงฤดูร้อน คุณสามารถปรับอุณหภูมิลงเพื่อประหยัดพลังงาน คุณสามารถปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ระดับสบายๆ เช่น 24-26 องศาเซลเซียส และปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ได้ใช้งานห้อง5.ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการจ่ายพลังงานมากเป็นระยะเวลาสั้น
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้พลังงานมากในเวลาที่จำเป็นเพื่อลดระยะเวลาการใช้งาน หากใช้มากก็ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นได้ถ้าใช้อย่างถูกต้องถูกวิธีก็จะประหยัดทั้งค่าไฟฟ้าและเวลายกตัวอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าเบื้องต้น เช่น เตารีด หม้อหุงข้าว หรือไมโครเวฟ ควรใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อลดการใช้พลังงาน6.เปลี่ยนเป็นพลังงานโซล่าเซลล์
แผงโซล่าเซลล์เป็นทางเลือกที่ดีในการลดค่าไฟฟ้ารายเดือนในระยะยาว โดยการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณ โซล่าเซลล์ช่วยลดค่าไฟฟ้าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย7.ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบอัจฉริยะ
เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบอัจฉริยะมีความสามารถในการปรับตัวเองให้เป็นประหยัดพลังงาน เช่น เครื่องซักผ้าหรือเครื่องอบผ้าที่สามารถปรับโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับปริมาณผ้าที่ใส่เข้าไป หรือหลอดไฟอัจฉริยะที่สามารถปรับระดับความสว่างและใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เมื่อนำทริคเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน คุณจะสามารถปรับปรุงพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของคุณได้อย่างง่ายดาย ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นและประหยัดเงินในค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ดังนั้นไม่ต้องรอช้า ลองนำทริคเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันของคุณและเพลิดเพลินกับการประหยัดเงินในค่าไฟฟ้าได้เลยผู้เขียนบทความ