พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring กับพื้นไม้ Engineering Wood มีคุณสมบัติในการใช้งานที่ต่างกันอย่างไร…?

ในปัจจุบันผู้คนนิยมหันมาใช้วัสดุทดแทนไม้จริงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทาน การดูแลรักษาและติดตั้งง่าย นอกจากนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยลดการตัดไม้อีกด้วย

ปัจจุบันมีวัสดุทดแทนไม้จริงหลากหลายชนิด เช่น

  • ไม้ลามิเนต (Laminate floor) 
  • ไม้เอนจิเนียร์ (Engineered Wood)
  • ไม้เทียมจากไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber cement wood) 
  • ไม้เทียมจากพลาสติกผสมเส้นใยไม้ (Wood plastic composite)
  • กระเบื้องพิมพ์ลายไม้ (Wood tile)
  • กระเบื้องยางลายไม้ (Vinyl tile) 

และวันนี้จะมาแนะนำวัสดุทดแทนไม้จริงที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่ง ได้แก่ พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring โดยพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring กับพื้นไม้ Engineering Wood มีคุณสมบัติในการใช้งานที่ต่างกันอย่างไรบ้างนั้น ติดตามชมได้เลยครับ

พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring คืออะไร มีความแตกต่างกับพื้นไม้ Engineering Wood อย่างไร

พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring คือ

พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ผลิตมาจากไม้แท้ทั้งชิ้น ถูกนำมาบีบอัดขึ้นรูป และผ่านกระบวนการอบไม้ด้วยอุณหภูมิสูง เคลือบด้วยน้ำยาเคลือบไม้ เมื่อผ่านกระบวนการผลิตจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะแบ่งออกได้ 4 เลเยอร์ ได้แก่

  • ชั้นแกนหลัก
  • ชั้นแผ่นรองพื้น
  • ชั้นลวดลายไม้
  • ชั้นเคลือบผิว

โดยคุณสมบัติของพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ที่แตกต่างจากพื้นไม้ Engineering Wood คือ สามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าไม้ทีค ไม้เมเปิ้ล และไม้โอ๊ค สีของเนื้อไม้ไม่ซีดจาง แข็งแรง ทนทาน สวยงาม โดยผ่านการทดสอบด้วย Janka hardness test นอกจากนี้พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ยังมีราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย

พื้นไม้ Engineering Wood คือ

พื้นไม้ Engineering Wood ไม้แปรรูปที่ผลิตขึ้นโดยใช้วิธีการนำชั้นไม้วางขวางสลับเสี้ยน และใช้หน้าไม้จริงเฉพาะชั้นบนสุด (ชั้นผิวหน้า) โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เลเยอร์ ได้แก่

  • ชั้นแกนหลัก
  • ชั้นแผ่นรองพื้น
  • ชั้นลวดลายไม้

โดยพื้นไม้ Engineering Wood จะมีชื่อเรียกตามผิวหน้า เช่น ไม้เอ็นจิเนียร์มะค่า ไม้เอ็นจิเนียร์โอ๊ค เป็นต้น ซึ่งพื้นไม้ Engineering Wood มีราคาสูงกว่าพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring และพื้นไม้ลามิเนต

คุณสมบัติของพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring 

  • สวยงาม สัมผัสได้ถึงผิวไม้จริง
  • เนื้อไม้มีความหนาแน่นสูง รองรับน้ำหนักได้ดี
  • ปลวก และแมลงต่างๆไม่มารบกวน 
  • เคลือบผิวด้วยน้ำยาเคลือบไม้ ไม่จำเป็นต้องขัดสี
  • สีของเนื้อไม้ไม่ซีดจาง แม้มีรอยขีดข่วนบนพื้นผิวของแผ่นไม้
  • พื้นผิวของไม้ไม่ลื่น ไม่เย็นเท้า และไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต
  • รองรับความชื้นได้ดี หากมีการติดตั้งอย่างเหมาะสม
  • ดูแลรักษา และทำความสะอาดได้ง่าย

คุณสมบัติของพื้นไม้ Engineering Wood 

  • มีลายไม้จากธรรมชาติที่สวยงามให้เลือกหลากหลายและสัมผัสได้ถึงผิวไม้จริง
  • ชั้นบนสุดของพื้นไม้เคลือบผิวด้วย UV พร้อมใช้งาน จึงไม่ต้องขัดทำสี
  • ไม่ทำให้เกิดฝุ่นไม้ เพราะไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม
  • ใช้เวลาในการติดตั้งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับพื้นไม้จริง

เทคนิคการนำไปใช้งานและการติดตั้ง

พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring 

เหมาะกับการนำไปใช้ตกแต่งภายในอาคารเป็นหลัก อาทิเช่น

  • อาคารที่พักอาศัย เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม อะพาร์ตเมนต์ รีสอร์ท และโรงแรม เช่น พื้นห้องนอน พื้นห้องทำงาน พื้นห้องนั่งเล่น พื้นห้องรับแขก พื้นห้องครัว พื้นห้องรับประทานอาหาร
  • อาคารสาธารณะ พื้นที่ส่วนกลาง หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์

พื้นไม้ Engineering Wood 

เหมาะกับการตกแต่งภายในอาคาร และต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่ใกล้กับบริเวณที่มีความชื้นสะสม หรือพื้นที่ที่อาจโดนน้ำอยู่บ่อยๆ เช่น

  • ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องนอน และบริเวณทางเดินภายในอาคาร

 

การติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring และพื้นไม้ Engineering Wood 

สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ส่วน คือ ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ก่อนการปูพื้นไม้ และขั้นตอนการติดตั้ง ได้แก่

ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ก่อนการปูพื้นไม้

  • โดยการเตรียมการก่อนติดตั้งพื้นไม้เพียงแค่ทำการรองพื้นบริเวณที่ต้องการปูแผ่นพื้นไม้ด้วยแผ่น PE โฟมให้เต็มพื้นที่ เท่านั้น
  • และทำการปูแผ่นพื้นไม้เพื่อจัดโทนสีภายในห้องให้มีความสม่ำเสมอ

ขั้นตอนการติดตั้ง 

  • จากนั้นติดตั้งแผ่นแรกโดยหันด้านร่องลิ้นเข้าผนัง และกั้นด้วยลิ่มความหนาประมาณ 15 มิลลิเมตร เพื่อให้พื้นไม้มีพื้นที่ในการขยายตัว และติดตั้งแผ่นต่อไป 
  • ทากาวที่ร่อง และใช้ค้อนยางเคาะเพื่อให้พื้นไม้ติดแนบสนิท

อายุการใช้งานของพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring

  • มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 15-20 ปี (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการดูแลรักษา)

อายุการใช้งานของพื้นไม้ Engineering Wood 

  • มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการดูแลรักษา)

เปรียบเทียบขนาดของพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring

  • ขนาด กว้าง x ยาว x หนา : 130 x 1850 x 14 mm.
  • 1 กล่อง 8 แผ่น ปูได้ 1.92 ตร.ม.

เปรียบเทียบขนาดของพื้นไม้ Engineering Wood 

  • ขนาด กว้าง x ยาว x หนา : 125 x 910 x 15 mm.

รายละเอียดผลิตภัณฑ์พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring

  • BRETAGNE (เบรอตาญ) : พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring 14 mm.

    วัสดุปูพื้น พื้นไม้

    1,450 บาท/ตารางเมตร

    Online
  • NATURAL (เนเชอรัล) : พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring 14 mm.

    วัสดุปูพื้น พื้นไม้

    1,450 บาท/ตารางเมตร

    Online
  • TEAK (ทีค) : พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring 14 mm.

    วัสดุปูพื้น พื้นไม้

    1,450 บาท/ตารางเมตร

    Online

บทความที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring

ถ้าหากท่านใดที่สนใจพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring เพื่อนำไปใช้งาน

สามารถสอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ Duragres Tiles ​ได้ที่

Website : www.umipro.com  ,FB Page : Duragres Tiles

หรือ Line@ : @wazzadu.com

บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2516 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2532 ผลิตกระเบื้องจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “ดูราเกรส” ที่แปลว่า กระเบื้องที่แข็งแกร่งและทนทาน เป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ลายบนผิวหน้ากระเบื้องเซรามิค ด้วยระบบดิจิตอล หรือที่เรียกว่า Full Hi-Definition Printing Technology และในปี พศ. 2555 ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในวงการอีกครั้ง ด้วยการควบรวมกิจการบริษัท ที.ที. เซรามิค จำกัด ผู้ผลิตกระเบื้องพอร์ซเลนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “เซอเกรส”

UMI GROUP I ผู้นำด้านกระเบื้องเซรามิคภายใต้แบรนด์ DURAGRES และ CERGRES มาตรฐานระดับโลก I 02-246-0832 I info@umipro.com
DURAGRES I CERGRES แบรนด์ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิคและสินค้าเกี่ยวเนื่องได้รับมาตรฐานระดับสากล เป็นทางเลือกอันดับแรกของผู้บริโภค โดยมีการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะนำ “ระบบบริหารจัดการระดับสากลมาประยุกต์ใช้ในองค์กรและพัฒนาปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ...
...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ