เลือกหลอดไฟ LED ให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ปัจจุบันหลอดไฟ LED กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงและถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในบ้านพักที่อยู่อาศัยทั่วไป ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงแรม โรงพยาบาล สนามกีฬา ถนน สวนสาธารณะ หรือแม้แต่โรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากหลอดไฟ LED นั้นช่วยประหยัดพลังงานกว่าหลอดไปฮาโลเจนและฟลูออเรสเซนต์ และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า แต่เราจะมีวิธีการเลือกหลอดไฟ LED อย่างไร และอะไรคือสิ่งที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ ไปชมกันเลยครับ

1. เลือกหลอดไฟ LED ที่สว่างกว่าแต่กินไฟน้อยกว่า 

สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเลือกซื้อหลอดไฟคือ ยิ่งกำลังวัตต์มากแปลว่าหลอดไฟจะสว่างมากขึ้น จริงๆ แล้วความหมายของกำลังวัตต์ (W) ที่ถูกต้องคือ "กำลังไฟที่หลอดไฟใช้เพื่อให้แสงสว่าง" แปลว่ายิ่งวัตต์มากก็ยิ่งกินไฟมากนั่นเอง

คำถามที่ตามมาคือ ถ้าหลอดไฟใช้กำลังไฟมากก็ยิ่งสว่างมากขึ้นไม่ใช่หรือ คำตอบคือ ไม่เสมอไปครับ จริงๆ แล้วค่าความสว่างของหลอดไฟเราต้องดูจากค่า "ฟลักซ์ของความส่องสว่าง" ซึ่งมีหน่วยเป็นลูเมน (Lumen) ดังนั้นหากกำลังเปรียบเทียบหลอดไฟจากสองยี่ห้อที่มีฟลักซ์ของความส่องสว่าง (หน่วยเป็นลูเมน) เท่ากันแต่มีกำลังไฟที่หลอดไฟใช้เพื่อให้แสงสว่าง (หน่วยเป็นวัตต์) ต่างกัน ก็ให้เลือกหลอดที่มีวัตต์ต่ำกว่าครับเพราะสว่างเท่ากันแต่กินไฟน้อยกว่า 

2. เลนส์ประสิทธิภาพสูงและชิป LED ที่มีคุณภาพ

การเลือกใช้เลนส์ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้สามารถควบคุมทิศทางของแสงให้แสงสว่างส่องไปยังพื้นที่ที่เราต้องการได้ ลดการกระจุกตัวของแสงเฉพาะใต้โคมไฟ เช่น โคมไฟถนน LED รุ่น Series 3 แบรนด์ Box Bright ใช้เลนส์โพลีคาร์บอเนตที่มีมุม 2 มุม ในหนึ่งเลนส์ คือ 75x150 องศา ทำให้ได้มุมองศาของแสง (Beam Angle) กว้างเป็นพิเศษ และมีรูปทรงเหมาะสำหรับส่องสว่างถนนโดยเฉพาะ

ชิป LED ที่นำมาใช้งานควรผ่านมาตรฐาน TM-21 ที่อุณหภูมิ 32 องศา มีอายุการใช้งานมากกว่า 240,000 ชั่วโมง แบรนด์ Box Bright เลือกใช้ชิป LED คุณภาพสูงนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นแบรนด์ NICHIA ซึ่งผ่านมาตรฐานดังกล่าวจึงทำให้มั่นใจในคุณภาพและมีความเสถียรตลอดอายุการใช้งาน 

3. การออกแบบของโคมไฟที่ช่วยเพิ่มกระจายแสงและลดแสงจ้าแยงตา

สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกหลอดไฟคือ มีแสงสว่างที่มีคุณภาพไม่มัวหรือจ้าจนเกินไป ดังนั้นโคมไฟที่ดีจึงควรมีคุณสมบัติช่วยกระจายแสงจากหลอดไฟ ซึ่งจะทำให้ช่วยลดการใช้พลังงานได้เพราะเราสามารถเลือกใช้หลอดไฟที่มี "ค่าฟลักซ์ของความส่องสว่าง" และ "กำลังไฟที่หลอดไฟใช้เพื่อให้แสงสว่าง" ลดลงได้ในขณะที่ยังได้แสงสว่างที่เท่าเดิม

และแสงที่มีคุณภาพไม่ได้หมายถึงแค่ความสว่างแต่ต้องหมายถึงแสงที่ไม่แยงตาและไม่จ้าจนเกินไป องค์ประกอบที่ช่วยให้แสงมีคุณภาพมากขึ้น เช่น โคมไฟพาแนล LED รุ่น G6A แบรนด์ BOX BRIGHT ใช้แผ่นปิดหน้าเลนส์ Prismatic Cover ช่วยให้มีค่าพิกัดแสงจ้ารวม (Unified Glare Rating, UGR) น้อยกว่า 19 ซึ่งเหมาะสำหรับติดตั้งภายในห้องที่เกี่ยวข้องกับการใช้คอมพิวเตอร์ หรือ การอ่านหนังสือ เช่น ห้องอบรม, ห้องเรียน, ห้องประชุม, ออฟฟิศ

4. เลือกหลอดไฟ LED ที่มีระบบการระบายความร้อนที่ดีกว่า 

ความร้อนสะสมบนฝ้าเพดานโดยเฉพาะที่ตัวโคมไฟเป็นสาเหตุสำคัญทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ถูกทำลาย ส่งผลให้ปริมาณแสงสว่างจากโคมไฟลดลงเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะโคมไฟที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการเปิดใช้งานเกือบ 24 ชม. ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนมากของประเทศไทย ดังนั้นควรพิจารณาเลือกตัวโคมที่มีการออกแบบบอดี้ให้สามารถระบายความร้อนจากชิป LED ได้ดีซึ่งจะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดไฟ LED ได้

5. เลือกหลอด LED ที่ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพทั้งในประเทศและระดับสากล มาตรฐานที่สามารถนำมาพิจารณาในการเลือกใช้งานได้แก่

มาตรฐานมอก.1955-2551 (มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย) ซึ่งเป็นการรับรองว่าสินค้านั้นมีมาตรฐานในการผลิตถูกต้องเหมาะสม ปลอดภัยในการใช้งานไม่เกิดอันตราย

มาตรฐาน RoHS (Restriction of Hazardous Substances) เป็นข้อกำหนดของสหภาพยุโรป (EU) ว่าด้วยเรื่องของการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหมายความรวมถึงเครื่องใช้ทุกชนิดที่ต้องอาศัยไฟฟ้าในการทำงานจะต้องผ่านตามข้อกำหนดดังกล่าว ซึ่งสินค้าที่จะนำไปจัดจำหน่ายในประเทศแถบยุโรปต้องได้มาตรฐาน RoHs 

เครื่องหมาย CE (Conformity European) เป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ายืนยันว่าสินค้าเป็นไปตามมาตรฐานด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของยุโรป สินค้าที่จำหน่ายในเขตเศรษฐกิจยุโรปจำเป็นต้องมีเครื่องหมาย CE จึงจะวางขายได้

เครื่องหมาย GS (Geprüfte Sicherheit (Tested Safety) - TUV Rheinland) คือเครื่องหมายรับรองที่ใช้กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อเป็นเครื่องหมายว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ตรงตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ของประเทศเยอรมนีทุกประการ 

สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้

www.wazzadu.com/page/boxbright/contact

สอบถามข้อมูล และติดต่อสั่งซื้อได้ที่เบอร์ 093-505-2638​