ใครๆ ก็ทำได้! รวมวิธีลดความร้อนให้บ้านง่ายๆ แบบไม่เปลืองแอร์

หากพูดถึง การลดความร้อนในบ้าน หลายคนอาจยังนึกไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรหากไม่เปิดแอร์ ทั้งที่ความจริงแล้วมีหลากหลายวิธีในการลดความร้อนนอกจากการเปิดแอร์ ที่ไม่เพียงทำให้เปลืองพลังงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้ค่าไฟในบ้านบานปลายขึ้นอีกด้วย

ซึ่งความร้อนในบ้าน ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากหลังคาและผนังบ้านนั่นเอง แม้ว่าหลังคาจะสามารถกันแดดได้ แต่ก็ยังมีความร้อนส่องผ่านจากหลังคาเข้ามาในตัวบ้าน ส่วนผนังบ้านก็จะกักเก็บความร้อนเอาไว้ และปล่อยความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้บ้านร้อนอบอ้าวนั่นเอง วันนี้เราจึงนำวิธีลดความร้อนในบ้านมาฝากกัน ซึ่งทำได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. ซ่อมแซมจุดแตกร้าว ที่อาจเป็นตัวเพิ่มอุณหภูมิภายในบ้าน 

เนื่องจากจุดแตกร้าวเหล่านั้น เป็นสาเหตุทำให้ความร้อนส่องผ่านเข้ามาภายในตัวบ้านได้มากขึ้น นอกจากนี้ บานประตู หน้าต่าง หรือผนังที่มีรอยร้าว หรือปิดไม่สนิทก็ส่งผลให้แสงแดดและความร้อนลอดผ่านเข้ามาได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่กลับมีประตูหน้าต่างชำรุด หรือมีรอยร้าว ยิ่งทำให้แอร์ถูกระบายออกไปด้านนอก นอกจากจะทำให้อากาศร้อนขึ้นแล้ว ยังทำให้เปลืองค่าไฟมากขึ้นอีกด้วย

2. การติดฟิล์มลดความร้อน

การติดฟิล์มกรองแสงลดความร้อนภายในบ้าน เป็นตัวช่วยที่ได้ผลดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากฟิล์มลดความร้อน ถูกออกแบบมาเพื่อให้รับมือกับแสงแดดและความร้อนโดยตรง ช่วยปกป้องทั้งอันตรายจากรังสียูวีและรังสีอินฟราเรด สาเหตุของความร้อน   

เราจึงขอแนะนำ ฟิล์มติดอาคารจากแบรนด์ Smart Tec และ SunGard ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่

- รุ่น Emperor รหัส SM-C 0580 BK N ระดับความเข้ม 80% เป็นฟิล์มที่ช่วยลดความร้อนและแสงสว่างที่จะส่องผ่านเข้ามาภายในอาคารได้ดี โดยมีค่าแสงส่องผ่าน 3%, ค่าการสะท้อนแสง 10%, ค่าการลดรังสียูวี 99% และค่าสัมประสิทธิ์การส่องผ่านความร้อนจากรังสีอาทิตย์ (SHGC) 0.4 ผ่านเกณฑ์ฟิล์มกรองแสงประหยัดพลังงานเบอร์ 5

- รุ่น Nano Ceramic รหัส CM 20 ระดับความเข้ม 60% เป็นฟิล์มที่สามารถลดความร้อนได้ดี โดยมีค่าการสะท้อนแสงต่ำ ยอมให้แสงสว่างส่องผ่านเข้าไปได้ระดับหนึ่ง สามารถลดรังสีอินฟราเรดซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความร้อนได้มากถึง 80% โดยมีค่าแสงส่องผ่าน 22.3%, ค่าการสะท้อนแสง 5%, ค่าการป้องกันรังสียูวี 99% ค่าสัมประสิทธิ์การส่องผ่านความร้อนจากรังสีอาทิตย์ (SHGC) 0.41 ซึ่งได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากกระทรวงพลังงาน และค่าการลดความร้อนรวม (TSER) 59% โดยตรวจวัดตามมาตรฐาน ISO 9050:2003 และมีเอกสารรับรองการตรวจวัดจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

- รุ่น Optivision รหัส OS 05 ระดับความเข้ม 80% สามารถลดความร้อนและลดแสงสว่างที่เข้ามาภายในตัวอาคารได้ดี โดยมีค่าแสงส่องผ่านเพียง 9.9%, ค่าการสะท้อนแสง 43.7%, ค่าการลดรังสียูวี 99%, ค่าสัมประสิทธิ์การส่องผ่านความร้อนจากรังสีอาทิตย์ (SHGC) 0.2 ซึ่งได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากกระทรวงพลังงาน และค่าการลดความร้อนรวม (TSER) 80% โดยตรวจวัดตามมาตรฐาน ISO 9050:2003 และมีเอกสารรับรองการตรวจวัดจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

3. เลือกใช้พัดลมเพดาน

การติดตั้งพัดลมเพดาน ควรเลือกขนาดและการหมุนของใบพัดให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง ซึ่งในฤดูร้อน ควรให้ใบพัดดูดอากาศขึ้นสู่เพดาน เพื่อลดความร้อนภายในห้อง ส่วนฤดูอื่นๆ ควรให้ใบพัดกดอากาศร้อนไว้ด้านล่าง และค่อยๆ กระจายความร้อนออกสู่ภายนอก

4. เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้เหมาะสม

สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้นอกบ้าน รวมทั้งหากมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ก็ควรเปิดห้องให้โล่งเพื่อระบายความร้อนออกนอกบ้าน นอกจากนี้ หลอดไฟที่ใช้ก็ควรเป็นหลอดตะเกียบ หรือหลอด LED ซึ่งให้ความร้อนน้อยกว่า ใช้งานได้นานกว่า และใช้พลังงานน้อยกว่า

5. ติดตั้งกันสาดเพื่อเพิ่มร่มเงา

การติดตั้งกันสาด ก็ช่วยลดความร้อนได้เช่นกัน หากบริเวณระเบียงมีเพียงฝ้าชายคา แต่ไม่มีกันสาด อาจทำให้แสงแดดส่องผ่านเข้ามาภายในบ้านได้โดยตรง โดยเฉพาะกับห้องที่อยู่ในทิศรับแสงแดดในช่วงบ่าย ยิ่งทำให้อากาศภายในร้อนขึ้นไปอีก การติดกันสาด จะช่วยบังแดด ลดความร้อน และสร้างร่มเงาให้กับบ้านได้อีกทาง โดยสีสัน และดีไซน์ของกันสาด หากเลือกให้เหมาะกับดีไซน์ของบ้าน ก็ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้อีกด้วย

และนี่ก็คือวิธีลดความร้อนให้บ้าน วิธีง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้

ตัวอย่างสินค้าเทียบเคียง

ติดต่อสอบถาม และกรอกข้อมูล Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้ 

www.wazzadu.com/page/smarttec/contact

#Wazzadu #Smarttec #ฟิล์มตกแต่งภายใน #ฟิล์มลดความร้อน #ฟิล์มอาคาร #ฟิล์มสมาร์ทเทค #ฟิล์มกันความร้อน #ฟิล์มติดอาคาร #ฟิล์มSunGard #ฟิล์มSmarttec #ฟิล์มติดบ้าน #ฟิล์มกรองแสง #ฟิล์มลดความร้อนในบ้าน