ไม้อัดแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างไร
ในปัจจุบันไม้ที่นิยมนำมาใช้ในการตกแต่งภายในหรือนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน นั้นแบ่งเป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- ไม้ปาร์ติเกิ้ล (Particle Board)
- ไม้เอ็มดีเอฟ (MDF)
- ไม้เอชเอ็มอาร์ (HMR)
- ไม้เอชดีเอฟ (HDF)
- ไม้อัด (Ply Wood)
- ไม้โอเอสบี (OSB)
ไม้แต่ละประเภทนั้นมีกระบวนการผลิตและวัตถุดิบที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ไม้มีผิวสัมผัสที่ต่างกัน และมีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันไปด้วย สามารถนำไปปิดผิวด้วยวัสดุต่างๆ เช่น กระดาษ เมลามีน หรือแผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตที่มีลวดลายและผิวสัมผัสที่คล้ายไม้จริงมากๆ จึงอาจเป็นการยากในการสังเกตจากภายนอก วันนี้ Wazzadu.com จะพาไปชมคุณสมบัติเฉพาะตัวของไม้ดังกล่าวพร้อมทั้งวิธีการนำไปใช้งาน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านในการนำไปปรับใช้สำหรับการตกแต่งภายในหรือใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินกันครับ
ไม้ปาร์ติเกิ้ล (Particle Board)
กระบวนการผลิต
ไม้ปาร์ติเกิ้ลหรือในบางประเทศเรียกว่า ชิปบอร์ด (Chipboard) ผลิตโดยการนำเศษชิ้นไม้ หรือ แม้แต่ขี้เลื่อย มาประสานกันโดยสารเคมี และนำมาทำการบดอัดด้วยความดันสูง เนื้อไม้จะเหนียวแต่ไม่แน่น มีความเหนียวที่ได้จากเส้นใยที่ประสานกัน แต่เนื้อไม้ก็จะฟู หยาบ ไม่แน่นในเนื้อไม้จะมีโพรงอากาศเล็กๆ เป็นจำนวนมาก
คุณสมบัติของไม้ปาร์ติเกิ้ล
- ราคาถูก
- มีความหนาหลากหลายให้เลือกใช้
- น้ำหนักเบาที่สุดในบรรดาไม้ทดแทนธรรมชาติ ในขณะที่ความแข็งแรงของปาร์ติเกิ้ลบอร์ดจะน้อยกว่าไม้ชนิดอื่นๆ
- เนื้อไม้มีการขยายตัวได้ง่าย อายุการใช้งานสั้น หากติดตั้งบานพับเฟอร์นิเจอร์จะมีอายุการใช้งานน้อยกว่าไม้อัด
การนำไปใช้งาน
นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์ เนื่องจากราคาไม่สูง และ สามารถหาซื้อได้ง่าย
ไม้เอ็มดีเอฟ (MDF: Medium Density Fiber Board)
กระบวนการผลิต
ไม้เอ็มดีเอฟหรือไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง ผลิตโดยการนำชิ้นไม้มาสับและบดจนละเอียดแล้วนำมาผสมกับกาวชนิดพิเศษ จากนั้นนำไปผ่านกระบวนการอัดเป็นแผ่นด้วยเครื่องอัดคุณภาพสูง ไม้ที่นำมาใช้นั้นอาจจะเป็นไม้ยูคาลิปตัส ไม้ยางพารา หรือไม้ชนิดอื่นขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ผิวไม้ที่ได้มีความเรียบเนียน เนื้อแน่นไม่มีรูพรุน นิยมปิดผิวด้วยเมลามีน วีเนียร์ หรือแผ่นไฮเพรสเชอร์ ลามิเนต
คุณสมบัติของไม้เอ็มดีเอฟ
- ทำสีได้สวยงาม
- ผิวไม้มีความเรียบเนียน
- ตัดแต่ง เจาะ ไส บาก ได้ง่ายด้วยเครื่องมือช่างไม้ทั่วไปเนื่องจากเนื้อไม้มีความแน่นและละเอียด
- มีหลายความหนาให้เลือกใช้
- ไม่กันน้ำ หากโดนน้ำจะบวมพองได้
การนำไปใช้งาน
เหมาะสำหรับใช้ในการตกแต่งพื้นที่ภายในทั่วไป เช่น บิ้วท์หัวเตียง เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และส่วนตกแต่งอื่นๆ
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wazzadu.com/article/5052
ไม้เอชเอ็มอาร์ (HMR: HMR High Moisture Resistance Board)
กระบวนการผลิต
ไม้อัดทนความชื้น ผลิตโดยการนำชิ้นไม้มาสับและบดจนละเอียดแล้วอัดประสานด้วยกาวชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติทนความชื้น ทำให้สามารถใช้งานในบริเวณที่มีความชื้นสูงได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในบริเวณที่แช่น้ำหรือโดนน้ำโดยตรง ไม้มีสีเขียวเนื่องจากผสมสีเขียวไว้ในเนื้อไม้เพื่อให้แยกออกจากไม้เอ็มดีเอฟและเอชดีเอฟได้ง่าย นิยมนำไป CNC ทำสี หรือปิดผิวด้วยเมลามีน วีเนียร์ หรือแผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนต
คุณสมบัติของไม้เอชเอ็มอาร์
- สามารถทำสีได้สวยงาม จบงานได้ไว
- เนื้อในแน่นละเอียดไม่มีรูพรุนทำให้สามารถตัดแต่งได้ง่ายและทำการตอกยึดได้ดี
- มีความแข็งแรงสูง สามารถรับแรงได้มากกว่าไม้อัดทั่วไป
- สามารถนำไปฉลุลายหรือแกะสลักเป็นรูปสามมิติแบบนูนต่ำได้ด้วยเครื่อง CNC ได้ และสามารถเจาะ เซาะ ฉลุ ได้อย่างสวยคมไม่เป็นขุย
- ใช้งานในบริเวณที่มีความชื้นสูงได้ แต่ไม่สามารถใช้แช่น้ำ หรือโดนน้ำโดยตรงได้
การนำไปใช้งาน
สามารถใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ตู้เคาน์เตอร์อ่างล้างจาน ตู้ใต้อ่างล้างหน้า หรือใช้ทำชั้นวางของในห้องน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปฉลุลายเพื่อใช้ตกแต่งเป็นฉากกั้นห้อง ฝ้าเพดาน หรือตกแต่งส่วนอื่นๆ ได้
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wazzadu.com/article/5094
ไม้เอชดีเอฟ (HDF: High Density Fiber Board)
กระบวนการผลิต
ไม้เอชดีเอฟหรือไม้อัดความหนาแน่นสูง ผลิตโดยการนำชิ้นไม้มาสับและบดจนละเอียดแล้วอัดประสานด้วยกาวชนิดพิเศษที่มีประสิทธิภาพในการทนความชื้นได้สูง ไม้ HDF นั้นมีการเพิ่มเนื้อไม้ทำให้แผ่นบอร์ดเนื้อแน่นมากขึ้นส่งผลให้ไม้มีความแข็งแรงสูง เหมาะกับงานที่ต้องใช้รับแรงหรือทนการกระแทกได้ นิยมปิดผิวด้วยวีเนียร์หรือแผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนต
คุณสมบัติของไม้เอชดีเอฟ
- เนื้อในแน่นละเอียดไม่มีรูพรุน มีอัตราการหดและพองตัวต่ำจึงคงรูปได้ดี ไม่บิด โก่ง งอ และตอกยึดได้ดี
- มีความหนาแน่นสูงจึงใช้ในบริเวณที่มีแรงกระแทกได้
- ไม่สามารถใช้ในบริเวณที่โดนน้ำโดยตรงได้
- มีความหนาให้เลือกใช้จำกัด
- ไม้มีความแข็ง ทำให้ตัดยากต้องเปลี่ยนใบเลื่อยบ่อยขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้ใบเลื่อยชนิดพิเศษถ้าต้องการงานที่เรียบร้อยสวยงาม
การนำไปใช้งาน
เนื่องจากมีความหนาแน่นสูงจึงใช้ในบริเวณที่มีแรงกระแทกได้ เช่น ใช้เป็นผนังกั้นห้อง หรือใช้เป็นส่วนประกอบของบานประตู และ Core Board ของไม้พื้นลามิเนต
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wazzadu.com/article/5115
ไม้อัด (Ply Wood)
กระบวนการผลิต
ไม้อัดเกิดจากการฝานแผ่นไม้เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาอัดติดกันโดยใช้กาวเป็นตัวประสาน โดยการประสานของไม้อัดนั้นจะจัดวางไม้บางแต่ละแผ่นให้แนวเสี้ยนขวางตั้งฉากกัน เป็นการเพิ่มความแข็งแรงและลดการขยายตัวในระนาบแผ่นไม้ให้น้อยที่สุด ลวดลายของไม้ขึ้นอยู่กับแผ่นวีเนียร์ที่นำมาปิดทับที่ผิว เช่น ไม้สัก บีช แอช
คุณสมบัติของไม้อัด
- สามารถทำสีได้ หรือโชว์ลายไม้ได้เลย
- เนื้อแน่นมีอัตราการหดและพองตัวต่ำจึงคงรูปได้ดี ไม่บิด โก่ง งอ และตอกยึดได้ดี
- มีรุ่นกันน้ำให้เลือกใช้ แต่ราคาค่อนข้างสูง
- มีความแข็งแรง ใช้ทำโครงสร้างได้
- ไม่เหมาะในการนำมาฉลุลายเนื่องจากเป็นเนื้อไม้จริงที่ซ้อนกันเป็นเลเยอร์นั้นอาจเกิดรอยแตกบิ่นได้ง่าย
การนำไปใช้งาน
เหมาะสำหรับนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือบิ้วท์อิน โดยเฉพาะในบริเวณที่ต้องการโชว์เนื้อไม้ ในบางกรณีสามารถใช้ทำโครงสร้างได้
ในท้องตลาดนั้นมีไม้อัดยางที่ใช้สำหรับทำป้ายโฆษณา ฉากกั้น ทำพื้น ทำผนัง ทำพาเลท และทำชั้นวางของชั่วคราวแบบที่ไม่เน้นความสวยงาม ข้อจำกัดของไม้อัดยางทั่วไปคือมีลายให้เลือกน้อย และสวยไม่เท่าไม้อัดที่มีการปิดผิว อีกทั้งยังมีความหนาแน่นต่ำ จึงรับแรงและน้ำหนักได้น้อย ไม่เหมาะสมในการนำมาใช้ในงานตกแต่งภายใน
ไม้อัดโอเอสบี (OSB: Oriented Strand Board)
กระบวนการผลิต
นำชิ้นไม้ที่แบนบางและยาว วางสลับเสี้ยนขวางตั้งฉากกันอย่างน้อย 3 ชั้น จากนั้นใช้กาวชนิดพิเศษและเรซินเป็นส่วนผสมผ่านกระบวนอัดด้วยความร้อน และแรงดันสูง
คุณสมบัติของไม้โอเอสบี
- สวยงามดูเป็นธรรมชาติ มักใช้ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ไม่นิยมทำสี
- มีความแข็งแรง ทนทาน ตอก ยึด เจาะ ได้ง่าย
- การหดตัวและขยายตัวต่ำมากในทุกๆ สภาพแวดล้อม
- ตัดแต่งได้เหมือนไม้ทั่วไป แต่ไม่นิยมนำมาฉลุลายเนื่องจากเศษไม้จะหลุดร่วงและเห็นลายไม่ชัด
การนำไปใช้งาน
นิยมใช้ทำเป็น Sub roof สำหรับปู Shingle roof หรือใช้เป็นฝ้าและผนังที่เน้นโชว์ลายไม้ และสามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้แต่ต้องมีการเก็บขอบเป็นอย่างดีไม่ให้เหลือเสี้ยนไม้
สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้
www.wazzadu.com/page/agrofiber/contact
หรือติดต่อที่เบอร์ 038538347, 0858352241
-
9 mm HMR E2 เอชเอ็มอาร์ (แผ่นใยไม้อัดทนความชื้น) High Moisture Resistance board
วัสดุแผ่น ไม้อัด
465 บาท/แผ่น
Online -
25 mm HMR E2 เอชเอ็มอาร์ (แผ่นใยไม้อัดทนความชื้น) High Moisture Resistance board
วัสดุแผ่น ไม้อัด
1,125 บาท/แผ่น
Online -
15 mm HMR E2 เอชเอ็มอาร์ (แผ่นใยไม้อัดทนความชื้น) High Moisture Resistance board
วัสดุแผ่น ไม้อัด
690 บาท/แผ่น
Online -
6 mm HMR E2 เอชเอ็มอาร์ (แผ่นใยไม้อัดทนความชื้น) High Moisture Resistance board
วัสดุแผ่น ไม้อัด
335 บาท/แผ่น
Online -
4 mm HMR E2 เอชเอ็มอาร์ (แผ่นใยไม้อัดทนความชื้น) High Moisture Resistance board
วัสดุแผ่น ไม้อัด
265 บาท/แผ่น
Online -
18 mm HMR E2 เอชเอ็มอาร์ (แผ่นใยไม้อัดทนความชื้น) High Moisture Resistance board
วัสดุแผ่น ไม้อัด
815 บาท/แผ่น
Online -
12 mm HMR E2 เอชเอ็มอาร์ (แผ่นใยไม้อัดทนความชื้น) High Moisture Resistance board
วัสดุแผ่น ไม้อัด
570 บาท/แผ่น
Online
ผู้เขียนบทความ
บริษัท อะโกร ไฟเบอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิต MDF และ Pallet เพื่อจำหน่ายให้กับตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ บริษัทตระหนักดีถึงบทบาทและความรับผิดชอบในฐานะองค์กรที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เราจึงใช้วัตถุดิบป่าปลูกจากเกษตรกรกว่าล้านครัวเรือนทั่วประเทศ แทนการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ และระบบบำบัดน้ำเสียที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ตลอดจนดำเนินการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและมีผลกระทบน้อยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อม
อะโกรไฟเบอร์ มุ่งสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้า เราเน้นการทำงานเป็นทีม มีประสิทธิภาพสูง และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยทุกผลิตภัณฑ์ของ อะโกรไฟเบอร์ จะผลิตจากความตั้งใจ ที่จะมอบ “คุณค่า” ที่ดีที่สุดจากเราสู่ลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคนทั่วโลก และ เราพร้อมเสมอที่จะดูแลและให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนของการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้เราและลูกค้าเติบโตไปพร้อมกัน จากธุรกิจต้นน้ำที่มั่งคงและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อะโกรไฟเบอร์ พร้อมส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าคนสำคัญของเรา ... อ่านเพิ่มเติม