เริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก ออกแบบได้ดั่งใจ ด้วยนวัตกรรมอาคารแบบ Modular system

เริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก ออกแบบได้ดั่งใจ ด้วยนวัตกรรมอาคารแบบ Modular system

      ในปัจจุบันระบบการก่อสร้างแบบ Modular system กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจจากธุรกิจก่อสร้างสมัยใหม่ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ เนื่องจากลักษณะของอาคารสำเร็จรูปที่มาเปลี่ยนรูปแบบของการก่อสร้างให้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่คิดจะลงทุนทำธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก ที่คำนึงถึงเรื่องระยะเวลาและงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ

ความรวดเร็วในการก่อสร้างที่เอื้อต่อการเปิดตัวธุรกิจ

      นวัตกรรมการก่อสร้างแบบ Modular system มาช่วยตอบโจทย์ในแง่ของธุรกิจสำหรับเจ้าของโครงการและผู้รับเหมาได้เป็นอย่างดี เพราะการลงทุนที่น่าสนใจและยังคงขับเคลื่อนได้ดีในยุค New Normal แบบนี้ ก็เห็นจะเป็นโครงการขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ในกลุ่มของธุรกิจ SME ได้แก่ ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ซึ่งเน้นการบริการ ดีไซน์ที่สวย และต้องรีบเปิดตัวให้ทันยุคทันสมัย ซึ่งอาคารแบบ Modular system สามารถสร้างเสร็จได้อย่างรวดเร็ว ด้วยกระบวนการก่อสร้างที่ทำทุกอย่างจบในโรงงาน และยกไปติดตั้งในทำเลที่ต้องการได้เลย จึงเข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสด้านธุรกิจและการลงทุนที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

ระบบที่สามารถควบคุมงบประมาณได้ดี

      แม้ระบบการก่อสร้างแบบ Modular System จะมีราคาที่สูงกว่ารูปแบบการก่อสร้างงานคอนกรีตทั่วไป แต่หากมองภาพรวมในแง่อื่น ๆ โดยเฉพาะในส่วนของงบประมาณในการก่อสร้าง จะพบว่างานคอนกรีตมีโอกาสที่จะเกิดการบานปลายของงบประมาณมากกว่า เพราะการก่อสร้างโครงสร้างคอนกรีตที่หน้างานมีโอกาสล่าช้า ต้องเผื่อวัสดุก่อสร้างมากกว่า ใช้แรงงานเยอะ และอาจมีเหตุที่ทำให้งานต้องล่าช้าจากสภาพภูมิอากาศที่ควบคุมไม่ได้ แตกต่างกับการเลือกใช้โครงสร้างเหล็กที่ก่อสร้างด้วย Modular System ที่ก่อสร้างได้สะดวกรวดเร็วกว่าจึงมีความประหยัดในภาพรวม คุ้มค่าต่อเจ้าของโครงการมากกว่า

มั่นใจได้ในมาตรฐานและการควบคุมคุณภาพ

      แม้จะสร้างไวกว่า แต่ Modular System มีมาตรฐานและคุณภาพในการก่อสร้างได้ดีไม่ต่างกับอาคารที่ก่อสร้างในระบบอื่น ๆ จึงสามารถสร้างอาคารได้อย่างหลากหลายแม้แต่ในอาคารที่มีหลายชั้น เช่น สำนักงาน อพาร์ทเม้นท์ โรงแรม หรือรีสอร์ท และรูปแบบการทำงานของ Modular System ยังเข้ามาช่วยแก้ปัญหาคุณภาพของแรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ด้วยการผลิตทุกขั้นตอนตั้งแต่งานโครงสร้าง สถาปัตย์ งานตกแต่งและงานระบบ ควบคุมคุณภาพในโรงงาน 100% มีการเลือกใช้โครงสร้างเหล็ก H-BEAM (เอชบีม) ที่ได้คุณภาพ และมีการก่อสร้างผนังให้ได้มาตรฐานค่ากันเสียง STC ระหว่างผนังห้อง สูงถึง 60  และค่ากันเสียง STC ระหว่างชั้น สูงถึง 70  โดยมีการตรวจสอบงานระบบทุกจุดก่อนนำไปติดตั้งจริง จึงสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จากการก่อสร้างหน้างานได้อย่างตรงจุด

เคลื่อนย้ายง่าย ปรับเปลี่ยนได้ ลงตัวทุกฟังก์ชัน

      จุดเด่นสำคัญของ Modular System คือความยืดหยุ่นของอาคารและการใช้งาน ที่สามารถจะโยกย้ายทั้งอาคาร (moveable) ไปติดตั้งบนทำเลใหม่ที่ดีกว่าในอนาคต เพราะสามารถขนย้ายได้ง่าย ติดตั้งสะดวก ไม่มีปัญหามลภาวะต่อพื้นที่ข้างเคียง เช่น sale office ในโครงการที่สามารถยกย้ายไปตั้งในโครงการสาขาอื่นได้เลยโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม รวมทั้งด้วยลักษณะของ mass อาคารที่เรียบง่าย ยังสามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ จึงง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันภายใน เช่น เคยใช้งานเป็นโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลในช่วงสถานการณ์โควิด ในอนาคตก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องพักของพนักงานได้ หรือปรับเปลี่ยนการตกแต่งภายในห้องเพื่อใช้งานอีกครั้ง เช่น การตกแต่งห้องตัวอย่างใหม่ เพื่อใช้งานในโครงการอื่น ๆ ที่มีรูปแบบของแปลนห้องเดียวกัน

ไม่ต้องชำนาญโครงสร้าง แค่มีไอเดียก็เริ่มต้นธุรกิจได้

      สำหรับการทำงานของดีไซเนอร์ หรือผู้สนใจทั่วไปที่อาจจะไม่ได้มีความชำนาญเรื่องโครงสร้างอย่างวิศวกร แต่สนใจที่จะเริ่มต้นก่อสร้างอาคารเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ๆ ก็สามารถทุ่นแรงได้ด้วยระบบ Modular System ที่เราสามารถเริ่มต้นออกแบบฟังก์ชันและการตกแต่งภายในของยูนิตได้จากโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ซับซ้อน ส่วนเรื่องของคุณภาพและรูปแบบโครงสร้างเราก็สามารถวางใจให้โรงงานดำเนินการได้เลย ดีไซเนอร์จึงสามารถออกไอเดียได้เต็มที่ เพื่อดีไซน์อาคารที่มีการตกแต่งสวยงามและแตกต่าง หมดความกังวลเรื่องของงานโครงสร้างที่ไม่ได้คุณภาพ

ขอขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก บริษัท Lifesbox Co.,Ltd.