เลือกโคมไฟ เพื่อให้ได้แสงสว่าง ที่เหมาะสม
ทุกวันนี้
โคมไฟ LED แทบจะเป็นโคมไฟที่มาแทนที่
โคมไฟ สมัยก่อน เช่น พวกหลอดใส้ แต่ก็ยังเห็นอยู่บ้างประปราย แต่การที่จะเลือกแสงสว่างให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าเราคำนวณแสงผิดห้องของเราก็อาจจะสว่างเกินความจำเป็น หรืออาจจะมืดเกินไป เรื่องของการออกแบบแสงสำหรับงานตกแต่งภายในบ้านนั้น มี 2 ประเภทหลักๆ ที่เข้าใจง่ายๆ ก็คือแสงที่ให้ความสว่างที่เรียกกันว่าแสงเดย์ไลท์ ที่ให้แสงสีขาวเจิดจ้า กับแสงที่สร้างบรรยากาศที่เรียกกับว่าแสงวอร์มไวท์ ที่ให้แสงสีเหลืองนวล
อย่างไรก็ตาม ในการออกแบบแสง ยังมีรายละเอียดแยกประเภทตามการใช้งานที่ต้องการอีก เช่น แสงสว่างทั่วไป คือแสงที่ต้องการความสว่าง ความเคลียร์ชัด และให้แสงที่นุ่มนวลต่อสายตา ให้ความสว่างในระดับที่พอเหมาะพอดีกับการมองเห็นในเวลากลางคืน ซึ่งก็คือไฟที่ติดตั้ง ตามเพดานในห้องต่างๆ อย่าง
โคมไฟเพดาน led ตามบ้านพักอาศัยทั่วไป ในอดีตจะเป็นหลอดนีออนกลม หรือที่เรียกกันว่า โคมไฟซาลาเปา ต่อมาเริ่มนิยมโคมดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าเพดาน ซึ่งจะติดตั้งกระจายไปตาม จุดต่างๆ ตามฝ้าเพดาน ในระยะห่างที่เหมาะสมกับแสงที่กระจายเพื่อให้ความสว่างทั่วทั้งห้อง หรือพื้นที่ที่ต้องการ แต่ด้วยความที่เป็นโคมเปลือยที่มองเห็น
โคมไฟ LED ซึ่งในยุคก่อนหน้านี้เลือกใช้ หลอดตะเกียบหรือหลอดไฟแบบเกลียว ทำให้แสงจากหลอดไฟรบกวนสายตาโดยตรง เพราะไม่มีแผ่นกรองแสง จนมาเข้าสู่ยุดของ
หลอดไฟ LED ในปัจจุบัน ทำให้มีทางเลือกของ
โคมไฟเพดาน led มากขึ้น และแสงที่ได้ก็ไม่จ้าเกินจนรบกนสายตา
ด้วยแสงที่นุ่มนวลทำให้สบายตา ไม่ร้อนเพราะ
โคมไฟเพดาน LED ให้ลำแสงที่เย็น ทำให้มีส่วนช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยตรง หรือการลดอุณหภูมิภายในห้อง ทำให้ประหยัด พลังงานในส่วนของเครื่องปรับอากาศได้ด้วย เรื่องของแสง นอกจากแสงสว่างแบบทั่วไปแล้ว ยังมีแสงสว่างแบบเน้นเฉพาะจุด เช่น
โคมไฟแบบแขวน หรือไฟที่ใช้ส่องภาพหรือของประดับตกแต่งทั้งในบ้าน นอกบ้านให้ดูโดดเด่นสวยงาม สร้างบรรยากาศสุนทรีย์ให้กับห้อง ซึ่งแสงประเภทต่างๆ ก็จะเหมาะกับห้องที่แตกต่างกันไป
แสงช่วยสร้างบรรยากาศของห้องให้เข้ากับอารมณ์ความรู้สึกในช่วงเวลาต่างๆ ที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะต้องการพักผ่อนผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า หรือทำกิจกรรม สังสรรค์ปาร์ตี้สนุกสนาน หรือการทำงาน แสงมีส่วนช่วย และส่งผลต่ออารมณ์เสมอ หากเลือกใช้อย่างเหมาะสม ดังนั้นการเลือกแสงให้เหมาะด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้อง ยุ่งยากกับการเดินระบบสายไฟใหม่ ก็คือการเลือกแสงที่ ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเดย์ไลท์หรือวอร์มไวท์ ก็พิจารณา ดูว่าห้องนั้นคุณต้องการแสงแบบไหน หรือถ้าบ้านใคร ยังมีโคมไฟซาลาเปาที่แสนเชย จะเปลี่ยนมาใช้
โคมไฟเพดาน LED หรือ ดาวน์ไลท์ แบบติดลอย ซึ่งมีความบางเพียง 35 มิลลิเมตร นอกจากได้แสงในแบบที่ต้องการแล้ว ยังปรับโฉมบ้านให้ ทันสมัยขึ้นด้วย เพียงแค่นี้คุณก็เปลี่ยนลุดของบ้านได้ไม่ยาก และ เลือกแสงตามที่ชอบได้ อย่างที่คุณต้องการ